April 30, 2024   1:42:16 AM ICT
หุ้นปูนคึกรับไทยเข้มแข็ง
ทันหุ้น-หุ้นกลุ่มปูนคึกคักเทรดสนั่นตามภาวะตลาดโดยรวม นักวิเคราะห์ประเมินธุรกิจปูนซิเมนต์ได้พ้นเหวไปเมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมาและโครงการไทยเข็มแข็งเป็นปัจจัยเร่งให้ความต้องการใช้ฟื้นตัวอีกทางหนึ่งด้วยแต่แนะนำ ซื้อŽเพียง SCC ราคาเป้าหมาย 243 บาท กำไรสุทธิ 23,189 ล้านบาท  


     ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ ไทย จำกัด (มหาชน)SCC ปิดที่ 231.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 455.41 ล้านบาท บริษัท ปูนซิเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)SCCC ปิดที่ 231.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 11.72  ล้านบาท และบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) TPIPL ปิดที่ 11.40 บาทเพิ่มขึ้น 0.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 461.48 ล้านบาท 


     นายเทิดศักดิ์  ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า  สาเหตุที่ราคาหุ้นในกลุ่มปูนปรับเพิ่มขึ้นเป็นเพราะว่าภาพรวมกลุ่มนี้ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปเมื่อไตรมาส 2/2552 ที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3/2552 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว


     นอกจากนี้ยังได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนของโครงการไทยเข้มแข็งซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นความต้องการให้เพิ่มขึ้นอีกขณะเดียวกันราคาขายปูนซิเมนต์เริ่มปรับเพิ่มขึ้น 


      หากเป็นประเด็นรายตัว SCC มาจากความคาดหวังของราคาส่วนต่างของธุรกิจปิโตรเคมีที่มีมากขึ้นนักลงทุนจึงเชื่อว่าผลประกอบการจะออกมาดี ส่วน TPIPL และSCCCราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นมาจากต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงŽนักวิเคราะห์ กล่าว


     อย่างไรก็ตามแนะนำ ซื้อŽเพียง SCC เนื่องจากราคาหุ้น SCCC และ TPIPL ได้ปรับขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐานไปแล้ว โดยให้ราคาเป้าหมาย SCC ที่ 243.88 บาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 23,189 ล้านบาท SCCC ราคาเป้าหมาย 179.12  บาท กำไรสุทธิ  2,943 ล้านบาท และ TPIPL ราคาเป้าหมาย 7.34 บาท กำไรสุทธิ 2,042 ล้านบาท 


     นายปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด บริษัทในเครือซิเมนต์ไทย (SCG Cement)เปิดเผยว่า คาดว่าในปี 2552 ปริมาณการขายปูนซิเมนต์จะอยู่ประมาณ 17-18 ล้านตัน จากปริมาณในตลาดรวมประมาณ 24 ล้านตัน แบ่งเป็นการขายในประเทศประมาณ 9 ล้านตัน และส่งออกประมาณ 7-8 ล้านตัน 


     ขณะที่ช่วงต้นปียอดการขายติดลบถึง 7% ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลัง ยอดขายปูนซิเมนต์จะกลับมาเป็นบวก เนื่องจากความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นกลับมาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศ หลังจากมีมาตรการภาครัฐที่มีการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่าในช่วงไตรมาส 4/52 จะมีปริมาณการใช้ปูนซิเมนต์เพิ่มมากขึ้น 


          สำหรับตลาดต่างประเทศแม้ว่าตลาดสหรัฐอเมริกาจะมีปัญหา แต่บริษัทก็ได้ขยายตลาดไปยังแถบแอฟริกา ประเทศแถบอาเซียนและเอเชียใต้ จากเดิมที่ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่โดยบริษัทส่งออกจำนวน 1 ใน 3 ของทั้งหมด


                    "ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาความต้องการใช้ปูนซิเมนต์หดตัวอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว หลังจากนี้เชื่อว่าการใช้ปูนซิเมนต์จะกลับมาสู่จุดเดิมที่ 18 ล้านตันต่อปี แต่คงจะเป็นในรูปแบบค่อยๆ ฟื้นตัว และหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยให้การใช้ปูนซิเมนต์กลับมาฟื้นตัวอีกทางหนึ่งด้วย"นายปราโมทย์ กล่าว
เข้าชม: 1,599

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com