May 5, 2024   11:17:46 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > พฤติกรรมอันตรายของ บจ?.?
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 24/08/2006 @ 18:33:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

พฤติกรรมอันตรายของ บจ?.? [/color:630ee5d1ec">
--------------------------------------------------------------------------------

ในช่วงที่ ภาวะตลาดหุ้นโดยรวมยังค่อนข้างซบเซาและการซื้อขายค่อนข้างเบาบางเนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งมีการชะลอการลงทุนเนื่องจากขาดความมั่นใจต่อทิศทางและแนวโน้มตลาดระยะสั้นที่ค่อนข้างผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจการเมือง และต่างประเทศ การกลับมาทบทวนผลการลงทุนในงวดครึ่งปี และวิเคราะห์แนวโน้มการลงทุนในโค้งสุดท้ายของปี 2549 คือช่วงกลางไตรมาส 3 ต่อไปไตรมาสที่ 4 น่าจะเป็นจุดหนึ่งที่อาจจะทำให้นักลงทุนปรับกลยุทธ์การลงทุนได้พอสมควร เพราะจะเป็นจุดที่จะได้วิเคราะห์ว่าหุ้นเกรดที่ถืออยู่ในพอร์ตปัจจุบันนั้นเป็นหุ้นประเภท อันตราย และมีพฤติกรรมการบริหารงานไม่เหมาะสมหรือไม่

ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า สินค้าในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์ใหม่(MAI) นั้นมี
สินค้าหลายเกรดปะปนกัน และสัดส่วนผสมของสินค้าที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นมีความหลากหลายมากในเชิงคุณภาพ ทั้งด้านการเงิน การบริหาร ธุรกิจ ผลประกอบการ และความมีศีลธรรมและจรรยาบรรณในฐานะผู้ประกอบการที่ดี หรือผู้บริหารแบบที่มีธรรมาภิบาล การคัดเลือกบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนจากประชาชนทั้งในส่วนของที่ปรึกษาทางการเงิน ส่วนของทางการเช่น ก.ล.ต.
ตลาดหลักทรัพย์นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการกลั่นกรองบริษัทเข้ามาระดมทุน และมีหน้าที่คอยสอดส่องดูแลกำกับบริษัทเหล่านี้ไม่ให้เข้ามาสร้างความเสียหายให้กับผู้ลงทุน หรือภาวะตลาดทุนโดยรวม แต่อย่างไรก็ตาม สังคมนักลงทุนในตลาดหุ้น ก็คงไม่ต่างจากสังคมที่มีการวิวาทกันที่เซ็นทรัลเวิร์ล หรือสยามพารากอน
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่นักลงทุนจะต้องเจอหุ้นประเภท เสือหิว แปลงร่างเข้ามา รับประทานเงิน ในกระเป๋าของนักลงทุนอยู่บ่อย ๆ

การสร้างระบบป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ของบรรดาเสือหิวที่เดินกันเต็มตลาดหุ้นนั้นจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่อาจจะหยุดยั้ง หรือลดความเสียหายจากการลงทุนได้ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่า บรรดาเสือหิวต่าง ๆ ได้มีการแปลงร่างหลายรูปแบบเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากตลาดหุ้น เช่น ผ่านการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นขนาดใหญ่บ้าง ส่วนเสือตัวเล็กก็แปลงร่างเข้าสิงบริษัทเล็ก ๆ ที่ระบบการจัดการยังไม่ค่อยดีแสวงหาผลประโยชน์ด้วยวิธีการต่าง ๆที่แยบยล เพิ่มทุนบ้าง ออกข่าวดีบ้าง เพื่อเอาเงินดี ๆ ที่ระดมจากประชาชนที่เข้าไปซื้อหุ้นแล้วค่อย ๆ ผ่องถ่ายเงินออกจากบริษัท ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การตั้งนอมินีเข้ามาบริหารบริษัทเพื่อที่จะมีช่องทางในการจ่ายเงินออกจากบริษัท การตั้งเงินเดือนสูง ๆ (แต่ทำงานไม่ได้เรื่อง) การมีบริษัทคู่ค้าเอาเงินไปแล้วไม่จ่ายคืน แล้วกลายเป็นหนี้เสีย โดยที่เม็ดเงินได้ออกจากบริษัทและ ล่องหน หายไปอยู่ในกระเป๋าของใครบางคนที่เอาเงินดี ๆ ไปซื้อสินทรัพย์ให้กับบริวารของตัวเอง แต่ทิ้งภาระหนี้ให้กับบริษัท ตลาดหุ้น และนักลงทุนให้คอยเก็บกวาด

พฤติกรรมของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายเป็นบริษัท อันตราย นั้นไม่ค่อยยากนักหากนักลงทุนจะมีการสังเกตและตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนที่จะเข้าไปซื้อหรือลงทุน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดทางการเงินคือ เรื่องของผลประกอบการส่วนมากมักจะมีงบการเงินที่ขาดทุนซ้ำซาก หนี้สินโตขึ้น รายได้ลดลง เพิ่มทุนซ้ำซากแต่บริหารไม่ได้เรื่อง
มีบริษัทย่อยยั้วเยี้ยที่จะเป็นช่องทางนำเงินออกจากบริษัท เป็นเหมือนรากแขนงที่ดูดเงินหรือทรัพย์สินดี ๆ
ออกจากบริษัทและทิ้งภาระไว้เบื้องหลังเมื่อมีการจับได้ไล่ทันก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และในที่สุดเรื่องก็เงียบหายไปกลายเป็นตำนานให้เล่าขานกันในตลาดหลักทรัพย์ รุ่นแล้ว รุ่นเล่า

นั่นคือลักษณะของบริษัทจดทะเบียนที่ไก่ทองหมายถึงบริษัทอันตรายที่พร้อมที่จะสูบเงินดี ๆ ของนักลงทุนไป ซึ่งนักวิเคราะห์ให้นิยามบริษัทเหล่านี้ว่าเป็น Bad Company แปลตรงตัวว่าเป็นบริษัทที่ไม่ดี ไม่น่าลงทุน ไม่น่าจะเอาตัวเข้าไปเสี่ยง เพราะเข้าไปแล้วหากเอาตัวรอดไม่ได้ก็จะถูก หลอกรับประทาน กลายตือ หรือหมูบะช่อ ให้เขาสับกินอิ่มอร่อย แต่เนื่องจากนักลงทุนในตลาดต้องการหา หุ้นดี (Good stock) คือเป็นหุ้นที่ซื้อแล้วได้กำไร
ในระยะเวลาที่ค่อนข้างรวดเร็ว และกำไรอาจจะก้อนโต ดังนั้นบ่อยครั้งที่นักลงทุนก็ต้องเข้าไปเสี่ยงกับ Bad Company เพียงเพราะต้องการเข้าไป หยิบเงิน จากบริษัทเหล่านี้ ทั้งนี้เพราะราคาหุ้นเหล่านี้ หากเปรียบเหมือนสินค้าก็เรียกว่า แปลงกาย ได้ชนิดแนบเนียนสวยไม่มีที่ติ ราคาหุ้นวิ่งขึ้น วิ่งลงแบบทุกคนต้องหันไปมองแล้วอ้าปากค้าง ยั่วยวนจนน้ำลายหก แต่เข้าไปหากโชคดีก็ได้เศษเงิน หรือรางวัลก้อนโตกลับบ้าน แต่หากเผลอเมื่อไหร่ปรากฎกว่า เหลือแต่ตัวล่อนจ้อน แถมด้วยน้ำตาตกอีกต่างหากถามว่าแล้วจะให้ทำอย่างไร ในเมื่อเลือกหุ้นประเภทบริษัทดี ปรากฏว่าไม่ทันใจราคาหุ้นก็ไม่ขึ้น แต่ปรากฏว่าหุ้นดี ที่ไม่ใช่บริษัทดีที่มีอยู่เกลื่อนตลาดนั้นกลับมีปริมาณสูงกว่า ดังนั้นจึงต้องใช้กลยุทธ์ในการลงทุนโดย ไม่ประมาท ส่วนการจะรอความช่วยเหลือจากทางการในการกำจัดตัวเล่นประเภท Bad Company ให้หมดจากตลาดนั้นคงเป็นเรื่องยาก เพราะมิฉะนั้นกรณีศึกษาอย่างบริษัทยักษ์เอ็นรอนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาคงไม่เกิดขึ้น หรือแม้แต่กรณีตึกเวิร์ลเทรดถล่มก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นเช่นกัน แต่เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นแล้ว

ดังนั้นหากนักลงทุนยังคงต้องมีอาชีพเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และต้องการลงทุน หรือเก็งกำไรหุ้น
หากพบว่าบริษัทไหนพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลก็ควรจะหลีกเลี่ยงในการเก็งกำไรก็จะเป็นทางช่วยอีกทางหนึ่ง
หรืออาจจะเข้าเก็งกำไรในลักษณะให้น้ำหนักการลงทุนแบบน้อย ๆ ก็จะช่วยลดความเสียหายได้หากเทียบกับการลงน้ำหนักแบบหมดหน้าตัก และหากจะหันไปในหุ้นประเภทบริษัทดี มีงบการเงินดี ปันผลดี ผู้บริหารมีผลการดำเนินงานที่เป็นที่ยอมรับก็น่าจะเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนลดความเสี่ยงลงได้บ้างเข้าทำนอง ไม่ได้ แต่อย่าให้เสีย แต่หากนักลงทุนมีภูมิคุ้มกันหุ้นอันตรายดี และชอบเกมแบบเสี่ยง ๆ เพราะได้เสียกันดี ประเภทว่า ตี๋ทนได้
เอ็งไม่ต้องยุ่งอันนี้ก็โทษใครไม่ได้จริง ๆ เพราะเลือกกันเองแบบว่า ให้ การลงทุนมีความเสี่ยง ทำหน้าที่เตือนกันเองแล้วกัน

ส่วนหุ้นตัวไหนพฤติกรรมอย่างไรนั้น ลองใช้รูปแบบที่กล่าวถึงไปจับกันดู ที่สำคัญอย่าลืมกดดูรายชื่อผู้ถือหุ้น
และรายชื่อบริษัทย่อยที่มีธุรกิจเชื่อมโยงกัน หากชื่อบริษัทหน้าเดิม ๆ จะตีความกันอย่างไร และตัดสินอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับนักลงทุน เพราะตราบใดที่นักลงทุนยังโหยหาหุ้นดี เล่นแล้วมีกำไร ก็มีโอกาสเจอหุ้นประเภทบริษัทไม่ดีหรือบริษัทอันตรายได้เช่นกันหากลืมตัว หรือเข้าตลาดเวลาตลาดหุ้นตกความเสี่ยงก็เพิ่มตามเป็นเรื่องธรรมดา

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com