หุ้นไทยแรงไม่เลิก สัปดาห์นี้มีแววพุ่งหาแนวต้าน 680 จุด โบรกแนะสื่อสารยังโดดเด่นนำตลาดต่อเนื่อง อานิสงส์ 3จี ยังไม่ซา แนะจับตาข่าวสหรัฐประกาศขายพันธบัตรอาจกระทบหุ้น เหตุเป็นตัวการทำเงินไหลออก ส่วนปัจจัยในประเทศลุ้นสภาสูงผ่านร่างงบฯปี 2553 วงเงิน 1.7 ล้านล้านบาท
นายคมสันต์ ปรมาภูติ รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ( 7 กันยายน 2552) น่าจะยังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องประเมินแนวต้านไว้ที่ 680 จุด และประเมินแนวรับที่ 664 จุด โดยต้องติดตามตัวเลขการว่างงานของสหรัฐ ทั้งนี้ยังแนะนำเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มสื่อสาร ที่จะยังเป็นตัวนำตลาดต่อจากสัปดาห์ที่แล้วจากประเด็นข่าว 3จี
โดยวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 กันยายน 2552) โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.84 จุด หรือ 0.43%โดยดัชนีหุ้นปิดตลาดอยู่ที่ 668.41 จุด โดยดัชนีสูงสุดของวันอยู่ที่ 673.50 จุด มูลค่าการซื้อขายตลอดทั้งวันอยู่ที่ 30,257.99 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 54.75 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,439.76 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,494.51 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ดัชนีหุ้นอยู่ในแดนบวก ขณะที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ก็ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าตลาดบ้านเรามีแรงส่งที่ดัชนีหุ้นจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อไปได้
นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีน โดยในส่วนของจีนได้ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ให้นักลงทุนต่างชาติสามารถที่จะขยายธุรกิจได้ ส่วนการลงทุนก็ขยายวงเงินการลงทุนของสถาบันจาก 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับแนวโน้มของดัชนีหุ้นในสัปดาห์นี้ มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไร โดยเริ่มพบว่าดัชนีหุ้นไทยมีความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นปรับเพิ่มขึ้นแรง โดยนักลงทุนควรติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมถึงการเสนอขายพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐ โดยที่ผ่านมาหากมีการเสนอขายพันธบัตรดังกล่าวจะเห็นการโยกย้ายเงินออกจากตลาดหุ้น แต่เชื่อว่าอาจจะเป็นผลระยะสั้นเท่านั้น
ส่วนปัจจัยภายในประเทศนั้น นักลงทุนควรติดตามการประชุมสมาชิกวุฒิสภาในการพิจารณาผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 วงเงิน 1.7 ล้านล้าน ในวันที่ 11-14 กันยายนนี้ นอกจากนี้ ในวันที่ 9 กันยายน 2552 จะมีการเปิดเผยรายละเอียดหลักเกณฑ์การประมูลใบอนุญาต 3G ซึ่งจะมีผลบวกต่อราคาหุ้นในกลุ่มสื่อสาร
| | เข้าชม: 1,513 |
|
