May 7, 2024   4:45:46 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > โบรกฯเชื่อSETกลับมาคึกเน้น พลังงาน-หลักทรัพย์
 

P_aud
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531
วันที่: 24/07/2006 @ 13:24:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ฟ้าเปิด! หลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งส.ส. เป็นการทั่วไปในวันที่ 15 ต.ค. นักวิเคราะห์ปนะสานเสียง เชื่อดัชนีหุ้นตอบรับบรรยากาศการเมืองเริ่มคลี่คลาย ดึงนักลงทุนไทย-ต่างชาติกลับมาช้อนซื้อหุ้นอย่างคึกคัก ไอเอ็นจี ชี้การเมืองเห็นแสงสว่างดันหุ้นไทยวิ่งกระฉูด แต่เชื่อต่างชาติทบทวนการลงทุนใหม่หลังการเลือกตั้ง ชี้สัปดาห์หน้าลุ้นทดสอบแนวต้าน 700 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการลงพระปรมาภิไธย ในพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งวันที่ 15 ต.ค.49 ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกทางการเมือง และกลับมาช้อนซื้อหุ้นเกือบทุกกลุ่ม หนุนให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวสูงสุดถึงระดับ 687.88 จุด เพิ่มขึ้น 18.92 จุด ก่อนจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยมาปิดการซื้อขายที่ระดับ 685.71 จุด เพิ่มขึ้น 16.75 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นทั้งสิ้น 21,823.27 ล้านบาท ส่วนตลาด mai ดัชนีปิดที่ระดับ 155.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 11.54 ล้านบาท

ดร.ธนวรรษ์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวยกับคอหุ้น ถึงแนวโน้มตลาดฯหลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งว่า เชื่อว่าในเบื้องต้นตลาดหุ้นไทยน่าจะตอบรับในเชิงบวก และพื้นฐานเศรษฐกิจเองก็จะตอบรับในเชิงบวกด้วยเช่นกัน เพราะปัญหาในเรื่องของการเมืองเป็นความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นมานาน ทั้งเรื่องของนโยบายเมกกะโปรเจกต์ต่างๆ เรื่อง FTA ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากต่างประเทศ รวมไปถึงสถาบันจัดอันดับเครดิตอย่าง S&P

ซึ่งหลังจากมีพระราชกฏษฎีกาเลือกตั้งแล้ว ถ้าเป็นไปตามกำหนดระยะเวลา หลัง 15 ต.ค. เราก็จะมีสภา และรัฐบาลก็น่าจะมาในช่วงเดือนพ.ย. พอมีสภาฯ เรื่องของงบประมาณต่างๆ ก็จะชัดเจน ก่อนไตรมาส1-2 ทำให้งบหลายๆ ตัว โดยเฉพาะงบการลงทุน และจะมีผลในเชิงบวกกับธุรกิจรับเหมาฯ ต่างๆ

ดร.ธนวรรษ์ กล่าวว่า อีกประการหนึ่งคือการมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่จะเกิดช่วงต้นปี 2550 ที่จะทำให้ต่างประเทศ กลับเข้ามาลงทุน และเกิดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยมากขึ้น ตรงนี้ก็จะทำให้ เอิร์นนิ่งของ SET ไม่ลดตามที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ P/E จะอยู่เท่าเดิม แต่เอิร์นนิ่งไม่ลด ไพรซ์ของ SET ก็จะดี

เชื่อว่าดัชนีก็น่าจะตอบรับ SET ในระยะสัปดาห์หน้าน่าจะมีการตอบรับ และเชื่อว่าน่าจะสามารถทะลุ 700 จุดได้ โดยมีข้อแม้ว่า เรื่องสถานการณ์การสู้นรบในตะวันออกกลาง จะต้องไม่ขยายวงกว้างไปกว่านี้ ซึ่งหากสถานการณ์ในตะวันออกกลางไม่ขยายวงกว้างไปกว่านี้ เรื่องของราคาน้ำมันก็จะเริ่มนิ่ง SET และเศรษฐกิจก็น่าจะดีขึ้น ส่วนกรอบดัชนีที่ประเมินไว้ในช่วงนี้ จะยังคงอยู่ที่ 680 จุด ขึ้นไป เชื่อว่า ถ้ายืนจุดนี้ได้ SET น่าจะสะท้อนภาพขาขึ้น ให้แนวต้านสำคัญไว้ที่ 695 จุด ถ้าทะลุจากตรงนี้ไปได้ เชื่อว่าดัชนีน่าจะทะยาน โดยส่วนหนึ่งก็จะมาจากปัจจัยเรื่องของการเลือกตั้งนั่นเอง

นายมาริษ ท่าราบ กก.ผจก.บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) กล่าวว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีเมื่อวันที่ 21 ก.ค.เป็นผลจากความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ต.ค.49 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นปัจจัยกระทบการลงทุนตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาเริ่มมีความคลี่คลายขึ้น

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าท่าทีของนักลงทุนต่างประเทศยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศจะรอดูความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะรัฐบาลชุดใหม่และนโยบายรัฐบาล รวมถึงจับตาดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะยังคงรับตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ โดยหากประเด็นดังกล่าวชัดเจนขึ้นเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศจะทบทวนการลงทุนอีกครั้ง

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกก.ผจก.บล. ทีเอสอีซี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสดใสหลังทราบข่าว พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 15 ต.ค. นี้ หลังจากที่ซบเซามาพอสมควร ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลบวกทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีความมั่นใจต่อสถานการณ์การเมืองไทยมากขึ้น และเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะตอบรับข่าวการเลือกตั้งต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้า เพราะยังมีหุ้นราคาถูกที่น่าสนใจในอีกหลายกลุ่มที่น่าลงทุน อย่างไรก็ตามให้สังเกตมูลค่าการซื้อขาย หากปริมาณการซื้อขายหนาแน่น ตลาดหุ้นไทยจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มเชิงบวก

นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผจก.ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาติ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องพ.ร.ฎ.เลือกตั้งที่ออกมาน่าจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ ซึ่งเรามองประเด็นนี้ในเชิงบวกต่อตลาดทุน ยิ่งถ้าประเด็นการเมืองเริ่มมีทิศทางที่คลี่คลาย เชื่อว่า SET น่าจะตอบรับดีในระดับหนึ่ง ตรงจุดนี้ดัชนีก็น่าจะเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งกรอบดัชนีในช่วงสัปดาห์นหน้าที่จะตอบรับกับข่าวการคลี่คลายของสถานการณ์การเมือง เรามองกรอบดัชนีน่าจะอยู่ที่ 710-715 ในช่วงสัปดาห์หน้า ส่วนเป้าหมายทั้งปีน่าจะอยู่ 730 จุด ในช่วงปลายปี

เรื่องของกลยุทธ์ในการลงทุนช่วงนี้ เราก็แนะนำให้มองกลับไปที่ประเด็นของการเมืองที่คลี่คลายเป็นประเด็นใหญ่ในการตัดสินใจลงทุน กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจก็จะเป็นในกลุ่มพลังงาน ,น้ำมัน นอกจากนี้ประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลก็น่าเอื้อต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ และจะตามมาด้วยกลุ่มวัสดุฯ ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือหุ้นในกลุ่มใหลักทรัพย์ ที่จะกลับมาพร้อมๆกับวอลุ่มใน SET นายจรณชัย กล่าว

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) กล่าวว่า หลังจากที่พระเจ้าอยู่หัวฯทรงลงพระปรมาภิไธยร่างพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง 15 ต.ค.เชื่อว่าทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศไดระดับหนึ่ง และเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศจะกลับเข้ามาซื้อคืนเช่นกัน เพราะราคาหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนีตลาดฯจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 700 จุด แต่ระหว่างทางอาจมีแรงขายทำกำไรหุ้นรายตัวในกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี ที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส2 /49 แล้ว โดยประเด็นที่ต้องจับตาคือ การพิจารณาของศาลอาญาว่ากกต.ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เพราะประเด็นดังกล่าวมีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้น โดยประเมินแนวต้านไว้ที่ 695-700 จุด แนวรับ 670-675 จุด

ที่มา:
คอหุ้น [/color:1ae81db08b">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com