P_aud
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531 |  วันที่: 24/07/2006 @ 13:18:25 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต บิ๊ก ASCON เชื่อความเชื่อมั่นต่างชาติกลับมาหลังในหลวงโปรดเกล้าฯ ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง เผยได้รับอานิสงส์หลังการเมืองชัดเจน ดันเมกะโปรเจ็กเดินหน้า ตั้งเป้าภายใน 2 ปีโกยรายได้จากงานภาครัฐเพิ่มเป็น 50% เชื่อกำไรปีนี้โตถึง 50% พร้อมเดินหน้าเทกเทคโอเวอร์บริษัทที่มีไลเซ่นส์ลุยประมูลงานรัฐ ด้านโบรกฯ ชี้ราคาหุ้นพุ่งถึงจุดเต็มมูลค่าแล้ว
นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา กรรมการ บบมจ.แอสคอน คอนสตรัคชั่น (ASCON) เปิดเผยว่า เชื่อว่าความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติจะกลับมาหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย โปรดเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกา กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รวมทั้งได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้โดยให้พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ และกำหนดให้เลือกตั้งวันที่ 15 ตุลาคมได้ทันที
ส่วนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ASCON ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น มองว่าน่าจะเกิดจากการที่นักลงทุนมองเห็นว่า หลังจากที่ภาพการเมืองมีความชัดเจนขึ้นและเมื่อมีรัฐบาลแล้ว โครงการเมกะโปรเจ็กก็จะสามารถเดินหน้าต่อได้ ซึ่งบริษัทก็จะได้รับอานิสงค์จากงานโครงการเมกะโปรเจ็กไปด้วย และหลังจากที่ภาพการเมืองมีความชัดเจนขึ้นและเมื่อมีรัฐบาลแล้ว โครงการเมะโปรเจ็กก็จะสามารถเดินหน้าต่อได้ ซึ่งบริษัทก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยประเด็นดังกล่าวคาดว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ราคาหุ้น ASCON ปรับตัวขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัท ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า บริษัทคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนงานภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 50% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้จากงานภาครัฐประมาณ 15-20% ซึ่งสาเหตุที่บริษัทจะมีการหันมารับงานภาครัฐมากขึ้นนั้น เนื่องจากงานภาครัฐจะมีการรับรู้รายได้ที่แน่นอนกว่า ขณะเดียวกัน บริษัทยังมั่นใจผลประกอบการปี 2549 รายได้และกำไรสุทธิจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 50% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 824.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 72.15 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากงานในมือและยังมีการ เข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มรายได้ไตรมาสที่ 2/49 คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาสแรกที่มีรายได้ 244.71 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 21.27 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากงานในมือได้ตามแผนงานที่วางไว้ นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯมีแผนที่จะเข้าร่วมประมูลงานเพิ่มอีกประมาณ 10 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมมากกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งก็คาดว่าจะได้รับงาน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะได้รับงานมากน้อยเพียงใด โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (backlog) อยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1,200-1,500 ล้านบาท และยังเข้าร่วมประมูลงานอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการเข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทที่มีไลเซ่นส์ ซึ่งสามารถเข้าไปประมูลงานภาครัฐได้นั้น บริษัทยังคงคาดว่า ภายในไตรมาส 3/49 จะสามารถสรุปและมีความชัดเจนการเข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทที่มีไลเซ่นส์ โดยยังคงมองว่าในขณะนี้การมีบริษัทที่มีไลเซ่นส์บริษัทเดียวในการเข้าประมูลงานของภาครัฐนั้น เพียงพอต่องานที่ภาครัฐจะออกมา ซึ่งคาดว่ายังคงมีไม่มากนัก
ภายในไตรมาส 3/49 คงจะสามารถโอนหุ้น ยืนยันราคา หรือตกลงกับบริษัทที่เราจะไปเทกโอเออร์ได้ ซึ่งรายเดียวก็เพียงพอเพราะงานที่ภาครัฐออกมาไมมีมากนัก นายพัฒนพงษ์ กล่าว
บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอสวิคเคอร์ส คาดการณ์ถึงผลการดำเนินงานของ ASCON ว่า ยังมีมุมมองต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานของ ASCON ในปี 49 และ 50 เป็นบวก เนื่องจากบริษัทมี backlog ที่แข็งแกร่งและค่าเฉลี่ย gross margin ที่สูงเด่น (กว่า 20%) เมื่อเทียบกับผู้รับเหมารายอื่นในกลุ่ม (ในช่วง 4-7%) อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ราคาหุ้น ASCON ปรับตัวขึ้นมามากและทรงตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเหนือกว่าราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยรวม ส่งผลให้ราคาหุ้นล่าสุดมี upside potential เท่ากับ 5.38% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมในปี 49 ที่ระดับ 7.64 บาท จึงแนะนำเต็มมูลค่า
ที่มา:
คอหุ้น [/color:40b6b4c570">
|
