April 30, 2024   2:42:22 AM ICT
นายกห่วงประมูลไลเซนต์3G TRUEแนะใช้วิธีบิวตี้คอนเทสต์
ทันหุ้น-นายกฯห่วงประมูลไลน์เซนต์ 3G แนะ กทช.ปฏิบัติโดยชอบธรรม ยึดความถูกต้อง เอื่ประโยชน์คนในชาติเป็นหลัก และควรดำเนินการอย่างเร่งด่วน ด้านประธาน กทช. พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์Žน้อมรับฟังความเห็น เตรียมเสนอบอร์ดพุธนี้ ส่วนบิ๊ก TRUE ดอดเสนอเปลียนวิธีประมูลเป็นแบบบิวตี้คอนเทสต์แทนเชื่อวิธีนี้ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย และราคาไม่ควรเกิน 100-200 ล้านดอลล์ 


     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ บทบาทขององค์กรอิสระต่อการพัฒนาประเทศŽ ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) โนโอกาสครบรอบ 5 ปี กทช.ว่า การดำเนินการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G บนย่านความถี่ 2.1 GHz นั้น ควรจะดำเนินการไปตามกรอบที่ทางกทช.ได้กำหนดไว้ เพียงแต่เกณฑ์ในการประมูบจะต้องมีความรอบคอบและชัดเจน และสามารถให้คำตอบในทุกคำถามจากผู้ที่เกี่ยวข้องได้


     ทั้งนี้ยังมองว่าการประมูลใบอนุญาต 3G ยังเป็นการส่วนในการส่งเสริมด้านการลงทุน ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อการกระต้นุเศรษฐกิจของประเทศให้มีความก้าวหน้า และถัดเที่ยมประอารยะประเทศได้ และหากการประมูลดังกล่าวมีความล่าช้าก็อาจจะสร้างความสูญเสียโอกาสที่จะพัฒนาประเทศ เพราะปัจจุบันประเทศเพื่อบ้านได้มีความก้าวหน้าในโครงสร้างโทรคมนาคมไปในระดับหนึ่งแล้ว จึงล่าช้าออกไปไม่ได้อีกแล้ว และควรหันมาวางโครงสร้างการแข็งขันในด้านเทคโนโลยีใหม่จะดีกว่า


     กทช.ควรกำหนดเกณฑ์การประมูล 3G อย่างเป็นธรรม ระบุเปิดทางให้ต่างชาติมากเกินอาจกระทบความมั่นคงภายในประเทศ และการออกเกณฑ์การประมูลใบอนุญาต 3G ที่ดำเนินการโดยกทช. จะต้องมีความเป็นธรรมและคำนึงความมั่นคงของประเทศและให้ความคุ้มครองผู้บริโภค โดยต้องมีนโยบายการกำกับดูแลที่ชัดเจน เนื่องจากโทรคมนาคมเป็นประเด็นที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศŽนายกกล่าว


     ทั้งนี้ กทช. จะต้องมีการกำหนดเกณฑ์การประมูลเพื่อให้เกิดการแข่งขันมากที่สุด เนื่องจากระบบดังกล่าวจะเป็นหลักประกันที่ดีที่สุด ประกอบกับผู้ประกอบการภายในประเทศของไทยยังมีความเสียเปรียบในประเด็นความหนาแน่นของเงินทุน ซึ่งหากมีผู้ประกอบการเอกชนจากต่างชาติที่มีรัฐบาลของประเทศถือหุ้นอยู่ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายใน


     นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การกำหนดหลักเกณฑ์การประมูลใบอนุญาต 3G นั้น กทช.จะต้องมีความชัดเจน โดยเฉพาะการหาคำตอบว่ารัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จะอยู่อย่างไร หากเข้าสู่ยุค 3G คือจะให้อยู่ในฐานะผู้ประกอบการรายใหม่ หรือให้ปรับปรุงสัญญาสัมปทานเดิม


     ค่อนข้างจะเป็นห่วงการประมูลอยู่ เพราะเป็นเรื่องยากที่ กทช.จะทำงาน แต่ก็ขอให้เดินหน้าอย่างเต็มที่และให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ที่สำคัญไม่ควรคำนึงถึงราคาสูงสุดเพียงอย่างเดียว เพราะอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้บริโภคที่ต้องใช้บริการาคาแพงอาจจะได้รับความเดือดร้อน และภาครัฐเองก็จะต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นการขอแก้ไขสัญญาสัมปทานจากภาคเอกชน เพราะไม่สามารถดำเนินการตามสัญญาได้Žนายกกล่าว


     พร้อมกันนั้น อยากให้ กทช.มีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการประมูล โดยจะต้องคำนึงถึงความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย เนื่องจากกำหนดให้แข่งขันที่ราคาสูงสุด อาจทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียเปรียบบริษัทเอกชนต่างชาติ หรือรัฐวิสาหกิจต่างชาติที่อาจจะเข้าร่วมประมูลด้วย จึงต้องดูแลเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะสัมปทานโทรคมนาคมต้องคำนึงถึงความมั่นคง จึงควรดูแลให้เกิดความมั่นใจว่าไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ


     หวังว่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนว่าเมื่อเข้าสู่ยุค 3G รัฐวิสาหกิจ 2 แห่งจะอยู่อย่างไร แต่ก็เข้าใจ กทช.ว่า 3G เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่ควรจะเร่งรีบทำ เนื่องจากหากปล่อยให้เวลานานไปเทคโนโลยี 3G ก็จะล้าหลัง การลงทุนก็ตจะไม่เกิดผล หากล่าช้าก็ควรจะมองหาการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ดีกว่า อาทิ 4G หรือ 5GŽนายกกล่าว
เข้าชม: 1,613

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com