ทันหุ้น- กลุ่มรับเหมาหน้าบาน นักลงทุนแดนมังกรใจใหญ่ หนุนเงินทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า ด้านบิ๊กคมนาคม“โสภณ ซารัมย์”รับลูกพร้อมสนับสนุนรองรับการลงทุนระหว่างไทย-จีน เชื่อส่งผลบวกต่อการลงทุนในประเทศอื้อซ่า ส่วน CK-SEAFCO เชื่อรัฐเอื้อเอกชนลงทุนพีพีพี เป็นร้อยละ 10 % จากเดิมร้อยละ 2% เห็นโอกาสรถไฟฟ้าเคลื่อนขบวนได้แน่นอน
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม เปิดเผยถึง กรณีที่นักธุรกิจจีนเข้ามาร่วมลงทุนกับประเทศไทย และสนับสนุนเงินทุนในการโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ระบบรถไฟฟ้าในประเทศนั้น เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยส่งเสริมภาคการลงทุนในประเทศไทยให้มีการขับเคลื่อนโดยเร็ว ซึ่งประเทศไทยก็มีความพร้อมในการรองรับนักลงทุนจากประเทศจีนในทุกด้านที่เป็นประโยชน์ระหว่าง 2 ประเทศ
ขณะเดียวกันประเทศจีนยังเป็นประเทศที่มีความพร้อมในการสนับสนุนเงินทุนในด้านต่างๆ เพราะเป็นประเทศที่มีการเติบโตสูง และมีความสัมพันธอันดีกับประเทศไทยมาอย่างดีตลอด
ทั้งนี้เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเป็นโครงการการลงทุนต่างๆ เช่นรถไฟฟ้า ที่ร่วมมือกันระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนเกิดขึ้นแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ทุกประเทศมีความจำเป็นในการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ต้องเร่งผลักดันโครงการต่างๆให้เกิดขึ้นโดยเร็วโดยเฉพาะโครงการปฏิบัติไทยเข้มแข็ง 2552
“ผมคิดว่าเราน่าจะเห็นความร่วมมือระหว่างจีนกับไทยได้ภายในปีนี้แน่นอน ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเองก็ไม่มีอะไรที่ขัดข้องเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ เราก็พร้อมรองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้น โดยเบื้องต้นเชื่อว่าสิ่งแรกที่ประเทศจีนน่าจะสนับสนุนคือโครงสร้างพื้นฐาน ระบบรถไฟฟ้า เพราะที่ผ่านมาจีนก็เห็นด้วยกับไทยมาตลอด และรถไฟฟ้าก็จำเป็นต้องใช้เงินทุนมาก ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มีความพร้อมมากที่สุด”นายโสภณกล่าว
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การประชุมสัมมนา Thai-Chinese Business Forum2009 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 ก.ค. 2552 ประจำปีของสมาชิกสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลกนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะนำผู้ประกอบการไทยไปเจรจาเพื่อจับคู่กับนักธุรกิจจีน โดยวางเป้าหมายจะผลักดันจีนเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท ภายในปี 53
โดยเฉพาะใน 15 อุตสาหกรรมที่จีนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน, เกษตรแปรรูป, อิเล็กทรอนิกส์, การท่องเที่ยว, เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ และพลังงานทดแทน และในการสัมมนานักธุรกิจจีนจะมีนายหลิวหยงเห่า เจ้าของธุรกิจ 400 กิจการ ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในจีน มูลค่าสินทรัพย์รวม 1.5 ล้านล้านบาท เข้าร่วมเจรจาเพื่อให้บริษัทลูกเข้ามาจับคู่กับเอสเอ็มอีไทยด้วย
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นจีนประเมินว่าไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในอาเซียน รวมถึงมีระบบโลจิสติกส์ที่ดีและส่งสินค้าไปขายในจีนได้สะดวก ขณะเดียวกันคาดว่าการมาลงทุนของจีนครั้งนี้น่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวไทยปีละ 4 ล้านคน
| เข้าชม: 1,385 |
|