หุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบ 740-760 จุด ผวาการเมืองเดือดไร้ทางออกหลัง จนท.-เสื้อแดงยังปะทะต่อเนื่อง
หุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบ 740-760 จุดยังผวาการเมืองเดือดรุนแรงไร้ ทางออกหลังจนท.-เสื้อแดงยังปะทะต่อเนื่องทำประชาชนเจ็บ-ตายอื้อ ดันนลท.กังวล จับตาใกล้ชิด ฟากปัจจัยตปท.เคลื่อนไหวน้อยไร้ผลดาวโจนส์บวกแค่ 6 จุด-น้ำมันทรง ต่ำที่ 70 เหรียญฯไม่กระทบ แนะทยอยซื้อที่แนวรับหุ้นปันผลดี ประเมินกรอบแนวรับ ที่ 750 -740 จุด ให้แนวต้านที่ 760-770จุด
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คัน ทรี่กรุ๊ป กล่าวว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคเอเชียที่รีบาวน์ ตัวขึ้น จะเป็นแรงช่วยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยในการเปิดตลาดเช้าวันนี้ปรับตัวรีบาวน์ได้ เช่นเดียวกัน แต่สถานการณ์ทั่วไปยังอิงปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศเป็นหลัก ดังนั้นดัชนีฯจึงมีแนวโน้มที่จะผันผวนในระหว่างวันได้ ภายในกรอบแนวรับและแนว ต้านที่ 730-758 จุด โดยประเด็นทางการเมืองในขณะนี้มีความเสี่ยงที่นักลงทุนมีความ กังวลเพิ่มมากขึ้น จากการขยายตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน เผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งไม่สามารถควบคุมมวลชนกลุ่มแนวร่วม ในขณะนี้ได้ โดย ดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 08:08 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 10,268.10 จุด เพิ่มขึ้น 32.34 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 10,313.14 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 10,235.76 จุด หรือ 0.32 % ดัชนี เวทเต็ด ตลาดหุ้น ไต้หวัน เวลา 08:27 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 7,627.42 จุด เพิ่มขึ้น 28.70 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 7,630.10 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 7,598.72 จุด หรือ 0.38 % ดัชนี สเตรทไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เวลา 08:33 น. (ตามเวลา ประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 2,831.70 จุด ลดลง 1.99 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 2,837.39 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 2,833.69 จุด หรือ -0.07 % ดัชนี คอมโพสิต ตลาดหุ้นโซล เวลา 08:36 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 1,642.62 จุด ลดลง 8.89 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1,662.31 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 1,651.51 จุด หรือ -0.54 % ดังนั้นในช่วงเช้า หากดัชนีฯเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ แนะนำว่าควรลดความ เสี่ยงก่อน โดยเฉพาะในหุ้นโภคภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งมองว่าไม่ใช่จังหวะในการซื้อลง ทุน เนื่องจากการประเมินการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติว่าจะลดพอร์ตต่อเนื่อง ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกและราคาทองคำก็พักตัวเช่นเดียวกัน โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนมิถุนายน ที่ตลาด นิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 70.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.53 ดอลลาร์ หรือ 1.90% อย่างไรก็ตาม นอกจากจะต้องติดตามการเคลื่อนไหวต่างๆทางการเมือง แล้ว ยังต้องติดตามค่าเงินบาท ว่าจะมีการทิ้งค่าเงินบาทหรือไม่ ซึ่งวานนี้ (17 พ.ค. 53) อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากที่มีแรงเก็งกำไรในค่าเงินสกุลดอลลาร์ ภายหลังจากความ เชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ กังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปว่าอาจจะกระทบ ต่อสถาบันการเงินขนาดใหญ่ และทำให้ค่าเงินยูโรร่วงต่ำสุดในรอบ 4 ปี สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนอกเหนือจากการลดพอร์ตตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว นั้น ยังสามารถเก็งกำไรสั้นๆในระหว่างวัน ในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการประกาศผล ประกอบการไตรมาส 1/53 นี้ได้ ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอ เซียพลัส กล่าวว่า คาดแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้ จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบระหว่างแนวรับที่ 740 จุด และแนวต้านที่ 760 จุด พร้อมทั้งประเมินว่าดัชนีฯจะไม่เคลื่อนไหวปรับตัวลงแรงเท่ากับวานนี้ที่ได้สะท้อน อิทธิพลลบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากบรรยากาศการลงทุน ยังถูกกดดันต่อเนื่องจากปัจจัยการเมืองในประเทศที่สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในบริเวณหลายจุดในเขต พื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบการเข้ากดดันขอกระชับพื้นที่จากรัฐบาลที่ยังคงมีเหตุปะทะ ทั้งสองฝ่ายระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าของภาครัฐฯ อีกทั้งยังมีความความรุนแรง จนเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้เหตุการณ์ดัง กล่าวยังไม่เห็นแนวทางที่จะยุติปัญหาและยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนยังกังวล ด้านปัจจัยในต่างประเทศในวันนี้ทั้งจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ วานนี้ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 5 จุดและราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ที่ยังคงลด ลงต่อเนื่องอีก 1.53 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ระดับ 70.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลซึ่งถือ ว่าราคายังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นจึงประเมินว่าทั้งสองปัจจัยดังกล่าวจะมีส่งผล กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างนัยสำคัญ สำหรับปัจจัยที่จะต้องติดตามคือสถานการณ์การเคลื่อนไหวและความคืบ หน้าทางการเมืองที่ยังคงมีการปะทะและความรุนแรงในขณะนี้ว่าที่ยังเป็นตัวแปรหลัก ที่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนว่าจะมีทิศทางต่อไปอย่างไร สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำทยอยซื้อที่บริเวณแนวรับในหุ้นที่จ่ายเงิน ปันผลดีและมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ประเมินแนวรับอยู่ที่ 740 จุดและแนวต้านที่ 760 จุด ขณะที่ นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย เปิดเผย ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยช่วงเช้าวันนี้เชื่อว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงหลุดที่ ระดับแนวรับแรกที่ 750 จุด เนื่องจากเบื้องต้นประเมินว่านักลงทุนยังคงวิตกกังวลกับ ปัจจัยสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงเมื่อไร ซึ่งเหตุการณ์ ต่างๆเริ่มตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันประเด็นในช่วงนี้ที่นักลงทุนเกิดความกังวล กับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจที่มีความเปราะบาง สะท้อนได้จากวานนี้ตลาดหุ้นทั่ว โลกในช่วงนี้ยังเป็นช่วงขาลง แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดบวก แต่ท่ามกลางความกังวล ของนักลงทุน หลังจากที่หลายประเทศในยุโรป โดยเฉพาะกรีซ สเปน และโปรตุเกส ปรับลดงบประมาณเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นอย่างสูง และอาจส่งผล กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรป ทำให้ดัชนีฯเพิ่มขึ้นเพียงเล็ก น้อย 5.67 จุด ปิดที่10,625.83 จุด ทั้งนี้ โดยตลอดการซื้อขายดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลดลงเกือบตลอดการ ซื้อขาย ก่อนขยับมาปิดในแดนบวกได้ รวมทั้งราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลงต่อ เนื่องอีก 1.53 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ระดับ 70.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเชื่อว่านัก ลงทุนได้โยกย้ายเม็ดเงินจากสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ หุ้น น้ำมัน เข้าสู่ตลาดเงินมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าการออกพันธบัตรไทยเข้มแข็งรอบ 2 ของรัฐบาลครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ ดีกับประชาชนที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ 'หุ้นไทยเช้านี้จะปรับตัวลดลงหลุด 750 จุด โดยจะเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 740-745 จุด ในช่วงเปิดการซื้อขาย ซึ่งประเมินแนวต้านไว้ประมาณ 770 จุด แต่เชื่อ ว่าจะไม่สามารถไต่ระดับขึ้นไปแตะที่จุดดังกล่าวได้' นายเผดิมภพ กล่าว นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นต่างประเทศ อาทิ ภาวะตลาดหุ้น นิวยอร์ค ดัชนี ดาวโจนส์ ปิดบวก 5.67 จุด หรือ 0.05% ดัชนี ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เวลา 08:58 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 19,768.80 จุด เพิ่มขึ้น 53.60 จุด ดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดเช้าที่ระดับ 10,281.40 จุด เพิ่มขึ้น 45.64 จุด หรือ 0.45 % ดัชนี เวทเต็ด: ตลาดหุ้นไต้หวัน เวลา 08:27 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 7,627.42 จุด เพิ่มขึ้น 28.70 จุด ดัชนี สเตรทไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เวลา 08:33 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 2,831.70 จุด ลดลง 1.99 จุด กลยุทธ์การลงทุน แนะนักลงทุนระยะกลาง Wait&See แต่หากดัชนีฯยืน เหนือระดับ 750 จุด ให้เข้าไปเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ โดยในเงินลงทุนเพียง 5% ของ พอร์ต เพราะเชื่อว่าราคาจะมีโอกาสฟื้นตัวตามสัญญาณทางเทคนิค โดยประเมินแนว รับไว้ที่ 750 จุด และแนวรับถัดไป 728 จุด ประเมินแนวต้านไว้ที่ 770 จุด | เข้าชม: 1,602 |
|