May 4, 2024   2:51:20 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น
 

jagkrub
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 43
วันที่: 26/07/2006 @ 09:20:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

Source - ข่าวหุ้น
Wednesday, 26 July 2006 04:08

บล.เอเชียพลัสแนะนำซื้อ PHATRAราคาเป้าหมาย 57.83 บาทPHATRA ประกาศกำไรสุทธิงวด 2Q49 เท่ากับ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38%qoq และใกล้เคียงกับที่คาดไว้ โดยแม้ว่ารายได้หลักคือ ค่านายหน้าซื้อขายจะลดลง 39%qoq เนื่องจากมูลค่าซื้อขายตลาดฯปรับตัวลดลง 26%qoq และวันทำการที่น้อยกว่างวดก่อนหน้า 8 วัน แต่รายได้ค่าธรรมเนียมที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 335 ล้านบาท จากเพียง 5 ล้านบาทในงวด 1Q49ได้ชดเชยค่านายหน้าที่ลดลงได้ทั้งจำนวน กล่าวคือ ในงวดนี้ PHATRAบันทึกรายได้จากการขายหุ้น IPO ทั้งของ RRC (มูลค่าการระดมทุน 2.5 หมื่นล้านบาท) และ ThaiBev(มูลค่าการระดมทุน 684 ล้านเหรียญสิงคโปร์) ส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น 20.4%qoq คาดว่ามาจากการตั้งสำรองจ่ายโบนัสปลายปี เนื่องจากงวดนี้มีรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจเข้ามามาก โดยค่าใช้จ่ายพนักงานของ PHATRA จะผันแปรตามรายได้รวม (ธุรกิจนายหน้าฯ และธุรกิจวาณิชฯ) แตกต่างจาก บล. อื่นที่จะผันแปรตามมูลค่าซื้อขายตลาดฯ เนื่องจาก PHATRAเป็น บล. ที่เจ้าหน้าที่การตลาดทั้งหมดให้บริการลูกค้าสถาบัน จะรับเงินเดือนเป็นอัตราคงที่ ขณะที่ บล. อื่นที่มีฐานลูกค้าเป็นนักลงทุนรายย่อย กำไรสุทธิงวด 1H49 คิดเป็น61%ของประมาณการทั้งปีของฝ่ายวิจัย แต่คาดว่าผลประกอบการงวด 2H49 จะปรับตัวลดลงเนื่องจากธุรกรรมวาณิชธนกิจขนาดใหญ่ทั้ง RRC และ ThaiBev ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว รายได้จากวาณิชธนกิจในครึ่งปีหลังจึงน่าจะลดลงมาก ฝ่ายวิจัยจึงยังคงประมาณการปี 2549 ไว้เช่นเดิม โดย Fair value อิง PER 18 เท่า เท่ากับ 57.83 บาท มี upside จากราคาปัจจุบัน 39% จึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ
บล.เคจีไอแนะนำซื้อ SIRIราคาเป้าหมาย 4.4 บาทจากยอดการขายที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงถึง 7 พันล้านบาทในไตรมาส 2/49 ที่มีผลทำให้ยอดขายรวมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเพิ่มสูงถึง 12 พันล้านบาท ส่งผลให้ยอดค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายและค่าโฆษณาตามสื่อต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างคุ้มค่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา SIRI เป็นผู้ประกอบการอสังหาฯเพียงไม่กี่รายที่มียอดการขายเพิ่มขึ้น แม้สภาพตลาดโดยรวมจะมีการชะลอตัวจากผลกระทบของการเมืองและภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเราคาดว่าในไตรมาส 2/49 SIRI จะบันทึกผลจากการเร่งการขายและต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งหมดในไตรมาสนี้ และจะส่งผลให้บริษัทต้องบันทึกขาดทุนไปเลยครั้งเดียวในไตรมาสนี้ ซึ่งจะทำให้ SIRI สามารถบันทึกผลกำไรที่เพิ่มสูงอย่างน่าประทับใจได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 49 และในปี 50 ต่อไป ทั้งนี้ เราคาดว่า SIRI จะมีการบันทึกยอดรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/49 จำนวน 2.4 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 30% YoY คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 25.1% ดีขึ้นจากไตรมาส 2/48 ที่ 22.3% แต่อย่างไรก็ตาม ดังที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นว่าไตรมาสนี้จะเป็นไตรมาสที่ SIRI จะบันทึกค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ใช้ในการส่งเสริมการขายที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในไตรมาสนี้ ส่งผลให้เราคาดว่าค่าใช้จ่ายขายและบริหารในไตรมาสนี้จะเพิ่มขึ้นถึง 72% เป็น 600 ล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วน 25% ของยอดรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ เนื่องจากหลักเกณฑ์การบันทึกภาษีของรายรับจากโครงการคอนโดมิเนียมจะคิดจากยอดเงินสดที่รับเข้ามาตามจริงดังนั้น จึงส่งผลให้ยอดบันทึกภาษีในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากผลของยอดPresales ที่เพิ่มสูงถึง 7 พันล้านบาทในไตรมาส 2/49 ส่งผลให้เราคาดว่า SIRI จะรายงานผลขาดทุนสุทธิจำนวน 7 ล้านบาท ลดลงจากผลกำไรจากผลการดำเนินงานจำนวน 1ล้านบาท ในขณะที่ SIRI มีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมโซฟิเทลจำนวน 456ล้านบาทในไตรมาส 2/48 ปรับกำไรสุทธิปี 49 และปี 50 ลง 26% และ 3%จากสมมุติฐานการปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายขายและบริหารและภาระทางภาษีที่เพิ่มขึ้นจากยอดเงินสดที่รับจริงจากโครงการคอนโดที่ประสบความสำเร็จทางยอดขายอย่างสูงในไตรมาส 2/49 ส่งผลให้เราปรับประมาณการสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มจากเดิมที่ 17.9% เป็น 19.7% ในปี 49 ส่งผลให้เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของ SIRI ในปี 49 ลดลง 26%เป็น 522 ล้านบาท และปี 50 ลง 3% เป็น 847 ล้านบาท
บล.ซิกโก้แนะนำซื้อ CPFราคาเป้าหมาย 6.50 บาทหลังจากที่เราเข้าพบกับผู้บริหาร เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q06E จะเท่ากับ 859ลบ. โดยปรับลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 2,733 ลบ.68.6% YoY เนื่องจากปีที่แล้วมีการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนในMAKRO แต่เมื่อเทียบเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานปกติพบว่าลดลงเพียง 50.3% YoY การลดลงของกำไรเป็นผลมาจากในปีที่แล้วราคาไก่เนื้อในประเทศอยู่ในระดับที่สูงมากโดยราคาเฉลี่ยในไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้วอยู่ที่ 33บาท/ก.ก. ขณะที่ในปีนี้ราคาไก่ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. เฉลี่ยอยู่เพียงแค่ 30.5 บาท/ก.ก. เท่านั้น อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับไตรมาส 1ที่ผ่านมา เราคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะสถานการณ์ที่ย่ำแย่เริ่มดีขึ้นในส่วนของ GPM ในไตรมาสนี้เราคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว โดยเราประเมินจะอยู่ที่ระดับ15.0% โดยสาเหตุหลักจะมาจากราคาไก่เนื้อเฉลี่ยในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นจาก 25 บาท/ก.ก. เป็น 30.5 บาท/ก.ก. นอกจากนี้จากราคากุ้งในตลาดที่ปรับตัวลดลงทำให้ GPM ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นด้วยอย่างไรก็ดีราคาวัตถุก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญอีกตัวหนึ่งที่ส่งผลกระทบกับGPM ซึ่งเราพบว่าราคาวัตถุดิบบางอย่างปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งกดดันทำให้GPM ของ CPF ไม่เพิ่มขึ้นมากนัก แม้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีการล้มตายของไก่พื้นเมืองในต่างจังหวัด โดยมีการตั้งข้อสงสัยกันว่าอาจจะเกิดจากไข้หวัดนกแต่เรายังมองว่าแม้จะมีการระบาดของไข้หวัดนกในรอบใหม่จริง ก็คงจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดยเรามองว่าการบริโภคในประเทศไม่น่าจะลดลงรุนแรงเหมือนที่เคยระบาดเมื่อปี2547 ขณะที่ด้านการส่งออกก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะไทยยังคงส่งออกแต่ไก่ปรุงสุกซึ่งมีความปลอดภัยอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าจะมีปัญหาจริงๆก็คงจะเป็นเรื่องของการส่งออกไก่สดที่อาจจะต้องรอต่อไป ถ้าเกิดการระบาดขึ้นมา
บล.กิมเอ็งแนะนำซื้อลงทุน VNGราคาเป้าหมาย 5.45 บาทหลังจากเข้าพบผู้บริหารเมื่อวานนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/49 ของ VNG จะออกมาเท่ากับ 205 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.16 บาท) ขยายตัว 57% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลงเล็กน้อย 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากราคาแผ่นปาร์ติเกิ้ลเฉลี่ยที่บริษัทขายในไตรมาส 2/49 เท่ากับ 145 เหรียญสหรัฐฯ/ลูกบาศก์เมตรเพิ่มขึ้น 38% จากจุดต่ำสุดที่ 105 เหรียญสหรัฐฯ/ลูกบาศก์เมตรในไตรมาส 1/49 ที่ผ่านมาส่วนราคาแผ่น MDF ก็ทรงตัวอยู่ที่ 215 เหรียญสหรัฐฯ/ลูกบาศก์เมตร ส่วนทิศทางของราคาแผ่นปาร์ติเกิ้ลในขณะนี้ยังคงแข็งแกร่งโดยราคาเฉลี่ยที่บริษัทขายอยู่ที่ 145-147 เหรียญสหรัฐฯ/ลูกบาศก์เมตร แต่อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 4/49 จะมีกำลังการผลิตแผ่นปาร์ติเกิ้ลในภาคใต้ของไทยประเทศเพิ่มขึ้น 150,000 ลูกบาศก์เมตร/ปี นอกจากนี้ประเทศเกาหลีใต้และมาเลเซียก็จะมีกำลังการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 400,000 ลูกบาศก์เมตร/ปี ดังนั้นกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาแผ่นปาร์ติเกิ้ลได้ โดยคาดว่าอาจจะทำให้ราคาแผ่นปาร์ติเกิ้ลลดลงประมาณ 10% จากระดับราคาปัจจุบัน ด้วยความไม่แน่นอนของราคาแผ่นปาร์ติเกิ้ลและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นซึ่งจะส่งผลด้านลบต่อรายได้ของบริษัท เราจึงได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิอย่างอนุรักษ์นิยมทั้งปีลง 18.7% เป็น 890 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.68 บาท) ขยายตัว 17% จากปีก่อน โดยเราคาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผลสำหรับปี 2549 เท่ากับ 0.28 บาทหรืออัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ระดับราคาปัจจุบันเท่ากับ 6.6% ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาถึง 29% จากจุดสูงสุดในปี 2549 โดยซื้อขายกันอยู่ที่ PER ปี 2549 เพียง 6.6 เท่า, EV/EBITDA ที่ 5.1 เท่า และมีส่วนจากราคาเหมาะสมใหม่ของเราซึ่งปรับลดลงตามการปรับประมาณการกำไรในปีนี้ที่ 5.45 บาทอยู่ 28.5% เราเห็นว่าราคาหุ้นในปัจจุบันนั้นถูกเกินไปเมื่อเทียบกับพัฒนาการด้านผลประกอบการ

 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#1 วันที่: 02/08/2006 @ 11:58:40 : re: สัญญาณหุ้น
ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com