P_aud
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531 |  วันที่: 24/07/2006 @ 13:21:42 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ทนง สั่งปลัดคลังหาแนวทางซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบงก์ทหารไทยใหม่ ขณะที่บิ๊กTMB มั่นใจผู้ถือหุ้นเดิมซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง รักษาสิทธิแน่นอน เผยไตรมาส 2 กำไรหดจากสินเชื่อไม่ขยาย-ลูกค้าชำระคืนเงินกู้-ตั้งสำรองสูง ยังมั่นใจไตรมาส 3 ดีกว่าแน่ เหตุมีสินเชื่ออนุมัติแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท -ค่าธรรมเนียมโตต่อเนื่อง เชื่อ NIM ไตรมาส 3/49 เพิ่มจากไตรมาส 2 ที่ 2.1% เหตุสินเชื่อใหม่ ดบ.ดี-ต้นทุนเงินฝาก ดบ.สูงครบกำหนด ขณะที่วงการ คาด TMB ขายหุ้นเพิ่มทุนหุ้นละ 3.20 บ.
ดร.สุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ของธนาคารว่า สาเหตุที่มีกำไรลดลงมาจาก การเติบโตของสินเชื่อในช่วง 6 เดือนมีการขยายตัวในอัตราที่ต่ำ ทำให้ธนาคารมีการปรับลดเป้าสินเชื่อลง 8-10% เหลือ 6% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ในช่วงต้นปีลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารได้มีการชำระคืนเงินกู้ ทำให้สินเชื่อของธนาคารไม่เพิ่ม
ดร.สุภัค กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาธนาคารมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้ง ทำให้ต้นทุนเงินฝากธนาคารเพิ่มขึ้นและธนาคารยังต้องตั้งสำรองถึงเกือบ 500 ล้านบาท จากการขายหนี้ NPL ให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.)
ดร.สุภัค กล่าวว่า กำไรของธนาคารในไตรมาสที่ 3 ว่า น่าจะดีกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากในไตรมาสที่ 3 ธนาคารได้มีสินเชื่อใหม่ที่อนุมัติแล้วรอการเบิกจ่ายสูงถึง 1 แสนล้านบาท โดยลูกค้าที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อส่วนใหญ่ยังมีศักยภาพในการเติบโต เช่นกลุ่มผู้ส่งออก กลุ่มสินค้าเกษตร
นอกจากนี้ ในส่วนของค่าธรรมเนียมยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่อาจจะกระทบกับกำไรของธนาคารได้แก่ การโอนหนี้ของธนาคารให้กับบสท. ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องมีการตั้งสำรองมากขึ้นแค่ไหน ซึ่งจะกระทบกับกำไรของธนาคารกก.ผจก.ใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB ยังกล่าวถึง Net Interest Margin (NIM) ของธนาคารในไตรมาสที่ 3 ว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 ที่อยู่ที่ 2.1% เนื่องมาจากธนาคารมีการหาแหล่งเงินใหม่ ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนลดลง เช่น การระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ การกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างประเทศ
ดร.สุภัค กล่าวว่า ในส่วนของดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินฝากวงเงินเดิมที่ธนาคารต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงได้มีการครบกำหนด ทำให้ต้นทุนของธนาคารลดลง และการปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดีขึ้นตามดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นในระบบ
ดร.สุภัค กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่ากระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นของธนาคารมีโอกาสที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรักษาสิทธิในการถือหุ้นของตนเอง เนื่องจากการขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจะถือว่าเป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งจากการไปโรดโชว์ให้กับนักลงทุนที่เป็นกองทุนในสิงคโปร์ พบว่านักลงทุนส่วนใหญ่สนใจในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนเน้นการลงทุนในระยะยาว
มีโอกาสสูงที่กระทรวงการคลังจะใช้สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนที่ถืออยู่ และผู้ถือหุ้นรายอื่นเชื่อว่าจะใช้สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเช่นกัน ดร.สุภัค กล่าว
ด้านนายทนง พิทยะ รมว.คลัง เผยว่า ได้สั่งการให้นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังและสำนักงานรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กลับไปพิจารณาแนวทางในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทยใหม่ โดยให้พิจารณาเฉพาะ 2 แนวทางที่มีความเป็นไปได้และเป็นประโยชน์กับกระทรวงการคลังมากที่สุด ซึ่งกำหนดให้นำมาเสนอให้พิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อนำเสนอให้ ครม.พิจารณาต่อไป เพราะกระทรวงการคลังต้องใช้เงินในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้กว่า 3,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ราคาหุ้นธนาคารทหารไทย (TMB) เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมาปิดที่ระดับราคา 3.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือคิดเป็น 0.61% มูลค่าการซื้ขายทั้งสิ้น 46.06 ล้านบาท
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า เรามอง TMB ยังไม่โดดเด่น สำหรับหุ้นในกลุ่มแบงก์ แม้ว่าช่วงนี้ตลาดฯ จะพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นจากปัจจัยการเมืองที่เริ่มคลี่คลาย แต่ภาพของ TMB ยังคงมีปัญหาเรื่องการเพิ่มทุน เรื่องขาดทุนสะสม ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน และถ้ายังไม่ชัดเจนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อไป
กลุ่มแบงก์เอง เวลานี้เราจะเน้นแนะนำไปในหุ้นในแบงก์ขนาดใหญ่ อาทิ BBL,KBANK และ SCB มากกว่า TMB ตอนนี้ไม่มีประเด็นใหม่เข้ามา ขณะที่เรื่องของผลประกอบการยังไม่โดเด่นมากนัก
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเพิ่มทุนของTMB ว่า ประเมินว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนของ TMB น่าจะขายในราคา 3.20 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเร็วๆ นี้บริษัทจะมาประเมินราคาหุ้นเพิ่มทุนใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าราคาไม่น่าจะแตกต่างจากที่ประเมินไว้ครั้งแรกมากนัก
ในช่วงก่อนที่ธนาคารจะออกขายหุ้นเพิ่มทุนหากมีรายละเอียดและข้อมูลใหม่ๆ จากผู้บริหารออกมา บริษัท อาจจะต้องมาปรับราคาขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงไปกว่า 3.20 บาท แหล่งข่าวรายเดิม กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่าจากความชัดเจนเรื่องการเพิ่มทุนของธนาคารเชื่อว่าเป็นผลบวกต่อพื้นฐานของธนาคารเอง แม้ว่าการเพิ่มทุนจะทำให้เกิดไดลูชั่นเอฟเฟ็คแต่ธนาคารจะได้รับผลดีในแง่ของฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่งขึ้น หลังเพิ่มทุนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงน่าจะขยับขึ้นมาที่ 11% ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีเงินในการขยายสินเชื่อได้มากขึ้น
แม้ว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาจะผิดหวังเล็กน้อย แต่บริษัทฯ แนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย 4.16 บาท
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป กล่าวว่า สำหรับ TMB หากจะเล่นเดย์เทรด ยังไม่เหมาะสมนัก เนื่องเพราะยังติดในเรื่องของวอลุ่มที่ยังเบาบางอยู่ อย่างไรก็ตามจากราคาปิดเมื่อวันที่ผ่านมาแล้วทางเทคนิค ค่อนข้างจะให้เป็นหุ้นที่น่าซื้อ โดยมีข้อแม้จะต้องถือผ่านไประยะเวลาหนึ่ง กรอบ TMB เรามองไว้ที่ 2.20 -3.40 บาท แนวรับเวลาที่ 2.26-2.28 บาท
เราให้กรอบไว้ที่ 2.20 บ.รายังมองว่าไม่น่าจะลงไปถึงขนาดนั้น แนวต้านระยะสั้นๆ ก็ที่ 3.40 บ.ต่อจากนั้นแนวโน้มก็น่าจะดี พอที่จะไปลุ้นที่ 3.60 บาทได้ คำแนะนำเวลานี้คงเป็นซื้อและก็ถือรอระยเวลา
ขณะที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. กิมเอ็ง กล่าวว่า TMB ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/49 ออกมาน่าผิดหวังเท่ากับ 1,203 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ประมาณการค่อนข้างมาก โดยเป็นการลดลง 41.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ ลดลง 43.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา สาเหตุหลักของกำไรสุทธิที่ลดลงได้แก่ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองการด้อยค่าของตั๋วเงิน TAMC และการขาดทุนจากเงินลงทุนที่สูงถึง 565 ล้านบาท
ปัจจุบันราคาหุ้น TMB ซื้อขายในระดับที่ไม่แพงเพียง 0.9 เท่าของมูลค่าทางบัญชีในปี 50 แต่จากกำไรสุทธิที่อ่อนตัวลงมาก, อัตราการเติบโตของสินเชื่อที่ต่ำและปัจจัยในอนาคตที่ยังต้องติดตามในเรื่องการเพิ่มทุนและการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้ฯ เรายังคงให้คำแนะนำ ถือ สำหรับการลงทุนใน TMB โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 4.20 บาท/หุ้น หรือเท่ากับ 1.2 เท่าของมูลค่าทางบัญชีในปี 50
ที่มา:
คอหุ้น [/color:7e2aed0ff9">
|
