May 3, 2024   4:14:51 PM ICT
ลุ้นดัชนีรีบาวด์ระยะสั้น สอยหุ้นแกร่ง‘PTTEP’
ทันหุ้น – โบรกเจาะกรอบดัชนีหุ้นไทยรอบสัปดาห์มีลุ้นรีบาวด์ 585 จุด โดยมองแนวรับที่ 560 จุด ชี้ราคาน้ำมันและผลงานไตรมาส 2 ของสหรัฐยังกดดันจิตวิทยาการลงทุน คาด กนง.ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.25% แนะกลยุทธ์สอยหุ้นเด็ดพื้นฐานแจ่มราคารูดต่ำพื้นฐานอย่าง PTTEP ที่แนวรับ 115 บาท พ่วงหุ้นปันผลเด่น SPALI -MODERN –MCOT-MCS ตลอดจนหุ้นความเสี่ยงต่ำอย่าง ADVANC-DTAC และ BIGC 


 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดสุดสัปดาห์ (10 ก.ค.52) ที่ระดับ 566.03 จุด ลดลง 15.96 จุด หรือปรับลดลง 2.74% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 15,838.71 ล้านบาท โดยการซื้อขายระหว่างวันดัชนีตลาดเคลื่อนไหวในแดนลบตั้งแต่เริ่มทำการซื้อขายจนกระทั่งปิดทำการ 


 นายสุกิจ  อุดมศิริกุล  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สถาบันวิจัยนครหลวงไทย จำกัด หรือ SCRI กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบลงทุนแนวรับ 560 จุดและแนวต้าน 585 จุด โดยประเมินว่าราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงจากความกังวลในเรื่องการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งส่งผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงานยังเป็นปัจจัยกดดัชนีตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้คาดว่าในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวลงมาอยู่ระดับ 55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล
 สำหรับปัจจัยการลงทุนในต่างประเทศสัปดาห์นี้ที่ต้องจับตายังคงเป็นเรื่องของผลประกอบการไตรมาส 2/2552 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐซึ่งคาดว่าจะทยอยออกมาว่าออกมาดีหรือแย่กว่าที่คาดหรือไม่ และนอกจากนี้มียอดตัวเลขขายบ้านในสหรัฐที่ต้องจับตา
กนง.ตรึงดอกเบี้ย


 ขณะที่ปัจจัยการลงทุนในประเทศสัปดาห์นี้เป็นการประชุม กนง. เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าอาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% สำหรับปัจจัยลบยังคงเป็นปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งหากยังควบคุมไม่ได้จะส่งผลในระยะสั้นต่อธุรกิจท่องเที่ยว ตลอดจนธุรกิจโรงภาพยนต์และห้างสรรพสินค้าที่จะเริ่มมีความเสี่ยงมากขึ้น  ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ


     สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ในสัปดาห์นี้แนะนำสะสมหุ้นกลุ่มพลังงานในหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP ซึ่งมีการปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากโดยให้แนะนำทยอยสะสมที่แนวรับราคา 115 บาท นอกจากนี้แนะนำลงทุนในหุ้นที่มีอัตราเงินปันผลสูงอาทิ SPALI ,MODERN ,MCOT และ MCS


 นายเตชธร ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นปัจจัยราคาน้ำมันตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวลง อย่างไรก็ดีหากราคาน้ำมันสามารถดีดตัวไปที่ 62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลน่าจะส่งผลต่อการรีบาวน์ระยะสั้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน 


     นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตา คือในวันที่14 ก.ค.นี้ที่ประชุมครม.จะพิจารณาขยายอายุ 5 มาตรการ 6 เดือนซึ่งจะครบกำหนดสิ้นเดือนนี้ และวันที่15 ก.ค.นี้ในเรื่องของการกำหนดประชุมกนง.ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และปัจจัยที่ยังต้องจับตาต่อไปคือวันที่ 23 ก.ค.นี้จะเป็นวันครบกำหนดที่กกต.จะวินิจฉัยสมาชิกภาพสส.ที่ถือหุ้นสัมปทานรัฐซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ
เข้าชม: 1,472

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com