ทันหุ้น-กลุ่มเหล็กเฮรับข่าวดี SSI,MILL,TSTH,GSTEEL,BSBM เตรียมกระเป๋าตุง รัฐเปิดทางเสรีการค้าประเทศอาเซียนหนุนออเดอร์ไหลเข้าไทยทะลัก ด้านบิ๊ก MILL เล็งรับทรัพย์อื้อ ได้อนิสงส์ส่งออกเหล็กเพิ่ม ดันราคาเหล็กพุ่งเกินกก.ละ 20 บาท เริ่มมีหวังดันรายได้ปีนี้ทะลุ 1 หมื่นล้าน ด้านเซียนหุ้นแนะเก็งกำไรเหล็กยกแพง เชื่อเปิดเสรีอาเซียน หนุนอุตสาหกรรมเหล็กไทยผงาด
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในอนาคตประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ตลาดของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(ASEAN Economic Community:AEC) อย่างสมบูรณ์แบบ หรือรวมตัวเป็นฐานการผลิตเดียวกัน(single market) ซึ่งช่วยให้ประเทศสมาชิกสามารถเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิตต่างๆ ได้เสมือนอยู่ในประเทศเดียวกัน โดยสามารถใช้ทรัพยากร วัตถุดิบ และแรงงานในการผลิตสินค้าที่ปราศจากอุปสรรคทั้งมาตรการกีดกันเรื่องภาษีและไม่ใช่เรื่องภาษี
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้ประกอบการของไทยต้องเร่งปรับตัวทั้งเชิงรุกและเชิงรับ โดยเชิงรุกต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการสร้างแบรนด์ สร้างมูลค่าเพิ่ม ใช้กลยุทธ์เชิงรุกเจาะตลาด พัฒนาและผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด เพื่อพัฒนาเพื่อศึกษาหาโอกาสทางธุรกิจ
นางสาวสุทธิรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการ บริษัท มิลล์ คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด(มหาชน)MILLเปิดเผยว่า เชื่อว่า การที่รัฐบาลผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่ประเทศอาเซียน น่าจะทำให้การเปิดเสรีทางการค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมเหล็กที่มีโอกาสเติบโต และขยายกิจการในประเทศอาเซียนมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวัน เชื่อว่า จากนโยบายดังกล่าวถือเป็นทิศทางที่ดี ที่จะส่งเสริมด้านยอดขายของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทยให้ส่งออกมายิ่งขึ้น จากความต้องการของประเทศอาเซียน ขณะเดียวกันสัดส่วนในการผลิตเหล็กของบริษัทไปต่างประเทศขณะนี้ อยู่ที่ 10 % ของยอดขายทั้งปีที่บริษัทส่งออก โดยคาดว่าหากมีความต้องการสินค้าจากประเทศอาเซียนในการเปิดเสรีทางการค้า ยอดขายของบริษัทในการส่งออกน่าจะทะลุ 10 %ของยอดขายที่ทำได้
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวราคาเหล็กในปัจจุบันอยู่ที่ 19-20 บาทต่อกิโลกรัมสำหรับราคาเหล็กเส้น และแผ่น โดยการเคลื่อนไหวของราคาเหล็กถือว่าขยับเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกที่ราคาเหล็กทรงตัวอยู่ที่ 18 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะเดียวกันราคาเหล็กมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง จากกระแสข่าวว่าประเทศจีนน่าจะมีการชะลอการส่งออกไปประเทศต่างๆมากขึ้น หลังจากเตรียมก่อสร้างครั้งใหญ่ในประเทศจีนที่จำเป็นต้องใช้ทรัพย์ยากรค่อนข้างมาก ดังนั้นเชื่อว่าข่าวดังกล่าวน่าจะเป็นผลดีทั้งในแง่ของราคาเหล็กที่คาดว่าน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และน่าจะมีความต้องการเหล็กผ่านอุตสาหกรรมเหล็กในเมืองไทยมากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ คาดการณ์ว่าในส่วนของรายได้น่าจะทำได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิน่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีกำไรสุทธิ 357 ล้านบาท โดยเชื่อว่าหากสถานการณ์ต่างๆเข้าสู่ภาวะปกติทั้งการผันผวนของราคาเหล็ก และความต้องการเหล็กเพิ่มมากขึ้น จากข่าวข้างต้นมีโอกาสที่บริษัทจะทำรายได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ได้
ด้านนางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ไซรัส เปิดเผยว่า เชื่อว่าข่าวข้างต้นน่าจะมีผลในเชิงบวกที่มีผลต่อผู้ประกอบการไทย เช่น GSTEEL, SSI, BSBM, MILL ให้ได้รับอนิสงส์จากประเด็นดังกล่าว จากความต้องการจากประเทศอาเซียนมากขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่เทศไทยจะขยายตลาดไปสู่ประเทศอาเซีย โดยแนะนำ เก็งกำไรกลุ่มเหล็ก เช่น GSTEEL, SSI, BSBM, TSTH,MIL
| เข้าชม: 2,100 |
|