P_aud สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 531 | วันที่: 25/07/2006 @ 11:53:40 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต NWR พลิกมีกำไรสุทธิ Q2 หลังไตรมาส 1 ยังขาดทุน 11 ล้านบาท งานเก่าที่ขาดทุนเริ่มทยอยส่งมอบแล้ว ไตรมาส 3 จ่อคิวเซ็นสัญญารับงานที่ท่าเรือแหลมฉบังของกลุ่มฮัทชิสันมูลค่า 800 ล้านบาท และงานสร้างเขื่อน 400 ล้านบาท รวม 1,200 ล้านบาท
นายวัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไป แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ผลประกอบการไตรมาส 2 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากไตรมาส 1 ซึ่งขาดทุน 11 ล้านบาท อย่างไรก็ตามยังคาดว่าจะมีกำไรสุทธิไม่มากนัก
ทั้งนี้สาเหตุสำคัญเนื่องจาก NWR ได้ทยอยส่งมอบงานเก่าซึ่งเป็นงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (กรอส มาร์จิ้น) ต่ำ เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างได้ปรับเพิ่มขึ้นไปมากจากราคาที่เคยตกลงเมื่อรับงาน ส่งผลให้บริษัทขาดทุนตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 48 และไตรมาส 1 ที่ผ่านมาขณะที่งานที่ทยอยส่งมอบในไตรมาส 2 เป็นงานใหม่ซึ่งราคาวัสดุได้ปรับตามต้นทุนในปัจจุบันแล้ว มาร์จิ้นจึงดี
อย่างไรก็ตามยังมีงานโครงหนึ่ง มูลค่า 300 ล้านบาท ซึ่งเลื่อนบันทึกรายได้มาจากไตรมาส 1 เดิมคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้ ก็ยังไม่สามารถรับรู้ได้ คาดว่าจะรับรู้ในไตรมาส 3 นี้
นายวัชรพัธ กล่าวต่อว่า บริษัทมีโอกาสได้รับงานก่อสร้างอาคารออฟฟิศและลานพักตู้คอนเทนเนอร์ ในท่าเรือแหลมฉบัง จากกลุ่มฮัทชิสัน มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท โดยกลุ่มฮัทชิสันได้ส่งจดหมายตอบรับมายัง NWR เมื่อต้นเดือน ก.ค. เหลือเพียงการเซ็นสัญญาเท่านั้น
เราจะเริ่มก่อสร้างโครงการในไตรมาส 3 จะรับรู้รายได้ช่วงปลายไตรมาสเพียงเล็กน้อย ทั้งปีก็คาดว่าจะยังรับรู้รายได้ไม่มากนัก โดยระยะเวลาก่อสร้าง 600 วัน เราจะรับรู้รายได้จากโครงการนี้ประมาณ 2 ปี นอกจากนี้ยังมีงานสร้างเขื่อนอีก 1 งาน มูลค่าไม่เกิน 400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับในไตรมาส 3 เช่นกัน นายวัชรพัธ กล่าว
ส่วนความชัดเจนด้านการเลือกตั้ง ยอมรับว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับบริษัทอย่างมากเพราะตั้งแต่ต้นปีแทบจะไม่มีงานภาครัฐให้ประมูล และสถานการณ์ความวุ่นวายด้านการเมืองได้ส่งผลให้ภาคเอกชนก็แทบไม่มีงานประมูลเช่นกัน ทำให้ครึ่งปีแรก NWR มีงานใหม่เข้ามาน้อยมาก
ความชัดเจนทางการเมืองเป็นสัญญาณที่ดีมากสำหรับเรา เพราะถ้ายังไม่มีเลือกตั้งก็ไม่มีรัฐบาลที่จะอนุมัติงบประมาณปี 50 งานจะนิ่งหมด เราก็อาจจะต้องรองานไปจนถึงปีหน้า อย่างไรก็ตามหลังเลือกตั้งแล้ว คาดว่าความเคลื่อนไหวด้านการเปิดประมูลงานของภาครัฐจะเริ่มชัดเจนต้นปี 50 งานที่ผู้รับเหมาจะได้ก็คงจะเริ่มช่วงนั้น นายวัชรพัธ กล่าว
ปัจจุบัน NWR มีสัดส่วนรับงานภาครัฐ 60% และเอกชน 40% หากได้งานที่ท่าเรือแหลมฉบัง งานในมือจะเพิ่มเป็นเกือบ 9,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงตั้งเป้าแบ็คล็อกสิ้นปีนี้ที่ 8,000 ล้านบาท
ส่วนเรื่องการล้างขาดทุนสะสม 262 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะไม่สามารถล้างขาดทุนได้หมดภายในปีนี้ ส่วนปีหน้าก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะล้างขาดทุนสะสมได้หมด ต้องดูแนวโน้มการรับงานก่อสร้างใหม่ว่ามีมาร์จิ้นดีหรือไม่ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการด้วย
ที่มา:
ข่าวหุ้น
|