Market Recap and Trend: สถานการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงขึ้น จะเป็นปัจจัยกดดัน SET ต่อเนื่องวันนี้ แม้การเข้าซื้อหุ้นในช่วงก่อนปิดตลาดเมื่อวันศุกร์จากการคาดการณ์ว่าการสลาย การชุมนุมของเจ้าหน้าที่จะจบในเร็วๆ นี้ ซึ่งส่งผลให้ SET ปิดตลาดปรับสูงขึ้น 2.24 จุด ที่ 768.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 18,964 ล้านบาท อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 5,611 ล้านบาท สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้คาดว่าจะถูกกดดันจาก สถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรง และยังไม่เห็นท่าทีว่ารัฐบาลจะสามารถยุติการชุมนุมได้ใน เร็วๆ นี้ ในขณะที่ดูเหมือนว่าทางออกในการเจรจาเหลือน้อยเต็มที ทั้งนี้สถานการณ์ทางการเมือง ที่ร้อนแรงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อนที่มีการประทะกันหลายครั้งระหว่าง กลุ่มผู้ชุมนุม กับเจ้าหน้าที่ฯ จนเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย จะเป็นปัจจัยกด ดัน SET ต่อเนื่องในช่วงนี้ ในขณะที่การปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones และคราคาน้ำมัน ที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ถือว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะกดดันตลาดในช่วงนี้
Investment Strategy: Wait & See รอดูปัจจัยการเมืองไปก่อน...รอซื้อเพิ่มที่ระดับ 700 +/- จุด สถานการณ์ทางการเมืองที่ร้องแรงมากขึ้น และยังไม่เห็นว่าการชุมนุมของกลุ่มคน เสื้อแดงจะจบลงเร็วๆ นี้ จะเป็นปัจจัยกดดัน SET และคาดว่าจะทำให้ SET มีความผันผวน มากกว่าปกติมาก ทำให้เราแนะนำนักลงทุน Wait & See ไปก่อน ขณะที่เรายังแนะนำนักลงทุน ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของพอร์ตต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน และรอทยอยสะสมหุ้นเพิ่มเมื่อปรับลด ลงไปที่ระดับ 700 +/- จุด (รอยืนยันการเพิ่มพอร์ตอีกครั้ง) ทั้งนี้แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมือง ในปัจจุบันจะเลวร้ายกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ในช่วงต้นสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามเรายังคงมองว่า ผลกระทบทางการเมืองต่อผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนจะเป็นไปอย่างจำกัดอยู่ดี เนื่องจากมีจำนวนหุ้นมากถึง 60% ของ SET ที่ได้รับผลกระทบต่อปัจจัยทางการเมืองน้อย และมองว่าการปรับลดลงของ SET จะเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นที่มีพื้นฐานดี และกำไร ยังมีการขยายตัวดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก
Futures Strategy : สถานะ SHORT ยังได้เปรียบต่อเนื่อง มองเป้าหมายการปรับลดลงที่ 522-525 จุด (ดูรายละเอียดใน Derivatives Strategy)
AUTO : หุ้นกลุ่มส่งออก และอาหารยังมี SENTIMENT แข็งแกร่งกว่าตลาด
Recommended Portfolio: พอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทน +0.9% ดีกว่าอัตราผลทอบแทน SET ที่ +0.7% (Update วันที่ 10 พ.ค. 53) พอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทน +0.9% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ SET มีอัตรา ผลตอบแทน +0.7% หรือพอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า SET อยู่ 0.2% ในขณะที่ ถ้าพิจารณาตั้งแต่จัดทำพอร์ตจำลอง (ก.ย. 49) มีอัตราผลตอบแทน +159% ดีกว่าตลาดที่มีอัตรา ผลตอบแทน +9.6% อยู่ 137% โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา CPALL เป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทน ดีที่สุด +4.7% ขณะที่ STANLY ปรับลดลง 1.9% ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต…สำหรับ สัปดาห์นี้ถือหุ้นทั้ง 4 ตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ได้แก่ STANLY (ได้รับผลดีจากหอุตสาหกรรม รถยนต์ฟื้นตัว) CPALL (การขยายสาขา และเพิ่มกำไรขั้นต้นส่งผลดีต่อผลการดำเนินงาน) TUF (คาดผลการดำเนินงานขยายตัวดีต่อเนื่องในปี 2010) TICON (ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปัน ผลสูง ธุรกิจโรงงานให้เช่าฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ) และเพิ่ม TCAP เข้ามาในพอร์ต โดยคาดว่า TCAP จะมีโอกาสในการเติบโตสูงหลังจากควบรวมกิจการกับ SCIB
| เข้าชม: 1,504 |
|