arthor สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 803 | วันที่: 25/07/2006 @ 17:59:21 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต .000A .000A .000A ใครจะแรงกว่า
[b:73a2ff89f8">เริ่มด้วยน้องเบียร์ [/b:73a2ff89f8">http://www.thaihoon.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2539
[b:73a2ff89f8">แล้วก็ผีทะเล[/b:73a2ff89f8">
ราคาหุ้น PTL ปรับตัวลดลงมา 44% นับตั้งแต่ต้นปี 2549 เป็นต้นมาสู่ระดับปัจจุบันที่ 3.22 บาทหรือ P/BV ที่ 0.7 เท่า อย่างไรก็ตามเรายังไม่เห็นว่าช่วงนี้จะเป็นโอกาสเหมาะสมของการจะเข้าเก็บหุ้นในขณะนี้ เนื่องจากผลประกอบการจะยังคงถูกกดดันจากปัจจัยลบหลายประการอยู่
จากการพบกับผู้บริหารพบว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปี 49/50 (เม.ย.-มิ.ย. 49) ที่ผ่านมาส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และต้นทุนวัตถุดิบได้ร่วงลงมาทะลุจุดต่ำสุดจุดเดิมคือ 70 เซนต์/กิโลกรัมในปี 2542 เป็น 55 เซนต์/กิโลกรัม โดยสาเหตุหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบของบริษัทคือ PTAและ MEG พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตามราคาน้ำมันดิบโลก ในขณะที่บริษัทไม่สามารถเพิ่มราคาผลิตภัณฑ์ได้เนื่องจากแผ่นฟิล์ม PET ยังคงเผชิญกับปัญหาอุปทานส่วนเกิน นอกจากนี้บริษัทได้หยุดสายการผลิต 1 สายในประเทศไทยเพื่อซ่อมบำรุงอีกด้วย ดังนั้นเราคาดว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรปกติในไตรมาส 1 ปี 49/50 ได้เท่ากับ 50 ล้านบาท ลดลง 28% จากไตรมาสก่อนและ73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เราได้ปรับลดคาดการณ์กำไรปกติในปี 2549/50 (เม.ย.49 - มี.ค.50)ลง 45% เป็น 310 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.39 บาท) และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 18.31% ลดลงจากปีก่อนที่ 20.12% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับภาวะผลผลิตส่วนเกินของแผ่นฟิลม์ PET ที่ยังไม่มีสัญญาณที่ดีขึ้น
ส่วนข่าวดีของบริษัทก็คือการที่โรงงานแผ่นฟิล์ม PET ที่ตุรกีซึ่งเปิดดำเนินการผลิตตั้งแต่ธันวาคมปีก่อนนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตขึ้นมาจาก 75% ในช่วงไตรมาส 4 ปี48/49 เป็น 90% หรือปริมาณแผ่นฟิล์มประมาณ 4,000-5,000 ตัน/ไตรมาส ด้วยการพัฒนาทางด้านผลผลิตเราจึงคาดว่าโรงงานที่ตุรกีจะสามารถกลับจากขาดทุนมามีกำไรได้เล็กน้อยในไตรมาส 1 ปี49/50 ทั้งนี้บริษัทยืนยันที่จะเริ่มดำเนินการผลิตวัตถุดิบ PET resin กำลังการผลิต 45,500 ตัน/ปีในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรของ
บริษัทดีขึ้นในระยะยาว
เราได้ปรับลดระดับราคาเหมาะสมของเราลงตามการปรับลด คาดการณ์กำไรปกติเป็น 3.50 บาท/หุ้น อิง PER ปี 2549/50 ที่ 9 เท่า อย่างไรก็ดีเราเห็นว่าหุ้นจะมีการฟื้นตัวได้ดีในยามที่สภาวะตลาดนั้นดีขึ้น บริษัทยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิอยู่ที่เพียง 0.5 เท่าและคาดว่าอัตราปันผลตอบแทนที่ราคาปัจจับันเท่ากับ 4.8% เราเห็นว่านักลงทุนระยะยาวจะได้รับประโยชน์หากเข้าสะสมหุ้นตัวนี้ในช่วงที่อยู่ในวัฏจักรธุรกิจขาลงและถือ เพื่อรอให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้น ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว
|