ทันหุ้น- ตลาดหุ้นยังมีลุ้นฟื้นคืนชีพ โบรกเชื่อยังมีแรงทำวินโดว์เดรสซิ่งต่อลมหายใจ แม้ภาวะหุ่นช่วงนี้เข้าเกณฑ์พักฐาน แนะฉวยโอกาส“ทยอยเก็บ” มองปัจจัยบวกเศรษฐกิจฟื้นส่งผลกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้พุ่ง19% ด้านP/E 11.4เท่าต่ำสุดในภูมิภาค ล่อใจนักลงทุนทั่วโลก
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงสัปดาห์นี้อาจจะหลุดที่ 700 จุดโดยมีแนวรับ 670 จุด แนวต้าน 690 จุด เนื่องจากนักลงทุนจะตอบรับข่าวเชิงลบมากกว่า เช่น การที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะถอนเงินช่วยเหลือเศรษฐกิจแม้ว่าจะไม่เกิดขึ้นก็ตาม และการประกาศตัวเลขการว่างงาน ราคาบ้าน แม้ว่านักลงทุนจะกังวลปัจจัยดังกล่าวไม่มากนักแต่นักลงทุนพยายามหาเหตุผลในการขายหุ้นออกมาหลังจากที่ก่อนหน้าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง
แต่หุ้นจะมีแรงรีบาวด์อีกครั้งในช่วงวันพุธและวันพฤหัสบดี หลังจากเริ่มเห็นนักลงทุนสถาบันและกองทุนซื้อหุ้นเพื่อปิดงวดบัญชี หรือ Window Dressing มากขึ้นประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลยุทธการลงทุนในช่วงสัปดาห์นี้นั้นแนะนำเพียง “รอจังหวะเข้าซื้อ”
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทเคที ซีมิโก้ จำกัด กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลงแต่มองว่าการที่มูลค่าการซื้อขาย(วอล่ม)ยังทรงตัวสูง อีกทั้งยังเห็นจังหวะการเข้าซื้ออยู่นั้นฝ่ายวิจัยมองว่าในช่วงสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจะลดลงไม่หลุดที่ 700 จุด และจะเริ่มเห็นสัญญาณการรีบาวด์ได้ โดยแนวรับ 700 จุด แนวต้าน 716-732 จุด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนั้นยังแนะนำเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดีและได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และยังเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวได้เร็วที่สุดอีกทั้งปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้กำไรสุทธิหรือรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่หลายสถาบันประมาณการณ์ไว้
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาด บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/2552 จะไม่เห็น Window Dressing เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2/2552 เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะมีบางจังหวะปรับตัวลดลงบ้างก็ตาม
โดยการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นในช่วงสัปดาห์นี้( 29 กันยายน-2 ตุลาคม 2553)จะอยู่ในช่วงปรับฐานซึ่งมาจากการ“ขายทำกำไร”ของนักลงทุนหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดและหลายสถาบันคาดการณ์ไว้จึงส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ฝ่ายวิจัยกลับมองว่าการปรับฐานในรอบนี้จะเป็นระยะสั้นๆเท่านั้นและเป็นจังหวะที่ฝ่ายวิจัย แนะนำ “ทยอยสะสม” หุ้นมากกว่า “ขายทำกำไร” เพราะฉะนั้นในช่วงนี้แม้ว่าตลาดจะปรับตัวลงแต่ก็จะไม่พบการทยอยทำ Window Dressing ด้วยเช่นเดียวกัน
โดยตลาดจะเริ่มพบสัญญาณการรีบาวด์ อีกทั้งนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นด้านการลงทุนมากขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังส่งผลให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนในปี 2552 เพิ่มขึ้นเป็น 19% จากเดิม 15%และปี 2553 กำไรสุทธิอยู่ที่ 20% หรือเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ขณะที่ค่า P/E ปีนี้อยู่ที่ 11.4 เท่าซึ่งสูงกว่าตลาดภูมิภาค จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกหรือนักลงทุนในประเทศเริ่มเข้ามาลงทุนหุ้นในตลาดหุ้นไทยมากขึ้นในภายหลัง แนวรับ703 จุด แนวต้าน 717 จุด
| | เข้าชม: 1,653 |
|
