May 5, 2024   8:00:05 AM ICT
ปัจจัยกระทบ 13 พฤษภาคม 2553
ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก-ราคาน้ำมันดิบปรับลง

กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--รอยเตอร์


**ต่างประเทศ


*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.38% โดยได้แรงหนุนจากหุ้น

กลุ่มเทคโนโลยี และอุตสาหกรรม หลังสเปนเผยแผนรัดเข็มขัด ซึ่งสร้างความมั่นใจ

ให้กับนักลงทุนว่า ยุโรปกำลังดำเนินการแก้ปัญหาด้านการคลัง

*สเปน จะปรับลดเงินเดือนข้าราชการและตำแหน่งงานภาครัฐ เพียงไม่กี่วัน หลังรมว.

คลังอียู อนุมัติมาตรการช่วยเหลือ 7.5 หมื่นล้านยูโร (1 ล้านล้านดอลลาร์)

เพื่อยับยั้งวิกฤติหนี้ ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

*วานนี้ ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ รวมถึงหุ้นไทยปรับตัวขึ้น โดย

ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย พุ่งกว่า 1% นำหน้าภูมิภาค จากเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้า

ขณะที่สิงคโปร์, มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ปิดบวก แต่เวียดนามปิดลบ 2.76%

*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดวานนี้ ร่วงลง 72 เซนต์

ปิดที่ 75.65 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยร่วงลงเป็นที่สองติดต่อกัน จากปัจจัยตัวเลข

สต็อกน้ำมันที่ระดับสูงในสหรัฐ

*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (12 พ.ค.) บวก 66 จุด หรือ

1.73% สู่ระดับ 3888 ซึ่งสูงสุดของปีนี้ ส่วนระดับต่ำสุดปีนี้อยู่ที่ 2566

*วานนี้ราคาทองที่ตลาดสหรัฐ ปิดปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปิด

ที่ 1,243.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤติหนี้สิน

กรีซ กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย


**เศรษฐกิจทั่วไป


*กรมธุรกิจพลังงาน เผยยอดการใช้น้ำมันในเดือนเม.ย. พบว่าการใช้น้ำมันเบนซิน

เพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค. หลังมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะที่การใช้น้ำมัน

ดีเซลลดลง หลังหมดช่วงฤดูการเกษตร

*ประธานสมาคมธนาคารไทย คาดสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในปีนี้ จะเติบโต

ได้ 7-8% ตามเป้าหมาย หากสถานการณ์การเมืองไม่มีเหตุรุนแรงขึ้นอีก แต่ยังจับตา

สินเชื่อเดือนพ.ค.-มิ.ย.ว่าจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องหรือไม่

*ธปท. เผยเงินบาทช่วงนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากมีทั้งปัจจัยลบและบวกเข้ามา

ในตลาด ทำให้ทิศทางของเงินบาทขาดความชัดเจน โดยตั้งแต่ต้นปีนี้บาทแข็งค่าขึ้นมา

ราว 2-3% ซึ่งอยู่ในระดับกลางๆเมื่อเทียบกับภูมิภาค

*กระทรวงการคลังเผย ยอดหนี้สาธารณะคงค้างของไทย ณ สิ้นเดือน ก.พ.53 อยู่ที่

4.075 ล้านลบ. หรือคิดเป็น 41.90% ของจีดีพี เทียบกับยอดหนี้สาธารณะ ณ สิ้น

เดือนม.ค.53 ที่ 4.008 ล้านลบ.หรือ 41.21% ของจีดีพี

*ผู้บริหารตลท.มองไม่ถึง 6 เดือน เม็ดเงินต่างชาติมีโอกาสไหลกลับมาลงทุนในตลาด

หุ้นเอเซียอีกครั้ง หลังปัญหาหนี้ของกรีซ ทำให้ต่างชาติขายหุ้นในตลาดเกิดใหม่

*"กอร์ปศักดิ์" เตรียมเสนอครม.วันที่ 25 พ.ค.ให้พิจารณาเงินช่วยเหลือพนักงาน

ในพื้นที่ราชประสงค์ วงเงิน 778 ลบ. ซึ่งจะเป็นเงินเดือนและค่าเช่า แทน

ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)

*สศค.เผยการจัดเก็บรายได้สุทธิเดือนเม.ย.ที่ 1.59 แสนลบ.สูงกว่าประมาณการ 73.5%

โดยภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีน้ำมัน และ ภาษีศุลกากร จัดเก็บได้สูงจากการบริโภคและ

นำเข้าที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงมีเงินยึดทรัพย์"ทักษิณ"เข้ามาด้วย(นสพ.มติชน)

*MSCI เตรียมถอดหุ้นไทย 3 ตัวออกจากการคำนวณดัชนีรอบใหม่ มี DTAC, TMB, LH-F

เริ่ม 26 พ.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดจะทำให้นักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่ซื้อขายตาม

มาตรการคำนวณของ MSCI ลดน้ำหนักการลงทุนลง (นสพ.ข่าวหุ้นธุรกิจ)

*ธปท.คาดปีนี้จะมีเงินทุนไหลเข้ารวมสุทธิ 1 หมื่นดอลลาร์ หรือราว 3.2 แสนลบ.

โดยไตรมาสแรกเข้ามาแล้วถึง 6 พันล้านดอลลาร์ แต่เชื่อครึ่งปีหลังมีแนวโน้มลดลง

เพราะปัญหาหนี้กรีซ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)

*อธิบดีกรมสรรพากร เผยกลุ่มเสื้อแดงที่ปิดสถานที่ย่านราชประสงค์ ทำให้การค้า

ต้องปิดกิจการ ส่งผลการจัดเก็บรายได้หายไปราว 400-500 ลบ. ส่วนใหญ่เป็น

รายได้ที่จัดเก็บจากภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นหลัก แต่ก็คาดว่าทั้งปีจะจัดเก็บได้ตามเป้า

(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)


**การเมือง


*"กอร์ปศักดิ์"ระบุ ขณะนี้ถือว่าการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มเสื้อแดง ได้ยุติ

แล้ว รวมทั้งพับแผนจัดการเลือกตั้ง วันที่ 14 พ.ย.53 ที่นายกฯ เคยเสนอก่อนหน้า

นั้น หลังเสื้อแดงไม่ยอมยุติการชุมนุม

*เย็นวานนี้ ศอฉ. มีมติเลื่อนแผนตัด น้ำ,ไฟฟ้า หลังเที่ยงคืน ตามที่ประกาศเมื่อ

ช่วงเช้าออกไปก่อน เนื่องจากเกรงว่า ประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้ที่ชุมนุมของกลุ่ม

เสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์และพื้นที่ใกล้เคียง จะได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ชุมนุม

*กลุ่มเสื้อแดง แถลงท่าทีสุดท้ายว่า จะปักหลักชุมนุมที่ราชประสงค์ต่อไป โดยไม่วิตกกับ

มาตรการกดดันที่ ศอฉ.ประกาศ โดยย้ำว่า จะไม่ยุติการชุมนุม หาก"สุเทพ"ยังไม่เข้า

สู่กระบวนการยุติธรรม

*แหล่งข่าวจากกองทัพบก ระบุผบ.ทบ.สั่งระดมพลกว่า 3.2 หมื่นนาย เพื่อใช้ปิดล้อม

ผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ อย่างเต็มรูปแบบและให้นำรถสายพานลำเลียง 120 คัน

มาใช้ข่มขวัญผู้ชุมนุม และเป็นเกราะกำบังให้ผู้ชุมนุมด้วย(นสพ.โพสต์ทูเดย์)

*แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ เผย"กอร์ปศักดิ์"ขอให้

ผู้ประกอบการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันนี้ และให้เก็บเอกสารสำคัญ

ออกจากอาคาร(นสพ.โพสต์ทูเดย์)

*เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ เผยคณะตุลาการได้ขยายเวลาให้พรรคประชาธิปัตย์

ยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหายุบพรรค ออกไปอีก 15 วัน และระบุคณะตุลาการไม่มีความ

กดดัน หรือถูกข่มขู่จากการพิจารณาคดีนี้(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)
เข้าชม: 1,386

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com