ทันหุ้น-ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เรียงหน้าปรับตัวขึ้นยกก๊วนแต่ที่โดดเด่นน่าจับตาไม่พ้น LALIN กูรูชี้ธุรกิจหลังฟ้าเปิดสวยสดใสและอยู่ระหว่างศึกษาเปิดโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการหลังไตรมาส 2/2552 เปิดโครงการ Lanceo ยอดขายกระฉูดกว่า 150 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าบุ๊กแวร์ลูที่ 4.23 บาท กรอบเก็งกำไร แนวรับ 1.90 บาท แนวต้านแรก ต้าน 1.94 บาทและหากทะลุจะเจอแนวต้าน 2.00 บาท
ผู้สื่อข่าวรายานว่าวานนี้(16ก.ย)ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นยกกลุ่มแต่หุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นคือบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) LALIN โดยราคามาปิดที่ 1.92 บาทเพิ่มขึ้น 0.18 บาท เปลี่ยนแปลง 10.34% มูลค่าการซื้อขาย 39.81 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาในการเปิดโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการหลังจากที่ไตรมาส 2/2552 เปิดมาแล้วจำนวน 1 โครงการคือโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด Lanceo วงแหวน-ปิ่นเกล้าพระราม 5 ราคาระดับ 2-3 ล้านบาทซึ่งถือว่าเป็นราคาระดับกลางที่ขายได้ดี โดยยอดขายถึงกลางเดือนสิงหาคม 2552 อยู่ที่ประมาณ 100-150 ล้านบาท
ทั้งนี้โครงการที่บริษัทเปิดขายนับเป็นโครงการแรกในรอบ 2 ปีหลังจากสัญญาณการฟื้นตัวเพิ่มมากขึ้นขณะที่การปรับประมาณการกำไรของ LALINต้องรอดูผลประกอบการไตรมาส 3/2552 ก่อนโดยปีนี้บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2551 จำนวน 19% มาอยู่ที่ 212 ล้านบาทและปี 2553 กำไรจะเพิ่มขึ้นจำนวน 13% จากปี 2552 มาอยู่ที่ 241 ล้านบาท
นายธวัชชัย อัศวพรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ราคาหุ้น LALIN มีสัญญาณทางเทคนิคอยู่ในช่วงขาขึ้นและราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวในระดับปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี(Book value)ที่อยู่ 4.23 บาท โดยแนะนำ เก็งกำไรอย่างไรก็ตามราคาหุ้นต้องยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 1.90 บาทให้ได้ หากยืนได้จะเจอแนวต้าน 1.94 บาทและหากทะลุจะเจอแนวต้าน 2.00 บาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรมผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยบวกที่กระตุ้นยอดขาย Presale กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ให้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังมาจากความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา สถาบันการเงินแข่งขันการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเพิ่มขึ้น ผู้ซื้อเร่งตัดสินใจก่อนหมดอายุมาตรการทางด้านภาษีและผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่
ขณะเดียวกันปัจจัยบวกที่กระตุ้นการบันทึกรายได้มาจากการเร่งโอนบ้านในสต๊อกเพื่อให้ทันรับมาตรการภาษี บวกกับหลายบริษัทมีกำหนดการโอนโครงการคอนโดมิเนียม และเร้งงานก่อสร้างบ้านให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2552 หรืออย่างช้าไตรมาส 1/2553 ให้มากที่สุด
โดยมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่จะทยอยหมดอายุตั้งแต่สิ้นปี 2552 คือเงินจ่ายซื้อบ้านในปี 2552 ลดหย่อนภาษี 3 แสนบาทหมดอายุ 31 ธันวาคม 2552 ภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3%เหลือ 0.1% หมดอายุวันที่ 28 มีนาคม 2553 ค่าธรรมเนียมการโอน2%เหลือ 0.01% หมดอายุวันที่ 28 มีนาคม 2552
| | เข้าชม: 1,535 |
|
