เห็นตลาดหุ้นไทยยามนี้แล้ว อดนึกถึงท้องฟ้าหลังหลังพายุไต้ฝุ่นพัดผ่านไม่ได้
เพราะดูสว่างสดใสสวยงามเหลือเกินค่ะ
ท่านนักลงทุนทั้งหลายอย่าหาว่าเดี๊ยนพูดเวอร์ไปเลยนะคะ ก็มันรู้สึกแบบนี้จริง ๆ
ที่ผ่านมาตลาดหุ้นบ้านเรามีเมฆดำขมุกขมัวลอยเต็มไปหมด
แถมฝนก็กระหน่ำไปหยุดหย่อน มองไปทางไหนก็มืดมนค่ะ
แต่หลังจากมีกำหนดการเลือกตั้งส.ส.อย่างเป็นทางการ
และเฟดมีแนวโน้มหยุดขึ้นดอกเบี้ยหลังปรับขึ้นติดต่อกันกว่า 2 ปี
ทุกอย่างก็ดูโล่งโปร่ง สดใส พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง
แหมวันนี้ เดี๊ยนดูติสต์แตกยังไงก็ไม่รู้นะคะเนี๊ยะ

*คนทำงานวงการตลาดหุ้นก็คงหายใจหายคอคล่องขึ้นค่ะ
การทำงานในยุคขาลงไม่ใช่เรื่องหมูๆ พาลจะโดนข้อหาไร้ฝีมือได้ง่ายๆ
ทั้งรัฐมนตรีคลังและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯเลยพร้อมใจกันเดินหน้าลุยโรดโชว์ดูดเงินเข้าบ้านต่อ
เพราะมั่นใจหลังจากนี้จะตอบคำถามของนักลงทุนต่างชาติได้เป็นฉากๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำ
หลังจากน้ำท่วมปาก อ้ำ ๆ อึ้งๆ มานาน จนรักษาการนายกทักษิณ ต้องเบรกห้ามโรดโชว์ต่างประเทศช่วงนี้
เพราะแทนที่จะได้โกยเงินเข้าบ้าน กลายเป็นนักลงทุนโกยแน้บกันหมดนะซีคะ

*นักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่าดัชนีสัปดาห์นี้น่าจะไปต่อค่ะ พบกันที่เดิมแนวต้าน 700จุด
คราวนี้หวังว่าจะฉลุยหลังจากโดนทุบมาหลายรอบ ทำให้ดัชนีหุ้นไทยไปไม่ถึงดวงดาวซะที
แต่ก็มีหลายคนระแวดระวังมากขึ้น เน้นเข้าเร็ว ออกเร็วไว้ก่อน
เพราะเชื่อว่าช่วงนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ก็แล้วแต่จะตัดสินใจค่ะ
ใครยังไม่มั่นใจก็อย่าเพิ่งทุ่มเต็มที่ ก้าวขาออกมาซักข้างก่อนก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ตกรถไฟขบวนนี้ค่ะ

*ต้นสัปดาห์นี้ โมนิก้า จะขอพูดถึงเรื่อง GSTEEL หุ้นเหล็ก(ที่กำลังจะร้อน)
เพราะหลังจากสัปดาห์ก่อนที่ประกาศไปว่าราคาหุ้นตอนนั้นถือว่าต่ำมาก เมื่อเทียบกับพื้นฐานบริษัททั้งหมด
ไม่ว่าจะดูมองไหนก็ตาม เป็นต้องดูดีไปหมดทุกด้าน(เหมือนโมนิก้าที่สวยทุกมุม)เลยทำให้ราคาหุ้นบวก

*โดยเฉพาะเมื่อเปิดงบการเงินก็ดูดี (คิดว่าไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมเหล็กเสียอีก)
ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินเอย สินค้าคงคลัง หรือแม้กระทั่งต้นทุน
ทั้งหมดนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าคนอื่นทั้งนั้น
เพราะเพื่อนฝูงที่ทำธุรกิจเหล็กมีทั้งหนี้สิน และสินค้าคงคลังที่บานเบอะ
ไม่ต้องดูใครอื่นแค่ SSI ก็พอแล้วคะ

*ส่วนเรื่องธรรมภิบาล หรือความโปร่งใสในการทำธุรกรรมต่างๆของบริษัท
ขอบอกคะว่าไม่ต้องห่วง เพราะทุกอย่างย่อมเป็นไปตามมาตรฐาน
ของการเป็นบริษัทมหาชนอย่างแน่นอน (เผลออาจจะมีมากกว่าด้วยซ้ำ)

เพราะมี คุณวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
มาให้เกียรติมานั่งคุมเป็นประธานบอร์ด ของ GSTEEL

* ส่วนใครกังวลว่าราคาหุ้น GSTEEL ในวันพรุ่งนี้(25ก.ค.)จะมีความผันผวน มากกว่าปกติ
อันนี้ โมนิก้า คงไม่เถียง เพราะเป็นวันแรกที่หุ้นที่หลุดไซเรนต์ พีเรียด(รอบแรก25%)
โดยจะมีหุ้นจำนวน 1,921 ล้านหุ้น ออกมาวิ่งเพ่พานในกระดาน
แต่ไม่ต้องตกใจนะคะเพราะเท่าที่เดี๊ยนรู้มา
ทางผู้บริหารได้ต่อสายตรงพูดคุยกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหลาย
ว่าอย่าเพิ่งขายหุ้นออกมา ซึ่งผู้ถือหุ้นกลุ่มต่างๆ ก็ประสานเสียงว่าจะไม่ขายหุ้นออกมาเช่นกันคะ

*โมนิก้ามั่นใจเหลือเกินว่า
กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมคงไม่เทขายหุ้นออกมาอย่างแน่นอน
เนื่องจากราคาหุ้นในกระดานถือว่าถูกยิ่งกว่าได้ฟรีเสียอีก
มีที่ไหนราคาหุ้นต่ำกว่าบุ๊คตั้งเท่ากว่าๆ อย่างนี้
คนฉลาดเห็นคงต้องตะครุบก่อนใครเพื่อนเลย

*นอกจากข่าวที่ผู้ถือหุ้นยืนหยัดแล้วว่าจะไม่ขายหุ้นแล้ว
ประเด็นต่อมาที่จะมาช่วยให้มีข่าวดีเพิ่มขึ้นอีก
คงหนีไม่พ้นข่าวการกำหนดราคาหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 2,200 ล้านหุ้น
ที่บริษัทจะนำไปจ่ายเป็นค่าซื้อหุ้น NSM
ซึ่งถ้ามีการกำหนดราคาหุ้นที่ราคาจองไอพีโอ(1.60 บาท)
คงทำให้อะไรดีขึ้นเป็นแน่นแท้คะ

*เท่าที่รู้มาตอนนี้มีคนเสนอไอเดียให้GSTEEL คุยกับ บริษัท On City HoldingsLimited
ให้ยอมรับการแลกหุ้นGSTEEL ที่ 1.60 บาท
ซึ่งถ้าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เราๆ ท่านๆ คงไม่ต้องห่วงเลยว่าราคาหุ้นจะวิ่งทะลุไปถึงไหน

*อย่างไงเสีย โมนิก้าก็อยากฝากไปถึงผู้บริหารของGSTEEL นะคะว่า
จะทำอะไรก็รีบทำซะ ถ้าปล่อยให้ถึงวันประชุมผู้ถือหุ้น(2ส.ค.)เมื่อไรแล้ว
ราคาหุ้นยังไม่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน งานนี้คงต้องโดนผู้ถือหุ้นเม้ง กันบ้างละคะงานนี้

*สำหรับคนที่กำลังงงว่าจะถือหุ้นไว้ หรือเทขายดี
เดี๊ยนขอบอกว่าไม่ต้องกังวลเลย มาถึงป่านนี้แล้ว
เพราะตอนนี้บอกได้คำเดียวว่า มีข่าวดีรอเรียงคิวอยู่อีกเป็นตับ
นี่ยังไม่เอ่ยถึงงบไตรมาส 2 ที่กำลังจะออกนี้ ถ้าหุ้นไม่ขึ้นคราวนี้แล้วจะขึ้นครั้งไหนล่ะคะ

*เพราะตอนนี้สืบทราบมาว่ากำไรที่จะออกมาไตรมาส 2 จะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้
โดยเท่าที่ดูตอนนี้กำไรไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทแน่นอนคะ

ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่อันนี้เดี๊ยนไม่บังคับคะ
แต่เดี๋ยวจะหาว่ามีของดีแล้วไม่บอกไม่ได้นะคะ ในเมื่อมองมุมไหนก็สวย
อย่างนี้ไม่ลงทุนไม่ได้แล้วละคะ รวยๆ เฮงๆ ทุกคนคะ
ราคาหุ้นปิดที่ 1.06 บาทบวกไป 0.03 บาท