ผลพวงจากดัชนีปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวัน
ส่งผลให้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ
จนดัชนีอ่อนตัวลงอยู่ใต้แนวรับ 695 จุดอีกครั้งแบบนี้ ไม่ได้ทำให้โมนิก้ารู้สึกวิตกกังวลแต่อย่างใด
เพราะเป็นเรื่องที่รับรู้กันมานานแล้วว่า ดัชนีต้องเผชิญแรงเทขายอย่างหนักอีกรอบก่อนจะทะยานขึ้นไปอย่างมั่นคง

*เนื่องจากแนวต้านบริเวณ 700 จุดเป็นแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา
ส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลยเลือกเทขายหุ้นในช่วงที่ดัชนีใกล้แตะแนวต้านดังกล่าว...
เพียงแต่แรงช้อนซื้อที่เข้ามารับหุ้นในช่วงที่อ่อนตัวลงมาหนาแน่นเหลือเกิน
เดี๊ยนถึงเชื่อมั่นใจว่าสัปดาห์นี้ดัชนีจะกระชากขึ้นทะลุแนวต้านนี้ชัวร์ป๊าบ...บบบ

*สัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องดีๆ เข้ามาในตลาดหุ้นมากมาย
แต่เสียอย่างเดียวคุณทนงพิทยะ(ลำใย) ดันจะส่งกองทุนวายุภักษ์เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนทหารไทยเสียนี่
ทั้งที่เห็นกันมานักต่อนักว่าแบงก์มันไปไม่รอด แล้วยังจะดันทุนรังเข้าไปอีกทำไม...
เนื่องจากทางแก้ที่แท้จริงมันอยู่ที่การปรับโครงสร้างภายในเจ้าค่ะ

*สาเหตุที่ทำให้เดี๊ยนฟันธงลงไปเช่นนั้น เพราะก่อนหน้านี้สัก 1-2 ปี เขาว่ากันว่า
การนำ TMB-DTDB-IFCT มาควบรวมกันแล้ว จะทำให้ธนาคารแห่งนี้ผงาดขึ้นเป็นแบงก์อันดับต้นๆ ของประทศ
แต่จนแล้วจนรอด โมนิก้า ยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเลยอย่าง

*ผลดังกล่าวทำให้เดี๊ยนต้องหยิบยก สมการ เน่า+เน่า+เน่า = เน่า มาใช้อีกครั้ง
หลังพ่อทูนหัว สุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไม่เห็นแสดงฝีมือให้ประจักษ์แก่สายตาสักที...
เหตุนี้เองที่ทำให้เดี๊ยนไม่กล้าแนะนำนักลงทุนเข้าไปเล่นหุ้นตัวนี้เพราะไม่มีสตอรี่อะไรน่าสนใจสักอย่าง

*ผลดังกล่าวทำให้เดี๊ยนต้องหยิบยก สมการ เน่า+เน่า+เน่า = เน่า มาใช้อีกครั้ง
หลังพ่อทูนหัว สุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไม่เห็นแสดงฝีมือให้ประจักษ์แก่สายตาสักที...
เหตุนี้เองที่ทำให้เดี๊ยนไม่กล้าแนะนำนักลงทุนเข้าไปเล่นหุ้นตัวนี้เพราะไม่มีสตอรี่อะไรน่าสนใจสักอย่าง

*เช่นเดียวกับหุ้นบลูชิบ ยามนี้นำสตอรี่เดิมๆ มาเล่นซ้ำแล้ว ซ้ำอีก จนแฟนข่าวหุ้นถามไถ่กันมากเหลือเกินว่า
จริงๆ แล้วพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
เดี๊ยนเลยขอใช้พื้นที่ตรงนี้ตอบข้อสงสัยให้กระจ่างแจ้งกันไปเลยว่า มันอยู่ที่แรงเชียร์
เพราะพื้นฐานหุ้นบลูชิบส่วนใหญ่ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล
แม้จะกำไรมากบ้าง น้อยบ้าง แต่สุดท้ายก็ยังทำกำไรได้อยู่ดี

*งานนี้เลยขอแนะนำนักลงทุนอย่าได้ลังเลใจเป็นอันขาด เพราะของถูกๆ แบบนี้ไม่ได้มีให้ซื้อกันบ่อยๆ
โมนิก้า ถึงต้องเสนอหน้าเชียร์ให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
หลังเกรงว่าจะตกขบวนรถด่วนเที่ยวสำคัญนะซี

*เมื่อดันราคาจนได้ที่แล้ว IEC ก็พร้อมเสิร์ฟให้นักลงทุนรายใหญ่ 4 กลุ่ม
ด้วยหุ้น150 ล้านหุ้น ราคาก็ประมาณ 3.17-3.18 บาท
เวลาในการทำ PP ครั้งนี้ก็พอเหมาะพอเจาะ อยู่ในช่วงที่พวกเก็งกำไรกำลังตายใจ
พอราคาร่วงลง แมงเม่าทั้งหลายก็ได้แต่ร้อง...
ก็ไม่ทันตั้งตัว กลัวใจรับไม่ทัน เมื่อจะลาล้างกัน ขอให้ฉันทำใจ
เพราะถึงเวลานี้ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้อีกแล้ว
พวกที่อยากแก้มือก็คงต้องเก็งสัดส่วนแลกหุ้นกับ BLISS กันต่อไป ซึ่งอาทิตย์นี้คงได้รู้ดำรู้แดงแน่นอนค่ะ

*GBX ราคาพุ่งแรงตั้งแต่เปิดตลาด ตลาดหุ้นปรับลง ราคาหุ้นก็ยังแข็งปั๋ง
เพราะแว่วมาว่าได้พันธมิตรใหม่มารักษาแผลใจ หลังจากบ้านแตกมาหลายเดือน
ปรับลุ๊คใหม่ครั้งนี้ คงทำให้ GBX กลับมาเป็นเฉิดฉายในวงการได้อีกครั้ง
เพราะที่ผ่านมาชีวิตผกผันเหลือเกินค่ะ แหม! โมนิก้าว่ากลิ่นไม่แพ้ละครตอนเย็นเลยนะคะเนี๊ยะ

*ก็จะไม่ให้เปรียบเทียบแบบนี้ได้ยังไง ในเมื่อปีที่แล้ว หุ้น GBX พุ่งฉิว
มาร์เก็ตแชร์บรํษัทลูกก็โตวันโตคืน อะไรก็ดูดีไปโม๊ด
คงแต่มีแต่คุณพี่ช่วงชัย ที่แอบเศร้าเล็กๆ เพราะโดนลดตำแหน่ง
แต่ตอนนี้อาจดีใจเล็กๆ เพราะหลังจากคุณพี่ออกแล้ว ทุกอย่างก็มืดมนไปหมด
แม้แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังมีข่าวถอดใจทิ้งหุ้นเลยค่ะ

*แต่ท้ายสุดก็มีอัศวินเข้ามาช่วยชีวิตจนได้
แถมงานนี้มีการปลอบขวัญทั้งพนักงานและผู้ถือหุ้น ด้วยการออกวอแรนท์ให้ฟรี ๆ
เอ๊ หรือจะเรียกว่ารางวัลความภักดีต่อองค์กรก็ไม่น่าจะผิดนะคะ
ส่วนพนักงานที่ออกไปก่อนหน้านี้ก็ไม่ต้องซู๊ดซี๊ดเสียดง เสียดายอะไรหรอกค่ะ
ทุกอย่างในโลกนี้ย่อมมี trade off เสมอ!

*ลูกอ๊อด AOT แผลงฤทธ์ได้ไม่นาน
ทั้งๆที่ใกล้ถึงเวลาเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิเข้ามาทุกที แต่ราคายังวิ่งไม่ไหว
เอ๊!หรือว่ามนต์คาถาที่คุณพ่อกบ โชติศักดิ์
กับผู้จัดการตลาดมือใหม่อย่างคุณพี่ภัทธรียาร่ายไว้เมื่อครั้งไปโรดโชว์จะหมดฤทธ์เสียแล้ว
แต่ยังไงก็ต้องจับตาค่ะ เพราะมีบิ๊กล็อตให้เห็นอยู่เหมือนกัน