ประเด็นสำคัญวันนี้ SET Index movement
** ระยะสั้น “ฟ้าหลังฝน” SET อาจทะลุ High เดิม @ 820 จับตา PTTCH KBANK & THAI
การที่รัฐสามารถเคลียร์พื้นที่ราชประสงค์ได้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังใช้กำลังทหารเข้ากดดัน
จนทำให้แกนนำ(ส่วนใหญ่)ยอมมอบตัว แต่กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับแกนนำกับก่อวินาศกรรม
เผาบ้านเผาเมืองรวม 30 จุด (หนักสุดคือ Central World ของ CPN ซึ่งเป็นห้างใหญ่สุดของ
ประเทศ & ใหญ่ที่ 3 ของเอเชีย) จนรัฐต้องประกาศเคอร์ฟิว 6 วัน (19-25 พ.ค.) เพื่อคุม
สถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ถือว่าเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แม้จะยังมีเหตุป่วนรายวันแต่ก็ประปราย
3 เหตุผลที่เราให้เราเชื่อว่าตลาดหุ้นในระยะสั้นจะตอบรับเชิงบวก คือ
1) มองไปข้างหน้าแล้วดีกว่าเดิม หากฝั่งตรงข้ามจะลุกขึ้นมาต่อสู้อีกคงไม่ง่าย เพราะเสีย
ความชอบธรรมไปแล้วที่ว่าจะชุมนุมแบบสันติ/อหิงสา แต่กลับมีคนบาดเจ็บ & เสียชีวิต
จำนวนมาก ทั้งนี้ต้องระวังยุทธการต่อสู้ที่จะเปลี่ยนจากบนดินสู่ “ใต้ดิน” แต่หากรัฐเป็น
ปึกแผ่นกับฝ่ายความมั่นคง (ทหาร & ตำรวจ) เหมือนที่เป็นอยู่ ก็น่าจะรับมือไหว
2) ขณะนี้รัฐบาลอยู่ในฐานะได้เปรียบ อาจบริหารงานต่อไปสักระยะเพื่อดำเนินตาม
นโยบายสมานฉันท์ 5 ข้อ โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อซื้อใจพรรคร่วมฯ ก่อน
ประกาศยุบสภาฯเพื่อเลือกตั้งใหม่ ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพราะ
ฝั่งตรงข้ามเสียความชอบธรรมตั้งแต่ก่อวินาศกรรมเผาบ้านเผาเมืองตัวเอง ซึ่งหากเป็น
เช่นนั้น หุ้นจะขึ้นกระฉูด เพราะการบริหารประเทศจะมีความต่อเนื่อง
3) คาดฝรั่งจะกลับลำมาซื้อคืน นับแต่ที่รัฐประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฝรั่งขายสุทธิหุ้นไทย
รวม 5 หมื่นลบ. (8 เม.ย.-19 พ.ค.) กด SET ร่วงจาก High ของปี @ 820 จุด มาปิดที่
~760 จุด หรือร่วงไป 7% ในมุมกลับ คาดว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะถูกยกเลิกในเร็ววันนี้
3 หุ้นเด่นที่คาดว่าราคาจะเด้งแรง คือ PTTCH (ปิด 102.50, เป้า 125, Upside 20%) ลุ้น
มาบตาพุดคืบหลังรัฐแก้ปัญหาการเมืองเสร็จ KBANK (ปิด 88, เป้า 105, Upside 19%)
เพราะได้ประโยชน์สูงสุดหากเศรษฐกิจฟื้น และ THAI (ปิด 24.80, เป้า 30, Upside 21%)
คาดมีโอกาสเพิ่มทุนสำเร็จ & การท่องเที่ยวจะฟื้นตัวอย่างแรง หลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
** แต่ระยะยาวประเทศไทยอาจด้อยกว่าเพื่อนบ้านเพราะเสถียรภาพทางการเมืองต่ำ นอกจาก
ความเสี่ยงเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ทุกประเทศต้องเผชิญ ไทยเองกลับสร้างความ
เสี่ยงเฉพาะตัวขึ้นมา คือ “การเมือง” อาจมีผลให้ต้องเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย ซึ่งที่ผ่านมาอายุ
เฉลี่ยของรัฐบาลหลังพฤษภาทมิฬปี 1992 ก็สั้นอยู่แล้วแค่ 29 เดือน หรือ 1.6 ปี (จาก 4 ปี) | | เข้าชม: 1,597 |
|
