ถอดสมการเกม เจ้าหนี้-หุ้นใหญ่ เชียร์ ดุสิตธานี เข้าเทคฯ แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (N-PARK ถือหุ้น 63.40%) พบผลประโยชน์เกี่ยวโยงอื้อ!! ผลลัพธ์ 2 แม่-ลูก วิ่งฉิว..รายใหญ่ยิ้ม (รอทิ้ง) รายย่อย อย่าเพิ่งหวังสูง พื้นฐานหุ้น N-PARK ไม่เปลี่ยน



ดีลเทคโอเวอร์ บมจ.แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA) ของ ดุสิตธานี (DTC) มีความชัดเจนขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว ทางฝ่ายของ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย แจ้งว่ามีการเจรจาเบื้องต้นกับผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งของ PA (จริง) เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า...

ผู้ถือหุ้นรายนั้น คือ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) หรือ เอ็นพาร์ค

แต่ในขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนใดๆ ทั้งสิ้นว่าบริษัท (ดุสิตธานี) จะเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวหรือไม่ สินี เธียรประสิทธิ์ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ บมจ.ดุสิตธานี บุตรสาวของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ทิ้ง หมายเหตุ ที่เป็นปมสำคัญเอาไว้

ปมสำคัญ..ดุสิตธานี คุยแบบ 2 ต่อ 2 กับ เอ็นพาร์ค (เสริมสิน สมะลาภา) โดยไม่ได้แจ้งต่อ แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (บริษัทลูก) และผู้ถือหุ้นของตัวเอง แต่เบื้องหลังโต๊ะเจรจา กลับมี ข่าวรั่ว หลุดเข้าไปในห้องค้า ก่อนที่จะมีการชี้แจงข่าว (24 ก.ค.) ล่วงหน้า นาน 2-3 สัปดาห์

เห็นได้ชัดว่า ดุสิตธานี ตกเป็นแค่ หมากตัวหนึ่ง ในกระดาน ที่ถูก วางชิ่ง ให้ไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ ราคาหุ้น บริษัทในเครือเอ็นพาร์ค

นี่คือกลยุทธ์ ใช้ กระสุนนัดเดียว ยิงนก 2 ตัว ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เพราะการอ้างถึง บุคคลที่ 3 (ดุสิตธานี) ก่อนหน้านี้ ช่วยเพิ่มราคา-ค่างวด ให้กับ เอ็นพาร์ค ได้มาก ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PA จำนวน 211.74 ล้านหุ้น หรือ 63.40%

เป็นกลยุทธ์ ตีวัวกระทบคราด ที่พลอยทำให้หุ้น บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC) เป็นปลากระดี่ได้น้ำขึ้นมาด้วย ในฐานะ ผู้รับเหมากิตติมศักดิ์ ที่ เอ็นพาร์ค ถือหุ้นใหญ่

เดินตามแผนที่ เสริมสิน สมะลาภา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แนเชอรัล พาร์ค เคยประกาศกลางที่ประชุมผู้ถือหุ้น ถึง ภารกิจอันดับแรก ของบริษัท คือ การมุ่งความสนใจไปที่ ราคาหุ้น ของทั้งกลุ่มให้มากที่สุด

ขณะที่ราคาหุ้นดุสิตธานีของ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ แทบไม่กระดิกจาก ข่าวบวก นี้ และยิ่งราคาหุ้น PA ถูกปั่นขึ้นไปสูง ดุสิตธานี อาจจะต้องจบดีลที่ราคาแพง..กว่าที่ควรจะเป็น ย่อมไม่ใช่ผลดี

ด้วยเหตุนี้ฝ่ายของ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ จึงตั้งรับแทบไม่ทัน ไม่คิดว่าเบื้องหลังของ ดีล นี้ จะถูกนำไป ต่อยอด จากผู้ที่หวังดีกับ เอ็นพาร์ค แต่ประสงค์ร้ายกับ ดุสิตธานี

ข่าวหลุด แบบตั้งใจชัดเจนถึงขั้นที่ว่า เอ็นพาร์ค เคาะราคาขาย PA ที่ราคาหุ้นละ 7-9 บาท โดยที่มี บล.กรุงศรีอยุธยา เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ราคา 7-9 บาท ในที่นี้ หมายถึงการส่งสัญญาณ เป้าหมายราคา ที่จะทำให้ราคาหุ้น N-PARK และ PA วิ่งฉิวแบบ ติดจรวด ตามสูตรสำเร็จ คือ เก็บหุ้น (ก่อน) ปล่อยข่าว (ลือ) ลากราคา ข่าวจริงออกเมื่อไร ก็ ปิดเกม (PA) เมื่อนั้น

แต่ก่อนที่ราคาหุ้น PA จะวิ่งมาที่ เป้าหมาย ราคาหุ้น PA และ N-PARK ได้มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติมาก่อนแล้ว เพราะมีการไล่ราคาหุ้น PA ขึ้นจาก 4 บาทเศษ ขึ้นไปสูงสุด 8.60 บาท (100%) ขณะที่หุ้น N-PARK ถูกไล่ราคาขึ้นมาจาก 0.35 บาท ขึ้นมาที่ 0.55 บาท (57%)

สัญญาณที่ ชัดแจ๋ว ที่ทำให้ รายย่อย กล้าเทหน้าตัก เพื่อขอดู หน้าไพ่ ก็เพราะ เสริมสิน สมะลาภา มีการ โอนหุ้น และ เทรดหุ้น ในพอร์ตของตัวเองจำนวน หลายสิบล้านหุ้น ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน (ในขณะที่ข่าวรั่วมาถึงสำนักพิมพ์ 21 กรกฎาคม) หรือก่อนข่าวแตก นานร่วมเดือน

ต่อจากนี้ก็รอเพียง ท่านผู้หญิงชนัตถ์ โอเค!!! ถ้า เอ็นพาร์ค ขายหุ้น PA ทั้งหมดจำนวน 211.74 ล้านหุ้น สัดส่วน 63.40% ให้กับ ดุสิตธานี ที่ราคา 7-9 บาท (จริง) จะได้รับเงินไปประมาณ 1,482-1,905 ล้านบาท..ปิดดีลแบบ วิน-วิน เกม

เอ็นพาร์ค ได้เติมออกซิเจนอีกเฮือกใหญ่ ส่วน ไอ้โม่ง ที่เข้าไปดักเก็บหุ้น PA ไว้ล่วงหน้า ก็รอเอาหุ้นใส่พานไปขายให้ ดุสิตธานี (ผ่านเทนเดอร์ฯ) แบบสง่าผ่าเผย รวยแบบชิว-ชิว ยังไงล่ะ!!!

บางคนอาจจะมองว่า ถ้าดีลจบแบบ แฮปปี้เอนดิ้ง ท่านผู้หญิงชนัตถ์..โอเค!!! จะมี สตอรี่ ให้เล่นหุ้น N-PARK ต่อ

...แต่ต้องไม่ลืมว่า ถึงอย่างไรปัจจัยพื้นฐานของ เอ็นพาร์ค ก็ยังไม่เปลี่ยน เพราะที่ผ่านมา ตัวเอง (เอ็นพาร์ค) ขายสินทรัพย์ดีไปให้กับ PA หมดแล้ว จะเหลืออยู่แต่โครงการ ระหว่างดำเนินการ จะเอารายได้ที่ไหนมารับรู้

เพราะฉะนั้น นี่คือ สปอตไลท์ ที่ใช้ ล่อ..แมลงเม่า ให้บินมาเข้ากองไฟ (ชัดๆ) นักลงทุนที่เข้ามาเล่นหุ้นทีหลัง มีแต่ เสียเปรียบต้นทุน (คนวงใน) ทุกประตู

ในภาคของ ผู้รับผลประโยชน์ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek พบการเชื่อมโยงไปสู่บุคคล ระดับบิ๊ก ระหว่าง ชาลี โสภณพนิช ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ PA จำนวน 4.93 ล้านหุ้น

ชาลี เป็นบุตรของเจ้าสัว ชาตรี โสภณพนิช (ในฐานะประธานกรรมการ ดุสิตธานี) ในขณะที่ ธ.กรุงเทพ ก็ถือหุ้น PA อยู่ด้วยจำนวน 9 ล้านหุ้น

ถ้ากำหนดราคาขายที่ 7-9 บาท ชาลี จะได้รับเงินระหว่าง 34-44 ล้านบาท ส่วน ธ.กรุงเทพ จะได้รับเงินระหว่าง 63-81 ล้านบาท

ขณะที่ บ.ฟินันซ่าประกันชีวิต (ถือหุ้นโดยกลุ่มฟินันซ่า+วิริยะประกันภัย) จากที่ไม่มีหุ้น PA อยู่เลย กลับมีรายชื่อปรากฏในโครงสร้างผู้ถือหุ้น จำนวน 9.76 ล้านหุ้น จะได้รับเงินระหว่าง 68-88 ล้านบาท

ที่น่าสนใจก็คือ กองทุน UOB Kay Hian Private Limited ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 อยู่ที่ดุสิตธานี จำนวน 8.97 ล้านหุ้น จู่ๆ ก็มีชื่อโผล่เข้ามาถือหุ้น PA จำนวน 35.98 ล้านหุ้น ถ้าดีลนี้จบที่ราคา 7-9 บาท จะได้รับเงินระหว่าง 252-324 ล้านบาท

เมื่อย้อนดูข้อมูลของกองทุน UOB Kay Hian Private Limited พบว่า ยูโอบี เป็นแค่คัสโตเดียน ถือหุ้นทางอ้อมแทน เค็นเน็ท กอศิริโสภณ ซึ่งปัจจุบัน เค็นเน็ท เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับที่ 22 ของธนาคารกรุงเทพ จำนวน 18.28 ล้านหุ้น และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดตระกูลโสภณพนิช

ด้าน บล.กรุงศรีอยุธยา ที่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับดีลนี้ ที่จริงก็เกี่ยวโยงกับ เอ็นพาร์ค ทางอ้อมอยู่ด้วย เพราะ ธ.กรุงศรีอยุธยา และ บง.กรุงศรีอยุธยา เป็นผู้ให้การสนับสนุนทางด้านการเงิน (รายใหญ่) กับ เอ็นพาร์ค รวมถึงโครงการโรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท ในวงเงิน 1,765 ล้านบาท (มี ธ.ทหารไทยให้กู้ร่วมด้วย)

เหตุนี้จะว่า บล.กรุงศรีอยุธยา ไม่มีเอี่ยว (ผลประโยชน์ทางอ้อม) เลยก็ไม่ใช่

เมื่อกลับมาดูผู้ที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านหุ้น N-PARK (ขาขึ้น) นอกจาก เสริมสิน สมะลาภา และ สว่าง มั่นคงเจริญ แล้ว ก็ยังมีเจ้าเก่า บ.ฟินันซ่าประกันชีวิต

แต่ที่จะละสายตาไปไม่ได้ ก็คือ บ.วิริยะประกันภัย ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ N-PARK จำนวน 456.55 ล้านหุ้น จากเมื่อปีที่แล้ว บริษัทประกันภัยรถยนต์แห่งนี้ ถือหุ้นอยู่เพียง 108.21 ล้านหุ้นเท่านั้น

อีกเจ้าที่มาแรง..แซงทางโค้ง นั่นคือ มอร์แกน สแตนเลย์ แอนด์ โค อินเตอร์เนชั่นแนล (เป็นนายทะเบียน) ถือหุ้นแทน นอมินี ที่คาดว่าเจ้าของหุ้นตัวจริง น่าจะเป็น กลุ่มคนไทย (ฝรั่งหัวดำ) เข้ามาถือหุ้น N-PARK จำนวนมากถึง 659.53 ล้านหุ้น

และ ฝรั่งหัวดำ กลุ่มนี้ ที่ถือหุ้นผ่าน มอร์แกน สแตนเลย์ ก็น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่เข้ามาถือหุ้นใหญ่ อันดับหนึ่งใน บ.ฟินันซ่า (FNS) จะเกี่ยวข้องกับใครบ้าง..เป็นโจทย์ที่ ผู้ถือหุ้น ต้องคิดต่อเอาเอง

ทางด้าน ดุสิตธานี ที่หันมาสนใจ แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA) เพราะโรงแรมเชดี ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะได้รับอานิสงส์จากงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2549 (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549-31 มกราคม 2550) และบริษัทกำลังเตรียมที่จะก่อสร้างโรงแรมใหม่ที่เกาะสมุยในเร็วๆ นี้

ทั้งหมดนี้ คือ เกมล่ามหาสมบัติ ที่ผู้บงการเกม วางหมากซ้อนกันไว้ถึง 2-3 ชั้น...เหมือนๆ ใกล้จะปิดเกม..แต่เกมนี้ยังไม่ปิด

ที่มา กรุงเทพธุรกิจBizweek

จะเทนเดอร์เท่าไหร่ หว่า

ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3