May 5, 2024   7:18:23 PM ICT
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 14/05/53
เทรดดิ้งช่วงนี้ถือว่าความเสี่ยงสูง จะเข้ารับควรดูจังหวะต่ำๆ หน่อย…
              แนวโน้ม: สถานการณ์การเมืองภายในประเทศกลับมาเป็นประเด็นจับตาของนักลงทุน
อีกครั้ง หลังช่วงบ่ายวานนี้ ศอฉ. ประกาศจะนำรถหุ้มเกราะเข้าล้อมกรอบพื้นที่ชุมนุมในช่วงเย็น
เพื่อขอคืนพื้นที่แยกราชประสงค์ พร้อมระบุขอให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ดังกล่าวหยุดกิจการในวัน
ถัดไปด้วย ทำให้ตลาดหุ้นไทยในภาคบ่ายเปลี่ยนมาเป็นเคลื่อนไหวในด้านลบแทนจากก่อนหน้า
นั้นครึ่งวันเช้าจะเน้นหนักทางด้านแกว่งบวกตามตลาดหุ้นในภูมิภาคอยู่ ก่อนจะปิดทำการเป็นลบ
ในระดับเกือบต่ำสุดของวัน จากนั้นในช่วงเย็นรัฐบาลได้ประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ ในอีก 17
จังหวัด ซึ่งสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นตั้งแต่ 19 น.เศษเมื่อมีการรอบยิง เสธ.แดง จนบาดเจ็บ
สาหัส จากนั้นตั้งแต่ค่ำจนกระทั่งเช้านี้ก็ยังมีเหตุการปะทะกันเป็นระยะๆ ระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้า
หน้าที่ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเวลาอันสั้นนี้ ประกอบกับจะติดช่วงวันหยุดสุด
สัปดาห์ และตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ก็มีแนวโน้มที่จะไม่ได้สนับสนุนในเชิงบวก หลังดาวโจนส์
เมื่อคืนนี้ปิดเป็นลบไปกว่า 1% ดังนั้น FSS คาดว่า SET จะยังเน้นหนักทางด้านแกว่งตัวลบต่อ
เนื่องซึ่งมีโอกาสไหลลงไปต่ำกว่า 760 จุดต่อไป
           กลยุทธ์: แนะนำว่าถ้าจะเข้าทรดดิ้งเล่นตามรอบเพื่อลุ้นสถานการณ์การชุมนุมคลี่คลาย
ต้องรอให้ดัชนีไหลลงลึกหน่อย หรือเมื่อเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาก่อนจึงจะน่าสนใจ แต่ต้องจำกัด
พอร์ตและหาจังหวะขายทำกำไรด้วย โดยไม่ควรซื้อไล่ราคาถ้าเป็นบวก ส่วนจังหวะซื้อเพื่อถือลง
ทุนยังแนะนำให้รอตลาดไหลลงต่ำก่อนที่จะเริ่มทยอยเลือกหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาตลาดยังต่ำกว่า
ปัจจัยพื้นฐานมากๆ เข้ารับ ซึ่งหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ KBANK, SCB, BBL, BAY, TTW,
HMPRO, CPALL, BIGC, MAKRO, AP, PS, LH, QH, CPN, PTTEP, ROJNA เป็นต้น

ประเด็นสำคัญวันนี้
            ต่างชาติจะขายต่อ เหตุการณ์เสธ.แดงถูกยิงและเหตุจลาจลเมื่อคืนเป็นข่าวใหญ่ที่ถูก
เสนอไปยังสื่อ ตปท. ทุกสำนัก ที่สำคัญคือเหตุการณ์ยังมีการยิงกันตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ จะกด
ดันให้ต่างชาติขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องหลังจากขายมาตลอดหลังรัฐบาลประกาศ พรก.ฉุกเฉิน 8
เม.ย. ถึงวานนี้รวม 3.2 หมื่นล้านบาท หรือ 66% ของยอดที่ซื้อไปตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้ยอดซื้อ
สะสมของปีนี้ลดลงเหลือเพียง 16,968 ล้านบาท
             การเมืองฉุดดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการต่ำสุดในรอบปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
เดือน เม.ย. ปรับตัวลงทุกรายการเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบปี โดยดัชนี
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 75.0 ลดจากเดือน มี.ค.ที่ 77.3 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นสถานการณ์
ทางการเมืองลดต่ำสุดรอบ 16 เดือนที่เกิดเหตุปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ปัจจัยลบที่สำคัญมาจาก
การยืดเยื้อของการชุมนุมทางการเมือง และเกิดเหตุปะทะรุนแรงในวันที่ 10 เม.ย.
             ผลประกอบการไม่ช่วย กำไรของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ใน Coverage ของเราเท่าที่
ประกาศถึงเย็นวานนี้ มีกำไรปกติเพิ่มขึ้น 5.3% Q-Q และ 28% Y-Y และกำไรสุทธิโต 7.8%
Q-Q และ 26.7% Y-Y กลุ่มที่กำไรโตกว่าคาดมากที่สุดคือกลุ่มอสังหาฯ เป็นผลมาจากการเร่ง
โอนบ้านและคอนโดก่อนจะมาตรการภาษีจะหมดอายุสิ้น 2Q10 ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการใน
2Q10 ชะลอลง Q-Q หุ้นที่เป็น Top Picks ในกลุ่มนี้คือ LPN และ PS สำหรับวันนี้ มีหุ้นขนาด
ใหญ่ที่จะประกาศงบคือ PTT
           KTB: หลังการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เราปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง 7% จากค่าใช้
จ่ายพนักงานที่สูงขึ้น ยังคงราคาเป้าหมาย 13 บาท
           PTTCH: กำไรดีมากตามคาด ราคาเป้าหมาย 127 บาท อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นแนะนำ
ขายก่อน แล้วรอรับเมื่อราคาอ่อนตัว
           TMI: เข้าซื้อขายวันนี้วันแรกในตลาด MAI ราคาจอง 0.88 บาท ราคาเป้าหมาย 1.20
บาท (FSS เป็นแกนนำในการจัดจำหน่าย)
            ตลาดต่างประเทศผันผวน ค่าเงินยูโรร่วง ตลาดหุ้นต่างประเทศซิกแซกลงต่อ วันพุธ
Dow Jones ปรับลง 133.96 จุดหรือ 1.1% หลังจากที่ปรับตัวบวก 149 จุดในวันพุธ ส่วน
S&P500 และ Nasdaq วันพฤหัสก็ปรับลง 1.2% เช่นกัน เนื่องจาก CEO ของบริษัท Cisco
ให้มุมมองระมัดระวังมากขึ้นกับแนวโน้มผลประกอบการในอนาคต ขณะที่ความกังวลเรื่องหนี้ใน
ยุโรปก็ยังอยู่ในตลาดแม้ว่าสเปนจะประกาศแผนลดขาดดุลงบประมาณไปเมื่อวันก่อนก็ตาม ซึ่งส่ง
ผลให้ค่าเงินยูโรกลับมาอ่อนค่าอยู่ที่ 1.2537 จุดเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 14 เดือน นักลง
ทุนยังคงขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของค่าเงินยูโร ส่งผลให้น้ำมันปรับลงต่อ  54 เซนต์ มา
ปิดที่ US$73.86 เพราะนอกจากดอลลาร์จะแข็งค่าแล้ว สต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงก็กดดัน
ราคาน้ำมันเช่นกัน

            Technical View : “ดัชนีไหลหลุดออกจากกรอบ 768-781 จุดลงมาแล้ว…ทำให้ต้องรอดู
จังหวะการเข้าเทรดดิ้งใหม่ จากแนวรับระดับต่อๆ ไปก่อน โดยยังเลือกใช้วิธีตามดูแรงซื้อจาก
แนวรับก่อนเข้ารับ และยังเน้นเล่นสั้นทำกำไรเมื่อดีดกลับด้วย!!”
            แนวรับ    :   760-757* , 750-747** , 740-737***     
            แนวต้าน  :   770-772*** , 779-781*

Technical Picks:
SGP (Bt 10.30 เป้าเทคนิค 11-11.50 cut loss ถ้าหลุด 9.80)
TKT (Bt 1.90 เป้าเทคนิค 2.06-2.10 cut loss ถ้าหลุด 1.84)
TPIPL (Bt 8.45 เป้าเทคนิค 9.20-10 cut loss ถ้าหลุด 8.20) 
เข้าชม: 1,448

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com