Market Recap and Trend: SET เคลื่อนไหวผันผวนทางลงหลังความวุ่นวายทางการเมือง รุนแรงกว่าคาด...ปัญหาหนี้สินยุโรปกดดันเศรษฐกิจโลก แม้ว่า SET จะปรับสูงขึ้น 0.71% ก่อนที่แกนนำจะประกาศเข้ามอบตัวช่วงกลางสัปดาห์ ก่อนปิดตลาดที่ 765.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายปานกลาง 14,316 ล้านบาท แต่เรามองว่าเหตุ จลาจลที่เกิดขึ้นหลังจากมีการมอบตัวของแกนนำรุนแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จะเป็นปัจจัย กดดันตลาดหุ้นวันนี้ ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิต่อเนื่อง 4,715 ล้านบาท สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางลง เนื่องจากความรุนแรงทางการเมืองมี มากกว่าที่คาดไว้ และปัญหาหนี้สินในยุโรปเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้แม้ว่าภาครัฐฯจะ สามารถควบคุมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงไว้ได้ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับ ว่าเหตุจลาจลหลังจากที่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศเข้ามอบตัวรุนแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยการเมืองจะมีผลกระทบต่อ SET จำกัดมากขึ้นในอนาคต ขณะที่ ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลต่อ SET มากขึ้นคือปัจจัยทางเศรษฐกิจ และทิศทางการไหลของเงินทุน ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับลดลงเพียง 0.4% เท่านั้นขณะที่ตลาดหุ้นเอเชีย ยุโรป หรือ สหรัฐฯ ปรับลดลงแรง 4-5% จากความกังวลต่อปัญหาหนี้ยุโรปจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกขยายตัว น้อยกว่าที่คาดไว้ ซึ่งทำให้เรามองว่ากระแสเงินทุนไหลออกจะเป็นปัจจัยกดดัน SET วันนี้ด้วย สำหรับตัวเลข GDP 1Q53 ที่จะประกาศวันนี้แม้คาดว่าจะขยายตัวมากกว่า 9% แต่ก็เป็น Lagging Indicator ที่ตลาดคาดไว้แล้ว
Investment Strategy: ยังเน้นถือหุ้น Defensive, Dividend และ Low Beta ไปก่อน... หลีกเลี่ยงกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการเมืองโดยตรง เราแนะนำนักลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของพอร์ตต่อเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ก่อน โดย เน้นการถือหุ้น Dividend, Defensive Play, และ Low Beta อย่าง DCC, SPALI, MAKRO, TICON,CPALL, RATCH, GLOW, และ EGCO ต่อเนื่อง เนื่องจากมองว่ากลุ่ม หุ้นเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง และความเสี่ยงจากปัญหาหนี้สินยุโรปไม่มาก ขณะที่นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางการเมืองไปก่อน จนกว่าจะสามารถ สรุปผลกระทบได้อย่างหุ้น CPN (กรณีเผา Central World ซึ่งแม้อาจมีประกันรองรับแต่อาจไม่ ครอบคลุมทั้งหมด), BEC (กรณีเผาสถานีฯ), BIGC (กรณีเผาสาขา BIGC ราชดำริ) รวมไปถึง หุ้นกลุ่มโรงแรมที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบระยะสั้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงในช่วง 2Q53 อย่าง ERAWAN, MINT, และ CENTEL Futures Strategy: เล่นสถานะ SHORT เป็นหลัก โดยมีเป้าหมายด้านล่างที่ 520 จุด (ดูรายละเอียดใน Derivatives Strategy)
AUTO: ไม่มี Update สำหรับ Auto Matrix
Recommended Portfolio: พอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทน +0.9% ดีกว่าอัตราผลตอบแทน SET ที่ +0.7% (Update วันที่ 10 พ.ค. 53) พอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทน +0.9% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ SET มีอัตรา ผลตอบแทน +0.7% หรือพอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า SET อยู่ 0.2% ในขณะที่ ถ้าพิจารณาตั้งแต่จัดทำพอร์ตจำลอง (ก.ย. 49) มีอัตราผลตอบแทน +159% ดีกว่าตลาดที่มีอัตรา ผลตอบแทน +9.6% อยู่ 137% โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา CPALL เป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทน ดีที่สุด +4.7% ขณะที่ STANLY ปรับลดลง 1.9% ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต…สำหรับ สัปดาห์นี้ถือหุ้นทั้ง 4 ตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ได้แก่ STANLY (ได้รับผลดีจากหอุตสาหกรรม รถยนต์ฟื้นตัว) CPALL (การขยายสาขา และเพิ่มกำไรขั้นต้นส่งผลดีต่อผลการดำเนินงาน) TUF (คาดผลการดำเนินงานขยายตัวดีต่อเนื่องในปี 2010) TICON (ให้อัตราผลตอบแทนจาก เงินปันผลสูง ธุรกิจโรงงานให้เช่าฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ) และเพิ่ม TCAP เข้ามาในพอร์ต โดยคาดว่า TCAP จะมีโอกาสในการเติบโตสูงหลังจากควบรวมกิจการกับ SCIB
| เข้าชม: 1,601 |
|