May 6, 2024   3:06:08 AM ICT
คาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบ 740-760 จุด ผวาการเมืองเดือดไร้ทางออกหลัง
หุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบ 740-760 จุด ผวาการเมืองเดือดไร้ทางออกหลัง
จนท.-เสื้อแดงยังปะทะต่อเนื่อง

   หุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบ 740-760 จุดยังผวาการเมืองเดือดรุนแรงไร้
ทางออกหลังจนท.-เสื้อแดงยังปะทะต่อเนื่องทำประชาชนเจ็บ-ตายอื้อ ดันนลท.กังวล
จับตาใกล้ชิด ฟากปัจจัยตปท.เคลื่อนไหวน้อยไร้ผลดาวโจนส์บวกแค่ 6 จุด-น้ำมันทรง
ต่ำที่ 70 เหรียญฯไม่กระทบ แนะทยอยซื้อที่แนวรับหุ้นปันผลดี  ประเมินกรอบแนวรับ
ที่ 750 -740 จุด ให้แนวต้านที่  760-770จุด

   นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คัน
ทรี่กรุ๊ป กล่าวว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคเอเชียที่รีบาวน์
ตัวขึ้น จะเป็นแรงช่วยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยในการเปิดตลาดเช้าวันนี้ปรับตัวรีบาวน์ได้
เช่นเดียวกัน แต่สถานการณ์ทั่วไปยังอิงปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศเป็นหลัก
ดังนั้นดัชนีฯจึงมีแนวโน้มที่จะผันผวนในระหว่างวันได้ ภายในกรอบแนวรับและแนว
ต้านที่ 730-758 จุด โดยประเด็นทางการเมืองในขณะนี้มีความเสี่ยงที่นักลงทุนมีความ
กังวลเพิ่มมากขึ้น จากการขยายตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน
เผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งไม่สามารถควบคุมมวลชนกลุ่มแนวร่วม
ในขณะนี้ได้
   โดย ดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 08:08 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
อยู่ที่ระดับ 10,268.10 จุด เพิ่มขึ้น 32.34 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,313.14 จุด
ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,235.76 จุด หรือ 0.32 %  ดัชนี เวทเต็ด ตลาดหุ้น
ไต้หวัน เวลา 08:27 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 7,627.42 จุด เพิ่มขึ้น
28.70 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 7,630.10 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 7,598.72
จุด หรือ 0.38 % ดัชนี สเตรทไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เวลา 08:33 น. (ตามเวลา
ประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 2,831.70 จุด ลดลง 1.99 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ
2,837.39 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 2,833.69 จุด หรือ -0.07 % ดัชนี คอมโพสิต
ตลาดหุ้นโซล เวลา 08:36 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 1,642.62 จุด ลดลง
8.89 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1,662.31 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 1,651.51 จุด
หรือ -0.54 %
   ดังนั้นในช่วงเช้า หากดัชนีฯเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ แนะนำว่าควรลดความ
เสี่ยงก่อน โดยเฉพาะในหุ้นโภคภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งมองว่าไม่ใช่จังหวะในการซื้อลง
ทุน เนื่องจากการประเมินการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติว่าจะลดพอร์ตต่อเนื่อง
ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกและราคาทองคำก็พักตัวเช่นเดียวกัน
   โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนมิถุนายน ที่ตลาด
นิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 70.08  ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.53 ดอลลาร์ หรือ 1.90%
   
   อย่างไรก็ตาม นอกจากจะต้องติดตามการเคลื่อนไหวต่างๆทางการเมือง
แล้ว ยังต้องติดตามค่าเงินบาท ว่าจะมีการทิ้งค่าเงินบาทหรือไม่ ซึ่งวานนี้ (17 พ.ค.
53) อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากที่มีแรงเก็งกำไรในค่าเงินสกุลดอลลาร์ ภายหลังจากความ
เชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ กังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปว่าอาจจะกระทบ
ต่อสถาบันการเงินขนาดใหญ่ และทำให้ค่าเงินยูโรร่วงต่ำสุดในรอบ 4 ปี
   สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนอกเหนือจากการลดพอร์ตตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว
นั้น ยังสามารถเก็งกำไรสั้นๆในระหว่างวัน ในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการประกาศผล
ประกอบการไตรมาส 1/53 นี้ได้
   ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอ
เซียพลัส กล่าวว่า คาดแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้
จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบระหว่างแนวรับที่ 740 จุด และแนวต้านที่ 760 จุด
พร้อมทั้งประเมินว่าดัชนีฯจะไม่เคลื่อนไหวปรับตัวลงแรงเท่ากับวานนี้ที่ได้สะท้อน
อิทธิพลลบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากบรรยากาศการลงทุน
ยังถูกกดดันต่อเนื่องจากปัจจัยการเมืองในประเทศที่สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม
แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในบริเวณหลายจุดในเขต
พื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบการเข้ากดดันขอกระชับพื้นที่จากรัฐบาลที่ยังคงมีเหตุปะทะ
ทั้งสองฝ่ายระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าของภาครัฐฯ อีกทั้งยังมีความความรุนแรง
จนเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้เหตุการณ์ดัง
กล่าวยังไม่เห็นแนวทางที่จะยุติปัญหาและยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนยังกังวล
   ด้านปัจจัยในต่างประเทศในวันนี้ทั้งจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่
วานนี้ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 5 จุดและราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ที่ยังคงลด
ลงต่อเนื่องอีก 1.53 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ระดับ 70.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลซึ่งถือ
ว่าราคายังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นจึงประเมินว่าทั้งสองปัจจัยดังกล่าวจะมีส่งผล
กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างนัยสำคัญ
   สำหรับปัจจัยที่จะต้องติดตามคือสถานการณ์การเคลื่อนไหวและความคืบ
หน้าทางการเมืองที่ยังคงมีการปะทะและความรุนแรงในขณะนี้ว่าที่ยังเป็นตัวแปรหลัก
ที่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนว่าจะมีทิศทางต่อไปอย่างไร
   สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำทยอยซื้อที่บริเวณแนวรับในหุ้นที่จ่ายเงิน
ปันผลดีและมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ประเมินแนวรับอยู่ที่ 740 จุดและแนวต้านที่
760 จุด
   ขณะที่ นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย เปิดเผย
ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยช่วงเช้าวันนี้เชื่อว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงหลุดที่
ระดับแนวรับแรกที่ 750 จุด เนื่องจากเบื้องต้นประเมินว่านักลงทุนยังคงวิตกกังวลกับ
ปัจจัยสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงเมื่อไร ซึ่งเหตุการณ์
ต่างๆเริ่มตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันประเด็นในช่วงนี้ที่นักลงทุนเกิดความกังวล
กับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจที่มีความเปราะบาง สะท้อนได้จากวานนี้ตลาดหุ้นทั่ว
โลกในช่วงนี้ยังเป็นช่วงขาลง แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดบวก แต่ท่ามกลางความกังวล
ของนักลงทุน หลังจากที่หลายประเทศในยุโรป โดยเฉพาะกรีซ สเปน และโปรตุเกส
ปรับลดงบประมาณเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นอย่างสูง และอาจส่งผล
กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรป  ทำให้ดัชนีฯเพิ่มขึ้นเพียงเล็ก
น้อย 5.67 จุด ปิดที่10,625.83 จุด   
   ทั้งนี้ โดยตลอดการซื้อขายดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลดลงเกือบตลอดการ
ซื้อขาย ก่อนขยับมาปิดในแดนบวกได้ รวมทั้งราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลงต่อ
เนื่องอีก 1.53 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ระดับ 70.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเชื่อว่านัก
ลงทุนได้โยกย้ายเม็ดเงินจากสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ หุ้น น้ำมัน เข้าสู่ตลาดเงินมากขึ้น
ซึ่งเชื่อว่าการออกพันธบัตรไทยเข้มแข็งรอบ 2 ของรัฐบาลครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่
ดีกับประชาชนที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
   'หุ้นไทยเช้านี้จะปรับตัวลดลงหลุด 750 จุด โดยจะเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ
740-745 จุด ในช่วงเปิดการซื้อขาย ซึ่งประเมินแนวต้านไว้ประมาณ 770 จุด แต่เชื่อ
ว่าจะไม่สามารถไต่ระดับขึ้นไปแตะที่จุดดังกล่าวได้' นายเผดิมภพ กล่าว
   นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นต่างประเทศ อาทิ ภาวะตลาดหุ้น
นิวยอร์ค ดัชนี ดาวโจนส์  ปิดบวก 5.67 จุด หรือ 0.05% ดัชนี ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง
เวลา 08:58 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 19,768.80 จุด เพิ่มขึ้น 53.60 จุด
ดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดเช้าที่ระดับ  10,281.40 จุด เพิ่มขึ้น 45.64 จุด
หรือ 0.45 % ดัชนี เวทเต็ด: ตลาดหุ้นไต้หวัน เวลา 08:27 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
อยู่ที่ระดับ 7,627.42 จุด เพิ่มขึ้น 28.70 จุด ดัชนี สเตรทไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เวลา
08:33 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 2,831.70 จุด ลดลง 1.99 จุด
   กลยุทธ์การลงทุน แนะนักลงทุนระยะกลาง Wait&See แต่หากดัชนีฯยืน
เหนือระดับ 750 จุด ให้เข้าไปเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ โดยในเงินลงทุนเพียง 5% ของ
พอร์ต เพราะเชื่อว่าราคาจะมีโอกาสฟื้นตัวตามสัญญาณทางเทคนิค โดยประเมินแนว
รับไว้ที่ 750 จุด และแนวรับถัดไป 728 จุด ประเมินแนวต้านไว้ที่ 770 จุด   
เข้าชม: 1,602

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com