May 3, 2024   11:16:19 AM ICT
ครึ่งหลังหุ้นอิเล็กฯฟื้นแน่ ธปท.ชี้ทางเศรษฐกิจเริ่มดี
ทันหุ้น-ครึ่งปีหลังเศรษฐภาคการผลิตเริ่มขยัยตัว หลังแช่แข็งมากว่าครึ่งปี สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด มองอิเล็กทรอนิกส์ได้อานิสงส์ระยะสั้น เชื่อทั้งปีจีดีพี -3% ส่วนปีหน้าพลิกเป็นบวก 1.5% สอดคล้องแบงก์ชาติ กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.25% เหตุเศรษฐกิจเริ่มสวย ด้านโบรกเกอร์คาดหุ้นไทยพุ่งแรงต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวชัด แต่ได้อานิสงส์น้ำมันแพงดันหุ้นพลังงานเด้งนำตลาด มองดัชนีพรุ่งนี้ในกรอบ 580-590 จุด


     นางสาวอุสรา วิไลพิชญ์ นัก  เศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น แม้ว่าช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นจากครึ่งปีแรก เนื่องจากภาคการผลิตจะเริ่มมีการผลิตใหม่ หลังจากที่ครึ่งปีแรกภาคการผลิตส่วนใหญ่ชะลอการผลิต เพื่อรอดูทิศทางเศรษฐกิจ และระหว่างนั้นก็ได้ระบายสินค้าคงคลังที่มีอยู่ออกไปจนหมด จึงต้องมีการผลิตใหม่เกิดขึ้น


     อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะยังไม่ยั่งยืน เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้าจะยังมีความน่าเป็นห่วงในครึ่งปีหลัง ตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานธิบดีโอบามา ที่เริ่มแสดงความเป็นห่วงหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐก็อยู่ระดับ 0-0.25% แล้ว ซึ่งไม่สามารถลดต่ำกว่านี้ได้แล้ว ดังนั้นเมื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลลดลงความไม่แน่นอนจึงเริ่มมีมากขึ้น


     สำหรับเศรษฐกิจประเทศไทยนั้นคาดว่าครึงปีหลังจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยจะเป็นลักษณะการติดลบน้อยลง โดยธนาคารประเมินว่าทั้งปีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย จะอยูที่ -3.5% ส่วนปี 2553 จะบวก 1.5% ซึ่งเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสแรกไปแล้ว


     ทั้งนี้ภาคอุตสาหกรรมที่จะฟื้นตัวได้ก่อนอุตสาหกรรมอื่นนั้น มองว่าในระยะสั้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะได้รับปัจจัยบวกจากกำลังการผลิตในครึ่งปีหลังที่ฟื้นชั่วคราว เพื่อชดเชยสินค้าคงคลังที่หมดไป แต่ในระยะยาวอาจจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง


     สำหรับอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ยังมองว่าภาคการบริโภคในประเทศ จะฟื้นตัวได้ดี แม้ว่าจะไม่เป็นอัตราสูงอย่างที่ผ่านมา
     นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)พิจารณาคงอัตราตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25% โดยประเมินจากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไป


     อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจโลกและสถานการณ์การเงินระหว่างประเทศค่อย ๆ ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นบ้างเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อน โดยอัตราการหดตัวทางเศรษฐกิจเริ่มลดลง แต่ก็ยังมีความเปราะบางอยู่บ้าง นอกจากนั้น นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและนโยบายกระตุ้นทางการคลังในหลายประเทศจะช่วยเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกต่อไป


      สำหรับขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นหากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่องและแรงกระตุ้นจากนโยบายการคลังเริ่มส่งผลมากขึ้น ประกอบกับนโยบายการเงินในปัจจุบันยังคงผ่อนคลายซึ่งจะสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายใต้สภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ
เข้าชม: 1,472

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com