May 18, 2024   11:53:13 PM ICT
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 29/04/53
เริ่มไหลลงต่ำ..ก็เริ่มกลับเข้าเทรดดิ้งได้ แต่เน้นเลือกตัวและทำกำไรไว..
             เมื่อวานนี้หลังจาก SET ยังพยายามยืนทรงตัวด้วยการปรับตัวลดลงไม่มากในช่วงครึ่ง
เช้า แต่ช่วงบ่ายเริ่มมีแรงขายออกมากดดันมากขึ้นจากสถานการณ์การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้
ชุมนุมที่เคลื่อนขบวนเพื่อที่จะไปยังตลาดไท กับเจ้าหน้า ศอฉ. บนถนนวิภาวดีรังสิต ส่งผลให้ดัชนี
หุ้นไทยไหลลงมาปิดลบไปเกือบ 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขายพอสมควร และมียอดขายของนักลงทุน
ต่างประเทศถึงเกือบ 2.4 พันล้านบาท แม้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายไปแล้ว แต่ก็สร้างความ
กังวลต่อเหตุการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก ทำให้คาดว่าปัจจัยด้านการชุมนุมจะยังคงกดดัน
ให้ SET แกว่งตัวผันผวนและเน้นหนักทางด้านลบต่อเนื่องได้อยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้า
นี้ถือว่ายังไม่ได้เป็นปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกมากนัก แม้ว่า DJIA จะสามารถปิดเป็นบวกกว่า 50
จุด จากแถลงการณ์ของเฟดที่ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกพักใหญ่ แต่ความกังวล
ใจเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในยุโรปก็ยังเป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดเป็นลบ และตลาดหุ้นใน
เอเชียเช้านี้ก็เปิดทำการด้วยการเป็นบวกเป็นลบไม่มาก ดังนั้น FSS จึงคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะ
ยังเน้นหนักทางด้านปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อสถานการณ์การชุมนุมเป็นหลัก อย่างไรก็
ตามการปรับตัวลงรุนแรงของ SET อาจทำให้มีจังหวะดีดกลับขึ้นให้จับจังหวะเข้าเทรดดิ้งได้บ้าง
ซึ่งถ้าจะเข้าเทรดดิ้งเราแนะนำให้เน้นที่หุ้นที่ใกล้จะขึ้นเครื่องหมาย XD และมี Yield สูง ได้แก่
QH, AP, LST, AIT, TPAC เป็นต้น ส่วนจังหวะทยอยเข้ารับเพื่อถือลงทุนยาวยังให้รอตลาดไหล
ลงต่ำ ซึ่งระดับดัชนีที่เรามองว่าน่าสนใจอยู่ที่บริเวณ 680 จุดหรือที่ระดับ P/E ประมาณ 10-11
เท่า สำหรับหุ้นที่น่าสนใจทยอยเข้ารับโดยเน้นที่หุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการเมืองไม่
มาก ได้แก่ กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ (KCE)  เกษตรและอาหาร  (CPF)  ค้าปลีก (CPALL, BIGC,
HMPRO, MAKRO) โรงพยาบาล โรงไฟฟ้าและน้ำประปา (TTW) เป็นต้น รวมถึงหุ้นที่มีราคา
ตลาดต่ำกว่าราคาตามพื้นฐานค่อนข้างมาก ได้แก่ KBANK, SCB, BBL, BAY, AP, PS, LH,
QH, CPN, PTTEP, ROJNA เป็นต้น 
 
ประเด็นสำคัญวันนี้
           ลงต่อ...CDS Spread ของไทยพุ่งสูงสุดในรอบ 11 เดือน ตราบใดที่การชุมนุมยังมีอยู่
โอกาสที่จะเกิดการปะทะและการสูญเสียเหมือนเมื่อวานนี้จึงมีอยู่ตลอดเวลา (มีทหารเสียชีวิต 1
รายวานนี้) และไม่สามารถประเมินความเสี่ยงขาลงได้ (เราประเมิน 680 จุดเป็นจุดที่ปลอดภัยใน
การเข้าซื้อรอบใหม่) ที่ผ่านมาเราจึงเน้นขายเมื่อตลาดปรับขึ้น แต่เมื่อตลาดปรับลง จะตัดสินใจ
ซื้อหรือไม่ ให้พิจารณาสถานการณ์การเมืองในช่วงนั้นๆ ประกอบ หากการเมืองดูยังไร้ทางออก ที่
แนวรับระดับต่างๆ (746/736/726/715 จุด) เราหวังเพียงการรีบาวนด์ระยะสั้น (เพื่อลงต่อ) เท่า
นั้น เพราะสัญญาณความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้นมาก แม้ว่า CDS Spread ของไทยเช้านี้จะลดลง 4
basis point มาอยู่ที่ 138 bps แต่ก็ยังเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 11 เดือน ขณะที่ราคาหุ้นยัง
ไม่ ‘ถูก’ มากพอที่จะคุ้มค่าความเสี่ยง เพราะ SET Index ปัจจุบันคิดเป็น PE 12.2 เท่า เทียบ
กับเกาหลีใต้ที่มี PE 10.6 เท่าแต่การเมืองนิ่งกว่ามากและเศรษฐกิจก็แข็งแกร่งกว่ามาก
ต่างชาติที่ขายสุทธิแล้ว 1 หมื่นล้านบาทนับตั้งแต่มีการใช้ พรก.ฉุกเฉิน (ยอดทั้งปีซื้อเพียง 3.9
หมื่นล้านบาท) ยังขายต่อได้อีก ล่าสุดค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากก่อนหน้านี้ก็เริ่มอ่อนค่าลงมา 3 วัน
แล้ว ดังนั้น หุ้นที่ควรระวังจึงเป็นหุ้นที่มี Market cap. ใหญ่ในกลุ่มที่ Outperform ตลาดมากๆ
ในช่วงที่ผ่านมาเช่นกลุ่มปิโตรเคมี และแบงก์ อย่างไรก็ตาม เราชอบกลุ่มแบงก์ ให้หาจังหวะ
ทยอยซื้อเมื่อราคาปรับลงโดยไม่ต้องรีบร้อนไล่ราคา ส่วนกลุ่มพลังงานมี story ดีกว่าแบงก์เพราะ
ถูกกระทบจากการเมืองน้อยกว่ามาก ส่วนกลุ่มอื่นที่ปลอดภัยได้แก่กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ อาหาร
ยานยนต์ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Commodities
            สเปนถูกลดเครดิต ส่วน Fed คงดอกเบี้ยตามคาด Fed มีมติ 9 ต่อ 1 ให้คงดอกเบี้ยที่
0-0.25% และระบุว่าจะยังใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำต่อไปและกล่าวว่าเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง
ขึ้นขณะที่ตลาดแรงงานกำลังเริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่วนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนดีขึ้น
แต่ยังถูกจำกัดจากสินเชื่อที่ตึงตัว การคงดอกเบี้ยทำให้ Dow Jones บวก 53 จุดนำโดยกลุ่ม
Financials ราคาน้ำมันบวก 78 เซนต์ ส่วน VIX ปรับลง 7% มาอยู่ที่ 21.08 จุด ส่วนตลาดหุ้น
ยุโรปปรับลงเพราะ S&P ปรับลดเครดิตประเทศสเปนลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA จากระดับ AA+ ค่า
เงินยูโรร่วง แต่ราคาทองพุ่งขึ้น US$9.6 มาปิดที่ระดับ US$1,171.80/ออนซ์
            SCC กำไรดีกว่าคาด แต่ 2Q10 จะชะลอ ยังคงแนะนำซื้อ (เป้าหมาย 298 บาท),
TRUE แนะนำขาย คาดมีกำไรสูงจาก Fx gain และ DELTA คาดกำไรโต 18% Q-Q และ
64% Y-Y แนะซื้อ (เป้าหมาย 25 บาท)

            Technical View : “แรงขายเริ่มชัดเจนมากขึ้น ทำให้คาดว่าดัชนีกำลังจะแกว่งตัวลงต่อ
เนื่องไปทดสอบแนวรับระดับต่างๆ ก่อนลุ้นดีดกลับอย่างมีนัยสำคัญได้ ดังนั้นถ้าจะเทรดดิ้งให้ตาม
รอดูแรงซื้อจากแนวรับ...โดยช่วงนี้จับตา 740 จุด(+/-) !!”
             แนวรับ    :   746* , 736** , 726-715***     
             แนวต้าน  :   760-765** , 770***

Technical Picks:
CENTEL (Bt 3.80 เป้าเทคนิค 3.94 - 4 cut loss ถ้าหลุด 3.74)
LST (Bt 3.62 เป้าเทคนิค 3.80-3.90 cut loss ถ้าหลุด 3.54)
KKC (Bt 2.42 เป้าเทคนิค 2.60-2.80 cut loss ถ้าหลุด 2.34)  
เข้าชม: 1,062

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com