April 30, 2024   2:57:26 AM ICT
ถึงรอบซื้อหุ้นกลุ่มอิเล็ก จับตาSPPTเพชรในตม
ทันหุ้น-กลุ่มอิเล็กวิ่งฉิวยกแผง เก็งผลงานไตรมาส 2/2552 สดใสจากไตรมาสแรก ผู้บริหาร SPPT “ประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์”โชว์ลีลาเด็ดพลิกQ2มีกำไรจากไตรมาสแรกที่ขาดทุน 25 ล้านบาท ฟุ้งออเดอร์ล้นหลาม ลุ้นปันผลครึ่งแรกกระฉูด ด้าน CCET ไม่น้อยหน้าหอบมาร์จิ้นเข้ากระเป๋าสูงกว่า 103 ล้านบาท ลั่นทั้งปีรายได้โต 1.23 แสนล้านบาท


 นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) SPPT เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาปิดงบไตรมาส 2/2552 โดยเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากจากไตรมาสแรก ซึ่งมีผลขาดทุนกว่า 25 ล้านบาท เนื่องจากมีความสั่งซื้อสินค้าเข้ามาจำนวนมากกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิส เช่นอุปกรณ์กล้อง เป็นต้น 


 ทั้งนี้ส่งผลให้บริษัทได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มสินดังกล่าวมาเป็น 90%จากไตรมาสแรกที่ใช้ 45% ขณะที่กลุ่มสินค้าฮาร์ดดิส ได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตมาอยู่ที่ 80%จากเดิมที่ใช้ 55% โดยคาดว่ากำลังการผลิตจะปรับเพิ่มขึ้นเต็ม 100%ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่กำลังเข้ามา 


 “ไตรมาส 3-4 จะเป็นไฮซีซั่นอยู่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าออเดอร์จะฟื้นตัวเต็มที่ โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิส ซึ่งในเร็วๆนี้เราน่าจะมีข่าวดีจากการเจรจาลูกค้ารายใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20%ด้วย โดยตอนนี้มีคืบหน้าในการคุยกว่า 90%” นายประพจน์กล่าว


 นายประพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากการเจรจาประสบความสำเร็จ บริษัทจะต้องมีการขขายกำลังการผลิตสินค้าไม่ฮาร์ดดิสเพิ่มขึ้นตามออเดอร์ใหม่ แต่เบื้องต้นลูกค้าจะเป็นผู้ติดตั้งเครื่องจักรใหม่เอง เพราะมีแผนจะย้ายฐานการผลิตจากประเทศญี่ปุ่นมาไทยอยู่แล้ว โดยบริษัทได้เตรียมพื้นที่เพื่อรองรับประมาณ 1,000 ตรม.โดยคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในปลายไตรมาส 3/2552 นี้


 “ปีนี้เราก็คิดว่ายอดขายจะลดลงจากปีก่อนประมาณ 10-15%จากที่ทำได้ 862 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 62.16 ล้านบาท แม้ไตรมาส 2 และครึ่งปีหลังจะเป็นไฮซีซั่น แต่เพราะผลกระทบจากไตรมาสแรกรุนแรงมาก” นายประพจน์กล่าว


 นอกจากนี้ ในการประชุมวันที่ 13 สิงหาคม บริษัทจะมีการพิจารณาแนวโน้มการจ่ายปันผลด้วย โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40%ของกำไรสุทธิ และกำหนดจ่ายปีละ 2 ครั้ง แต่ที่ผ่านมาจะจ่ายในอัตราไม่ต่ำกว่า 70% ซึ่งคาดว่าปีนี้ก็จะทำได้ เนื่องจากมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี มี D/E ต่ำ 0.34 เท่า ขณะที่อัตรากำไรก่อนหักภาษี (EBITDA) ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท แต่จะขึ้นอยู่กับมติคณะกรรมการ 


CCETฟุ้งกำไรQ2พุ่ง
 แหล่งข่าวจาก บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) CCET กล่าวว่า คาดในไตรมาส 2/2552 น่าจะมีกำไรสุทธิดีกว่าไตรมาส 1/2552 ที่ทำได้ 103 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายปรับเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยสต็อกสินค้าคงคลังของอุตสาหกรรมที่ปรับลดลง ซึ่งคาดว่าอุตสากรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์น่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 1/2552 ที่ผ่านมา


 อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เริ่มฟื้นตัวขึ้น และผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะแบ่งเป็น ในประเทศ 25% ต่างประเทศ 75% ซึ่งกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง บริษัทคงเน้นรักษา และควบคุมบริหารจัดการด้านต้นทุน รวมถึงพยายามหาลูกค้ารายใหม่ๆเพิ่มขึ้นด้วย
เข้าชม: 1,928

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com