May 19, 2024   12:42:01 AM ICT
ฟันธง... โดย วีระชัย ครองสามสี 10 พฤษภาคม 2553
ไม่หลุด 760 จุด มีลุ้นเด้งสั้นทดสอบ 777-780 จุด
หวั่นวิกฤติการเงินยุโรประบาดไปทั่วโลก เล่นงานซะตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงระเนระนาด โดยตลาดหุ้นสหรัฐคืนวัน
พฤหัสบดีดิ่งลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวันเกือบ 1,000 จุด จากประสบการณ์ความบอบช้ำทางเศรษฐกิจในอดีตได้ครอบงำ
กรอบความคิดคนทั่วโลกให้ต้องตื่นกลัวต่อวิกฤติการเงินยุโรป เกรงจะเป็นสึนามิทางการเงินระลอกใหม่ ซัดคลื่นยักษ์แห่งปัญหา
การเงินลามถล่มทั่วภูมิภาค หลายชาติต่างออกมาประเมินเรื่องนี้ไปในทางร้าย อย่างธนาคารกลางออสเตรเลียที่ชี้ว่าการขยายตัวทาง
เศรษฐกิจในประเทศอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้กรีซ มองว่าปัญหาด้านการเงินในยุโรปอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจจะ
ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างหนัก จนกระทั่งเผชิญกับภาวะ
เศรษฐกิจซบเซาระลอกใหม่ ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงค่าเงินยูโรและ
ราคาพันธบัตรล้วนปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนมองหาแหล่งลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง ด้านญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีได้ออกมา
ประกาศว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความผันผวนและความตื่นตระหนกในตลาดการเงิน อันเป็นผลมาจากความ
วิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซที่ฉุดดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน ค่าเงินเยนผันผวนตกต่ำสุดๆ ถึง
ขนาดธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้าแทรกแซงตลาดด้วยการอัดฉีดเงิน 2 ล้านล้านเยน เข้าสู่ระบบการเงินภายในประเทศ ผ่านการ
ทำธุรกรรมในตลาดการเงิน ซึ่งถือเป็นการดำเนินการฉุกเฉินที่มีเป้าหมายจะลดกระแสความวิตกกังวลในตลาด นี่เป็นตัวอย่างของ
ประเทศที่ออกมา Action ตอบรับต่อข่าวดังกล่าวชนิดฉับพลันทันที เชื่อทุกประเทศทั่วโลกอีกหลายๆ ประเทศคงจ้องจับตามอง และ
กำลังประเมินถึงผลกระทบที่แท้จริง ว่าเรื่องนี้มันแย่ซะขนาดไหนหรือนี่จะเป็นแค่สงครามข่าวสาร ลึกๆ แล้วมันแย่อย่างที่ประเมินกัน
หรือไม่ ต้องตั้งสติเก็บข้อมูล แล้วพินิจพิเคราะห์ให้ดี เพราะมีข้อมูลหลายมุมมอง อย่างทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ออกมาให้แง่
คิดว่าเรื่องของกรีซ ยังไม่ได้ลุกลามไปถึงไหน อย่างเรื่องที่มีการวิเคราะห์ว่าโปรตุเกส จะเป็นอีกประเทศที่ต้องเผชิญชะตากรรม
เดียวกัน แต่กลับมองว่าไม่ใช่ โดยอีซีบีมองว่าโปรตุเกสไม่ได้ลงเรือลำเดียวกับกรีซ เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงและข้อมูลทาง
เศรษฐกิจต่างๆ ของสองประเทศ ประธานอีซีบีใช้คำพูดว่า “โปรตุเกสไม่ใช่กรีซ" แต่มองว่าการปรับโครงสร้างภาคธนาคารอย่าง
เหมาะสมจะมีบทบาทสำคัญ พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างงบดุลของธนาคารให้แข็งแกร่ง งบดุลที่แข็งแกร่ง การ
จัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส และรูปแบบการทำธุรกิจที่มั่นคง มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธนาคารต่างๆ เพื่อ
รับประกันว่าธนาคารเหล่านี้จะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างเพียงพอ ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตและเสถียรภาพทางการเงิน
ขณะที่กลุ่ม G7 เร่งจัดประชุมด่วน เพื่อหารือกันเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินของกรีซ หลังเกิดกระแสความวิตกกังวลที่ว่าปัญหา
หนี้สินในยุโรปจะลุกลามในวงกว้างได้ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งเหวถ้วนหน้า ส่วนตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้เจอหลายเด้ง ไหนจะร่วงตาม
ภูมิภาคแล้ว ปัญหาการเมืองข้างในชักไม่แน่นอนอย่างที่คาดไว้ตามข้อเสนอของนายกฯ และไหนจะยังเรื่องของราคาน้ำมันที่อ่อนตัว
ลง กระทบหุ้นกลุ่ม Weight น้ำหนักอย่างกลุ่มพลังงานของเรา หลังสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่า 80 ดอลลาร์/บาร์เรล อัน
เนื่องมาจากความกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์หนี้สินของกรีซอาจะลุกลามจนฉุดรั้งเศรษฐกิจโลก ทำให้ปริมาณการใช้พลังงานหดตัวลง
ด้วย เสริมแรงกดดันด้วยตัวเลขที่กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 เม.ย.พุ่งขึ้น
2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 360.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วกว่า 5% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
เพียง 1.2 ล้านบาร์เรล ธรรมชาติเวลาแห่งห้วงจังหวะที่มีข่าวร้ายๆ เข้ามา ทุกคนจะยิ่งวิเคราะห์ไปในทางลบ ว่าจะแย่ขนาดโน้นขนาด
นี้ แต่ผมว่าบางครั้งต้อง ”มองสวน” ไว้บ้าง อย่างคำโบราณว่า “มีขึ้นมีลงเป็นของธรรมดา” และฟ้าหลังฝนก็มักจะสวยงามเสมอ
เหมือนอย่างกรณีสหรัฐ หรือดูไปเวิร์ลที่ตอนนั้นใครๆ มองซะอย่างกับว่า “โลกทั้งโลกจะพังทลายลงไปกับเรื่องของวิกฤติการเงิน” แต่
แล้วสุดท้ายก็ค่อยๆ คลี่คลาย จนตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาคึกคักใหม่ เพราะฉะนั้นควรมาหาข่าวดีๆ ไว้ศึกษาบ้าง อย่างเรื่องที่ว่า IMF
ก่อนหน้านี้เคยประเมินว่าเอเชียเราจะไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากนัก จึงคาดการณ์กันว่าเอเชียน่าจะเป็นประเทศแกนนำ
หลักในการฟื้นตัว และถ้ามาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่รายงานออกมา ดูเหมือนความเป็นไปได้จะค่อนข้างสูง ซึ่งแน่นอนไทยเราพลอยได้รับ
ผลบวกไปด้วย อย่างล่าสุดมีรายงานจากจีนว่าศูนย์สารสนเทศแห่งรัฐของจีนได้คาดการณ์จีดีพีของจีนจะขยายตัวถึง 10.7% เมื่อ
เทียบเป็นรายปีในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ นอกจากนั้นสำนักงานสถิติแห่งชาติยังรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนขยายตัว
4 จุด แตะที่ 108 จุดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 50 เนื่องจากผู้บริโภคมีทัศนคติในแง่บวกมากขึ้น
เรื่องแนวโน้มการจ้างงานและรายได้ในอนาคต แถมมีข่าวรัฐสภาเยอรมนีไฟเชียวให้รัฐบาลลงขัน 28.6 พันล้านดอลลาร์ช่วยเหลือ
กรีซ ซึ่งก็น่าจะหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัว ฉะนั้นจากข้อมูลที่ประมวลมาทั้งหมดมองกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ควรจับจังหวะที่คน
กำลังหวาดกลัว “Panic” เทขายหุ้นพื้นฐานดีๆ ธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบทั้งระยะยาวและระยะสั้นสะสมเข้าพอร์ตเพื่อการลงทุน อาทิ
กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และส่งออกอาหาร-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ ฉะนั้นหาก SET INDEX ปรับตัวลงมาแถว 760 จุดหาจังหวะเข้า
ซื้อเล่นสั้นสั้น และรอไปขายที่ 777-780 จุดหากมีการเด้งกลับในสัปดาห์นี้
เข้าชม: 1,159

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com