15.50 น. วานนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ดัชนีขึ้นมายืนปิดเหนือแนวต้าน 690จุดอย่างน่าอัศจรรย์
เพราะจู่ๆ ก็มีแรงซื้อมหาศาลพรั่งพรูเข้ามาในหุ้นกลุ่มบลูชิบแบบไม่ทันตั้งตัว
จนในที่สุดดัชนีทะยานขึ้นมาปิดจุดสูงสุดของวันที่ 694.09 จุด
บวกไป 7.12 จุด ด้วยวอลุ่มระดับหมื่นล้านบาทต้นๆ
เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนรายย่อยรู้ว่า ขาขึ้นรอบใหม่กำลังเกิดขึ้นชัวร์ป๊าบ

*โมนิก้า ถึงพยายามย้ำหนักย้ำหนาว่า
สถานการณ์หลายอย่างในประเทศกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
นักลงทุนไม่ควรคิดถอดใจเป็นอันขาด
เพราะของถูกๆ แบบนี้นานทีปีหนถึงจะมีสิทธิ์ได้ซื้อ...
แถมหุ้นที่ขึ้นแต่ละตัวมีสตอรี่ และปัจจัยพื้นฐานรองรับเต็มประตูหน้าต่าง
ไม่คิดจะซื้อหุ้นตอนนี้ แล้วจะซื้อตอนไหนหล่ะค่ะ

*ยิ่งแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ดัชนีผงกหัวมาจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ยิ่งเป็นเครื่องการันตีว่า
ตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาดฯ ที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุน เลยไม่คิดโยกเงินไปพักไว้ที่อื่น
แบบนี้ ย่อมเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวนะจะบอกให้

*PTT และ PTTEP มาตามนัดทั้งแม่และลูกแบบนี้ ทำให้ โมนิก้า รู้สึกโล่งอกเป็นอย่างยิ่ง
เพราะแสดงให้รู้ว่าแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่หุ้นตลาดหุ้นนั้นหมดฤทธิ์ลงอย่างราบคาบ
เลยทำให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและนอกหวนกลับเข้ามาซื้อหุ้นกันอุตลุด
จนราคาหุ้นทะลุแนวต้านสำคัญเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนน้ำมัน
แบบนี้...ไม่ซื้อติดพอร์ตไว้บ้าง แล้วจะเสียใจนะเด็กโง่

*เช่นเดียวกับหุ้นบลูชิพกลุ่มหลักของตลาดฯ อย่าง แบงก์ สื่อสาร ปิโตรเคมี และอสังหาฯ
ถือเป็นหุ้นทีเด็ดที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด
เนื่องจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวหลายตัวมีราคาถูกอย่างน่าใจหาย
โมนิก้า ถึงต้องออกมาย้ำเตือนว่า สุภาษิตช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม มันตกสมัยไปแล้ว...
เพราะยุคนี้ สมัยนี้ มันต้องมือใครยาวสาวได้สาวเอา จริงไหมเจ้าค่ะ

*หลังจากที่ สุมิท แช่มประสิทธิ์ ผู้บริหาร IEC
ออกมาปฏิเสธ ว่าไม่ได้มีความต้องการจะซื้อหุ้น DE
ทั้งในรูปของการซื้อหุ้นส่วนตัว หรือผ่านทางบริษัท
ซึ่งข่าวดังกล่าวเจ้าตัวยืนยันเองว่าไม่มีอย่างแน่นอน
อย่างไรเสีย โมนิก้า ก็ขอบันทึกคำพูดเหล่านี้เอาไว้นะคะ

*เหตุที่ โมนิก้า ต้องจดจำไว้ เพราะวานนี้หุ้น DE ก็วิ่งขึ้นมาอย่างหวือหวา โดยไม่สนใจใครเลย
แล้วอย่างนี้จะให้เรียกว่าอะไรคะ โดยไม่สนว่าข่าวดีที่แท้จริงนั้นคืออะไรกันแน่
แต่ที่รู้ๆ ราคาหุ้นก็วิ่งไปเรียบร้อยแล้วคะ

*เท่านั้นยังไม่พอ โดยเฉพาะช่วงเช้าของวัน
มีการส่งสัญญาณให้มาร์เก็ตติ้งของโบรกเกอร์ใหญ่หลายแห่ง
ส่งซิกให้ลูกค้าของตนเข้าไปร่วมวงไพบูลย์ เพราะหุ้นตัวนี้จะวิ่ง
จึงไม่แปลกใจว่าตอนนี้ได้ติดลมบนไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนวันนี้มีลุ้นที่หุ้นจะวิ่งไปต่อคะ ราคาหุ้นปิดที่0.89 บาท บวกไป 0.19 บาท บวกไป 27.14%

*ส่วนหุ้นที่นานๆ โผล่ที อย่าง CEI ที่มีวอลุ่มโผล่มาให้เห็นอีกแล้ว
สำหรับรอบนี้ ไม่รู้จะเป็นการโยกหุ้นเล่นของรายใหญ่หรือเปล่า
หลังจากที่หุ้นเก็งกำไรหลายตัวยังไม่สามารถขยับเขยือนได้อย่างที่หวัง เพราะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯจับตาอยู่
จึงเป็นการดีที่จะสลับตัวเล่นจึงทำให้ราคาหุ้นปิดที่ 2.28 บาท บวกไป 0.22 บาท
ระวังนะคะจะเป็นสงครามวันเดียว (ถ้ารายใหญ่ปล่อยของหมดแล้ว)

*สำหรับหุ้น SINGHA ที่ต้องตกกระไดพลอยโจน โดนหางเลข กับการเข้าตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยมีจม.เวียนไปยังโบรกเกอร์ต่างๆ ในลักษณะที่ต้องรายชื่อนักลงทุนที่เทรดหุ้นเก็งกำไรที่หวือหวานั้น
ถือเป็นมรสุมที่เกิดขึ้นเป็นเลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ

*โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกตินั้น
เนื่องจาก มีรายใหญ่ที่มีนามว่า เสี่ยเปิ้ล ชายไทยผิวคล้ำ ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการตัวอยู่
ได้ทำการเข้าไปเล่นหุ้น IEC ของสุทิม แช่มประสิทธิ์ และกระโดดข้ามมายัง หุ้น D1ของจเรรัฐ ปิงคลาศัย
ซึ่งในระหว่างที่โยกไปโยกมานั้น ก็แวะเข้ามาแจมหุ้น SINGHA ด้วย

*จุดนี้แหละในช่วงที่รายใหญ่แวะเข้ามาโฉบหุ้น SINGHA
ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯจับตานักลงทุนกลุ่มนี้อย่างชนิดที่ว่ากัดไม่ปล่อยกันเลยทีเดียว
เลยพาลให้นักลงทุนเกิดเป็นความเข้าใจผิด และเทขายหุ้นออกมายกใหญ่

*ในที่สุดผลจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TRAF ก็ประกาศออกมาแล้วว่า
พ.ต.อ.รวมนครทับทิมธงไชย ได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง แทน สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ในฐานะ CEO คนใหม่ของบริษัท

*งานนี้คงไม่ต้องให้บอก ว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร
เพราะอดีตนายตำรวจคนนี้ เป็นมือเล่นหุ้นระดับเซียน นะจะบอกให้
ใครที่คิดจะเข้าไปร่วมวงก็ให้ดูทิศทางลมให้ดีก่อนนะคะ
ล่าสุดราคาหุ้นวิ่งมาปิดที่ 0.86 บาท บวกไป 0.03 บาท