May 4, 2024   5:26:44 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > MMEดันหุ้นปั่นทั้งพวง อินไซด์ให้วอร์แรนต์
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 28/07/2006 @ 08:43:36
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ขาปั่นเปลี่ยนกลยุทธ์ไล่หุ้นรายวัน โยกมาเล่นหุ้นที่มีสตอรี่ ราคาต่ำ ทั้ง MME ASLและ D1 ระบุไมด้าฯผุดข่าวออกวอร์แรนต์ดันราคา ส่วนแอ๊ดคินซันลือข่าวเก่าขายไลเซนส์เอเพกซ์ พ่วงQ4พลิกมีกำไร ไดอาน่าเก็งข่าวรายใหญ่ทึ้งหลังผละจาก IEC

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่การตลาดกล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนรายใหญ่ได้เข้ามาไล่ราคาหุ้นที่ถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)จับตาใกล้ชิดกันอย่างคึกคัก ซึ่งกลยุทธ์ในการเก็งกำไรก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยล่าสุดนักลงทุนรายใหญ่หันมาไล่ราคาหุ้นที่มีข่าว(สตอรี่)สนับสนุน แทนหุ้นที่เคยไล่กันอยู่แล้วก่อนหน้านี้แต่หมดสตอรี่ลงไป หรือแทนหุ้นที่ถูกตรวจสอบจากทางการอย่างเคร่งครัด

สำหรับหุ้นที่เข้ามาไล่กันในรอบนี้คือ หุ้นบริษัทไมด้าเมดดาลิสท์ เอนเตอร์เทนเมนต์จำกัด(มหาชน)หรือ MME บริษัทหลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด(มหาชน)หรือ ASL และบริษัทดราก้อนวัน จำกัด(มหาชน)หรือ D1 เนื่องจากแต่ละตัวมีสตอรี่โดดเด่นที่สามารถจูงใจให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาไล่ตามราคาได้ง่าย

โดยหุ้น MME มีสตอรี่ว่าบริษัทจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์)แจกให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งกระแสข่าวดังกล่าวถูกปล่อยออกไปตามห้องค้าของโบรกเกอร์หลายแห่งวานนี้(27 ก.ค.) จนส่งผลให้นักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยแห่เข้ามาไล่ราคาจนหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 1.80 บาท หรือเพิ่มขึ้น 22.08% มาปิดที่ 9.95 บาท ในระหว่างวันไล่ราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 10.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 463.713 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีภายหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการ ก็มีแหล่งข่าวจาก MME ออกมาเปิดเผยว่าบริษัทมีโอกาสออกวอร์แรนต์จริงตามข่าวลือ ในสัดส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1วอร์แรนต์ ซึ่งเป็นการกำหนดสัดส่วนตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) โดยจะมีการเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาในภายหลัง

สำหรับหุ้น ASL มีสตอรี่ว่าในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ บริษัทจะสามารถกลับมามีกำไรอีกครั้ง หลังจากที่ประสบผลขาดทุนติดต่อกันมาหลายปี หลังจากที่ผู้บริหารออกมาปรับเปลี่ยนการดำเนินงานใหม่ ด้วยการควบรวมสาขาจำนวนมากเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานปีละ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังหยิบข่าวเก่าอย่างเรื่องการขายใบอนุญาติประกอบกิจการหลักทรัพย์(ไลเซนส์)ของบล.เอเพกซ์ ที่คาดว่าจะได้เงินสูงถึง 300-400 ล้านบาทมาเล่นอีกครั้ง

ขณะเดียวกันหุ้น ASL ยังมีจุดเด่นในเรื่องของราคาหุ้นที่ยังต่ำ ทำให้ยังมีช่องให้นักลงทุนายใหญ่เข้าไปไล่ราคาเพื่อล่อแมงเม่าได้พอสมควร ส่งผลให้วานนี้หุ้น ASL มีการเก็งกำไรกันอย่างหนาแน่น โดยราคาปิดบวก 0.95 บาท หรือเพิ่มขึ้น 13.01% มาที่ 8.25 บาท ในรหว่างวันราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 8.35 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 297.659 ล้านบาท

ส่วนหุ้น D1 มีสตอรีที่แตกต่างจาก 2 ตัวแรก เนื่องจากไม่มีข่าวเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานแต่มีข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ที่ระบุเมื่อเช้าวันที่ 27 ก.ค.ว่า นักลงทุนที่เข้าไปปั่นหุ้นบริษัทอินเตอร์เนชั่นเนิล เอนจีเนียริ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ IEC เริ่มออกของเพื่อนำเงินไปไล่ราคา D1 แทน ส่งผลให้วานนี้จึงมีนักลงทุนรายย่อยแห่เข้ามาไล่ราคาตามเพื่อเก็งกำไรเป็นช่วงๆ ซึ่งก็ส่งผลให้ราคาหุ้น D1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเช่นกัน โดยปิดที่ 2.82 บาท บวกขึ้นมา 0.32 บาท หรือ 12.8% ในระหว่างวันราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 3.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 175.084 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากหุ้น 3 ตัวข้างต้นแล้ว วานนี้ยังมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นที่ถูกทางการจับตาใกล้ชิดตัวอื่นๆด้วย คือ หุ้น IEC มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 932.728ล้านบาท แต่ราคาหุ้นค่อนข้างผันผวนก่อนปิดลบ 0.22 บาท หรือลดลง 5.5% มาที่ 3.78บาท

นอกจากนี้ยังมีหุ้นบริษัทสิงห์พาราเทค จำกัด(มหาชน)หรือ SINGHA ที่มีมูลค่าการซื้อขาย 376.212 ล้านบาท โดยราคาปิดที่ 4.62 บาท บวกขึ้นมา 0.36 บาท หรือ 8.45%ในระหว่างวันราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 4.98 บาท และหุ้นบริษัทอกริเพียว โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน)หรือ APURE ที่มีมูลค่าการซื้อขาย 240.461 ล้านบาท ราคาปิดที่ 3.24 บาท ลดลง 0.24 บาท หรือลดลง 6.89%

ที่มา ข่าวหุ้นธุรกิจ

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com