P_aud สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 531 | วันที่: 22/07/2006 @ 13:03:25 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต หุ้น TOP ทำนิวไฮสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่ 64 บาท โบรกฯแนะซื้อลงทุนให้ราคาเป้าหมายที่ 77 บาท เชื่อไตรมาส 2 กำไรมากเป็นพิเศษกว่า 6.5 พันล้านบาท ได้แรงหนุนจากค่าการกลั่นหนุน วงใน TOP เชื่ออาจได้สูงถึง 7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
หุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน)หรือ TOP ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ซึ่งนักวิเคราะห์ คาดว่า ไตรมาส 2/49 บริษัทจะมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยหุ้น TOP ปรับขึ้นแตะ 64 บาท สูงสุดนับจากราคา 64.50 บาท เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม2549 ที่ผ่านมา ล่าสุดปิดตลาดวานนี้(20 ก.ค.)ที่ 63 บาท เพิ่มขึ้นมา 1 บาท หรือ 1.61%มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 238 ล้านบาท
โดย บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน)แนะซื้อลงทุนให้ราคาเป้าหมายที่ 77 บาท ซึ่งเชื่อว่าในไตรมาส 2/49 ไทยออยล์จะมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์จำนวน 6,537 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.20 บาท เติบโตสูงถึง85% เมื่เทียบกับปีที่ผ่านมา
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ คาดว่า TOP จะมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/49 ที่6,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% จากงวดปี 2548 ที่ผ่านมา และ 51% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยกำไรจำนวนมากในไตรมาสนี้ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาหุ้น TOP ปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น
ทั้งนี้ กำไรสุทธิของไทยออยล์ได้แรงหนุนจากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันส่วนใหญ่ในตลาดภูมิภาค หยุดซ่อมบำรุงในช่วงไตรมาส 2/49 ขณะที่ประมาณกำไรที่คาดว่า อยู่ในด้านสูงของตัวเลขกำไรที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในช่วง 4,600-6,300ล้านบาท
นอกจากนี้ ประมาณการกำไรครึ่งปีแรก ซึ่งไม่รวมกำไรขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน ผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยน และรายการพิเศษอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วน 38% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ 2.08 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงมีแนวดน้มที่จะปรับประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี2549 ลดลงประมาณ 10-15% หลังการประกาศผลประกอบการ
สาเหตุสำคัญคือ ประมาณการต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการกลั่นไว้ต่ำเกินไป แต่เชื่อว่าการประมาณการกำไรลดลงจะไม่มีผลกระทบต่อราคาหุ้น เนื่องจากเป้นประมาณการที่สูงกว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาด
อย่างไรก็ตาม แนะซื้อหุ้น TOP ในระยะยาว เนื่องจากการขาดแคลนกำลังการกลั่นใหม่อย่างต่อเนื่องในระหว่างปี 2549-2553 น่าจะช่วยสนับสนุนราคาหุ้นได้
แหล่งข่าวจาก บริษัทไทยออยล์ จำกัด(มหาชน)หรือ TOP ประเมินว่า ไตรมาส 2/49 อาจได้รับค่าการกลั่น 7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่ระดับ 4.60เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลและคาดว่าค่าการกลั่นทั้งปี โดยเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ระดับ 6.60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
โดยค่าการกลั่นที่ได้รับเพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อผลประกอบการช่วงไตรมาส 2 ที่เชื่อว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่ง TOP มีรายได้รวมทั้งสิ้น 66,689.87ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 4,086.28 ล้านบาท
การที่ราคาน้ำมันและปิโตรเคมีปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัท คาดว่าช่วงไตรมาสสองปีนี้ ค่าการกลั่นน่าสูงขึ้นกว่าไตรมาสแรก ระดับ 7เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
อย่างก็ตามช่วงกลางปี 2550 จะปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นไทยออยล์ยูนิต 3 เพื่อติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์เชื่อมต่อส่วนขยายกำลังการผลิต 50,000 บาร์เรลต่อวัน โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 8-10 สัปดาห์ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันหายไปประมาณ 100,000 ลิตรต่อวัน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างแน่นอน เพราะหากแล้วเสร็จจะทำให้โรงกลั่นไทยออยล์มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 270,000 บาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบัน 220,000 บาร์เรลต่อวันและมีแนวโน้มว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการกลั่นได้อีกประมาณ 5-6%
ที่มา:
ข่าวหุ้น [/color:ad62e491e7">
|