May 5, 2024   5:50:21 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ข่าวลอบสังหาร"ทักษิณ" ฉุดหุ้นดิ่ง
 

jagkrub
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 43
วันที่: 25/08/2006 @ 10:13:42
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

[b:67ea892170">ข่าวลอบสังหารทักษิณ ฉุดหุ้นดิ่งยังมีอีกหรือไม่ข่าวร้ายกว่านี้!![/b:67ea892170">[/color:67ea892170">
* ฝรั่งหนีตายด้วย ขายสุทธิครั้งแรกในรอบ 1 เดือน

ข่าวร้าย! กระหน่ำหุ้นไทยรายวัน ล่าสุดข่าวบึ้มบ้านนายกฯ กดดันดัชนีไม่โงหัว หลุด 700 จุดต่อเนื่อง ส่งผล 2 วัน SET Index รูดกว่า 14 จุด ขณะที่สำนักข่าวกรองฯ ระบุชัดเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายลอบสังหาร ด้าน ทนง ชี้ชัดสะเทือนความมั่นใจนลท.ต่างชาติ วงการ ฟันธง จับตาข่าวร้ายระลอกใหม่ ราคาน้ำมัน-ก่อการร้ายข้ามชาติ-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ-การเมืองในปท. โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนของวันเลือกตั้ง ยังจ่อคอหอยคอยตามรังควาน ซีมิโก้-ซิกโก้ให้แนวรับใหม่ 688 จุด พัฒนสินให้ที่ 675 จุด แต่ผู้จัดการตลาดฯ ยังมองโลกแง่ดี นักลงทุนอย่าเพิ่งตื่นตกใจ ตลาดหุ้นปรับลดลงเพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา
ในที่สุดตลาดหุ้นไทยก็ยังไปไม่ถึงดวงดาวเสียที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดัชนีทะลุแนวต้าน 700 จุด โดยสามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ค่อนข้างนาน แต่หลังจากที่มีปัจจัยลบรุมเร้ารอบด้านทั้งปัจจัยภายในและภายนอกโดยเฉพาะ 2 วันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกรณีการให้คำตอบว่าจะยุติโครงการเสริมสมรรถนะยูเรนียมของอิหร่านต่อองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ที่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีคำตอบจากอิหร่านแต่อย่างใด แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ที่อาจจะมีขึ้นอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ หลังจากที่ชะลอการปรับขึ้นไปในเดือนนี้ รวมไปถึงความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะชะลอลงมาก จนทำให้ดัชนีตลาดต่างประเทศปรับตัวลดลง ในขณะที่ปัจจัยในประเทศ การพิจารณากรณีนอมินี บริษัทกุหลาบแก้ว และ ซีดาร์ โฮลดิ้ง ในการเข้าซื้อหุ้นชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) ของกระทรวงพาณิชย์ ความไม่ชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งที่เริ่มไม่แน่ว่าจะเลื่อนออกไปจากวันที่ 15 ตุลาคม อีกหรือไม่
และล่าสุดเมื่อวานนี้ข่าวการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี หลังจากมีพบว่ามีนายทหารคนหนึ่งขับรถยนต์ไปบริเวณสีแยกบางพลัด ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับบ้านพักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีที่ตั้งอยู่ในซอยจรัลสนิทวงศ์ 69
โดยภายหลังพบว่าผู้ขับรถยนต์ดังกล่าว คือ ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นธนะ นายทหารสังกัดกองบัญชาการทหารบก ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบส่วนประกอบของระเบิดประเภททีเอ็นที 2 ก้อนซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ต้องสงสัยที่พบบริเวณสี่แยกบางพลัดเช้านี้ โดยอาวุธดังกล่าวนั้นเข้าข่ายเป็นอาวุธสงคราม ซึ่งถือเป็นอาวุธที่ใช้เพื่อภารกิจของทหารและใช้ระเบิดหิน และหากจุดชวนระเบิดขึ้นก็น่าจะมีอานุภาพทำลายรถทั้งคันได้
ในขณะที่ พลเอกจุมพล มั่นหมาย ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีเหตุลอบวางระเบิดบริเวณใกล้บ้านพักรักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น จากการรายงานของกรมสรรพาวุธทหารบก พบว่ามีการเตรียมพร้อมวัตถุระเบิดจำนวนมาก ซึ่งมีอนุภาพรุนแรงพอสมควร จึงคาดการณ์ว่าการสร้างสถานการณ์ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลอบสังหารรักษาการนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ดี สำนักงานข่าวกรองและหน่วยงานรักษาความปลอดภัย เตรียมเพิ่มกำลังคุ้มกันรักษาการความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีให้มากขึ้น ภายหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดรักษาการนายกฯ และย้ำว่าจะเข้มข้นในการดูแลสถานการณ์ให้มากขึ้น
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด ก่อให้เกิดความกังวล และส่งผลกระทบจิตวิทยาการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวานนี้ทันที ทั้งในช่วงเช้า และช่วงบ่าย ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และลดลงไปมากสุดที่ระดับ 688.05 จุด ลดลง 9.96 จุด แต่หลังจากนั้นตลาดเริ่มรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้างในช่วงบ่าย จนมาปิดที่ระดับ 692.17 จุด ลดลง 5.84 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 9,642.44 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับเมื่อวันพุธที่ 23 สิงหาคม ที่ปรับตัวลดลง 8.29 จุด ส่งผลให้ 2 วันที่ผ่านมา ดัชนีฯลดลงรวมแล้ว 14.43 จุด หรือประมาณ 2% แล้ว ขณะที่นักลงต่างประเทศนั้นมียอดขายสุทธิเมื่อวานนี้ 639.58 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการขายสุทธิครั้งแรกในรอบ 1 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม ส่วนนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 492.16 ล้านบาท แต่นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,131.74 ล้านบาท
ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากภาวะในขณะนี้แล้วทำให้ความหวังว่าดัชนีจะปรับตัวเหนือระดับ 700 ทั้งที่ก่อนหน้าสามารถปรับขึ้นไปได้แล้วนั้นกลายเป็นห่างไกลออกไปอีก และต้องมากลับมาลุ้นว่าตลาดฯจะยืนขึ้นไปเหนือระดับดังกล่าวได้อีกเมื่อไหร่



* ทักษิณ ไม่หวั่นถูกบึ้ม ระบุเกิดครั้งเดียว-ตายครั้งเดียว
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงเหตุลอบวางระเบิด ใกล้บ้านพักซอยจรัญสนิทวงศ์ ว่า ไม่กังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีชีวิตเดียว เกิดครั้งเดียว และตายเพียงครั้งเดียว แต่เจ้าหน้าที่ก็กำชับให้ระวังตัวเพิ่มขึ้น
โธ่ ผมไม่วิตกหรอก คนเรานะมีชีวิตเดียว เกิดหนเดียว ก็ตายแค่หนเดียว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
ทั้งนี้ได้ทราบกับหน่วยข่าวกรองมาก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 2 สัปดาห์ เชื่อมีความพยายามในการก่อเหตุและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กำชับให้ตนระวังมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ทราบว่าจุดประสงค์ในการก่อเหตุหมายมุ่งที่จะเอาชีวิตหรือไม่ ขอให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายสืบสวนและสอบสวน
จริงๆ แล้ว เมื่อเช้านี้ ผมไม่มีหมายประชุมน้ำท่วม ต้องออกจากบ้านสายกว่านี้ แต่เห็นว่างานน้อยก็เลยเพิ่มวาระเข้าไป จึงทำให้ออกจากบ้านเร็วขึ้น เป็นส่วนหนึ่งและขอบอกสื่อ ขอโทษสื่อด้วยว่าตอนนี้หมายงานของผม อาจมีการเปลี่ยนไป เปลี่ยนมาบ้าง เพื่อป้องกันความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
โดยในระหว่างนี้อาจงดไปงานนอกทำเนียบรัฐบาลน้อยลง จะไปงานที่จำเป็นเท่านั้น โดยบางงานหากมีตัวแทนก็จะทำให้ตัวแทนไปดำเนินงานแทน จนกว่าเจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวนจะสามารถสรุปสำนวนได้ทั้งหมด โดยส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ขอให้ระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น แต่อาจไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัย เพราะขณะนี้มีมากพอควรแล้ว แต่ให้เพิ่มความปลอดภัยในด้านต่างๆ มากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน ภายหลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดใกล้บ้านพัก ว่ามีผลต่อการตัดสินใจอนาคตทางการเมืองด้วยหรือไม่ แต่มีสีหน้ายิ้มแย้ม
ส่วนความเกี่ยวโยงระหว่างสาเหตุทางการเมืองกับเหตุลอบวางระเบิดจะเกี่ยวกันหรือไม่นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการสืบสวน สอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ
เราทราบมาล่วงหน้าแล้ว ประมาณ 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ที่ผมเดินทางลงจากเครื่องที่สนามบินบน.6 ทั้ง 2 ครั้ง ก่อนเกิดอุบัติเหตุรถชนกันในท่าอากาศยาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระวังมาตลอด แต่เหตุครั้งนั้นไม่เกี่ยวกับการลอบทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว



*ทนง ชี้ เหตุลอบวางระเบิดฉุดความเชื่อมั่นนลท.ต่างชาติ
ด้านนายทนง พิทยะ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เหตุลอบวางระเบิดใกล้บ้านพัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นเส้นทางการเดินทางในการกลับบ้านพักส่วนตัวของรักษาการนายกฯ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้นในประเทศไทย และเป็นกระทำของผู้ไม่หวังดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอันตรายแก่ประเทศชาติ และส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในต่างประเทศ
สถานการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศขณะนี้ อาจไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากนัก เนื่องจากกระทรวงการคลังได้พบปะนักลงทุนต่างประเทศ และอธิบายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในประเทศให้ฟังแล้ว และมั่นใจว่าตราบใดที่ประเทศไทยยังคงดำเนินอยู่ในครรลองของประชาธิปไตย ปัญหาทุกอย่างก็จะไม่เกิดนายทนงกล่าว
นายทนงกล่าวต่อว่า เป็นห่วงการลงทุนในช่วงไตรมาส 2 และครึ่งปีหลัง 2549 ที่การลงทุนเริ่มชะลอตัวลงมาก และยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว และสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ จะเป็นสิ่งที่ช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้


*ภัทรียา ระบุดัชนีหลุด 700 เพราะการเมือง
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 700 จุดนั้น เป็นผลมาจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาดนอกเหนือจากประเด็นเรื่องการเลือกตั้ง ซึ่งการที่ยังคงไม่มีความชัดเจนนั้นอาจส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุน
ปัจจัยที่ยังไม่ชัดเจนก็คงทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน ซึ่งอย่าเพิ่งตื่นตกใจการที่ตลาดหุ้นปรับลดลงนั้นเป็นเพราะยังไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามา นางภัทรียา กล่าว


*ส.นักวิเคราะห์ ชี้ ข่าวบึ้มบ้านนายกฯ แค่ปัจจัยลบระยะสั้น
นายสมบัติ นราวุฒิชัย กรรมการและเลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นปัจจัยลบระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงต่ำกว่า 700 จุด ยังคงมีหลายปัจจัยทั้งในเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่าเกินไป รวมทั้งความไม่ชัดเจนของสถานการณ์ทางการเมือง ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นขานรับข่าวดีมาพอสมควรแล้ว
ข่าววางระเบิดถือว่าเป็นองค์ประกอบเรื่องหนึ่งที่เป็นปัจจัยลบกระทบตลาดเพราะยังมีเรื่องอื่นผสมอยู่ที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับลดลง และประเด็นที่ต้องติดตามยังคงมีเรื่องของความคืบหน้าทางด้านการเมืองและตะวันออกลาง นายสมบัติ กล่าว
ทั้งนี้ ประเมินว่าหากดัชนีฯ ปรับตัวลดลงไปถึงบริเวณ 685 จุด เชื่อว่าจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีความสนใจเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมีการซื้อสุทธิน้อยลงนั้น เนื่องจากดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในระดับหนึ่งประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่าลง
ต่อจากนี้ไปมองว่าดัชนีฯ อาจจะปรับตัวลดลงแต่เชื่อว่าคงไม่ลึกไปกว่า 685 จุด นายสมบัติ กล่าว


*CNS ฟันธงเทคนิคหุ้นไทยไม่สวย ให้แนวรับใหม่ที่ 675 จุด
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า สัญญาณทางเทคนิคของดัชนีตลาดหลักทรัพย์หลังจากที่หลุดแนวรับ 690 จุด มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวได้อีก เพราะนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับกรณีที่มีการลอบวางระเบิดใกล้บ้านพัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมตรี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลลบต่อจิตวิทยาการลงทุน ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำนักลงทุนปรับพอร์ตและควรรอดูสถานการณ์ทางการเมืองก่อนตัดสินใจลงทุน โดยให้แนวรับไว้ที่ 675 จุด ให้แนวรับถัดไปไว้ที่ 670 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 700 จุด
เทคนิคของดัชนีฯ ช่วงนี้ก็ยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวและมีโอกาสอ่อนตัวได้อีก โดยในช่วงที่ผ่านมาดัชนีปรับลดลงกว่า 40 จุด จาก 715 จุด ลงมาเหลือต่ำกว่า 690 จุด ช่วงนี้ก็ควรปรับพอร์ตรอความชัดเจนด้านการเมืองด้วย นายชัย กล่าว


* ซีมิโก้ แนะจับตาราคาน้ำมัน-ก่อการร้าย ยังเป็นข่าวรายตลาดหุ้น
นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ กล่าวว่า ดัชนีฯในตลาดหลักทรัพย์วันนี้ที่ปรับตัวลดลง เป็นเพราะขาดปัจจัยข่าวดีกระตุ้น ขณะเดียวกันยังมีประเด็นการลอบวางระเบิดบริเวณแยกบางพลัดซึ่งใกล้บ้านนายกรัฐมนตรี จึงอาจเป็นปัจจัยกดดันการลงทุน
ทั้งนี้ ประเมินว่าดัชนีฯในวันพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวน์เพิ่มขึ้นจนกลับมายืนในระดับ 700 จุด หากไม่มีปัจจัยเลวร้ายใดๆเข้ามากระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนอีก โดยจากนี้ต้องจับตาแรงซื้อนักลงทุนต่างประเทศเป็นสำคัญ เนื่องจากมีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ โดยในส่วนของประเด็นที่ต้องติดตามคือราคาน้ำมันในตลาดโลก การก่อการร้ายต่างประเทศ รวมถึงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเนื่องจากหากมีปัจจัยใดๆที่มีผลต่อความเชื่อมั่นต่างประเทศย่อมกระทบต่อภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ไทย
จริงๆแล้ว เทรนดัชนีฯลงอยู่ แต่อาจจะไม่แรงขนาดนี้หากไม่มีลอบวางระเบิด ซึ่งก็ไม่น่ามีผลอะไรสำหรับการลงทุนวันต่อๆไปมากนัก เพราะนักลงทุนรับรู้ไปแล้วและก็มีการจับคนร้ายได้ ซึ่งจากนี้ต้องรอดูแรงซื้อขายต่างชาติเป็นหลักเลย เพราะต้องยอมรับเม็ดเงินต่างชาติสำคัญและมีผลต่อตลาดฯหุ้นบ้านเรานายสิทธิเดช กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ภาวะตลาดฯจะลดลง แต่ถือเป็นจังหวะเหมาะในการทยอยเก็บหุ้นพื้นฐานดี และราคาถูก โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และสื่อสาร ประเมินแนวรับไว้ที่ 688 จุด และแนวต้านที่ 700 จุด


* ซิกโก้ ให้แนวรับจากนี้ที่ 688 จุด แนะทยอยลงทุนหุ้นพลังงาน
นายเกียรติก้อง เดโช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ไปยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีปัจจัยลบใหม่ที่มีอิทธิพลเข้ามากระทบภาวะตลาดฯ เหมือนกับ เหตุการณ์ลอบวางระเบิดใกล้บ้านพัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมตรี หรือไม่ เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาได้ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าแนวโน้มดัชนีฯ ในไตรมาสที่ 4/2549 คงจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น ประกอบกับสถานการณ์ต่างๆ คงจะเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเมืองและการเลือกตั้ง ถึงแม้ว่าหากจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจาก 15 ตุลาคม 2549 ก็มีนัยสำคัญ เนื่องเรื่องนี้เป็นประเด็นเดิมๆ ที่นักลงทุนรับรู้แล้ว
การเมืองตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการเลื่อนออกไปหรือเปล่าแต่ถ้าหากมีการเลื่อนออกไปก็มองว่าไม่มีผลกระทบเพราะนักลงทุนก็รับรู้แล้ว ไม่น่าจะมีอะไรเพราะที่ผ่านมาก็ไม่มีผลกระทบต่อภาวะตลาด แต่ที่ยังคงกังวลคือเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคหากมีการยุบพรรคการเมืองเกิดขึ้นมีผลกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นไทยแน่นอน นายเกียรติก้อง กล่าว
สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามประกอบด้วยทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ค่าเงินบาท อัตราดอกเบี้ยและปัจจัยทางการเมือง เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนและมีอิทธิพลต่อภาวะตลาดได้ ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำทยอยลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยให้แนวรับไว้ที่ 688 จุด ให้แนวต้านไว้ที่ 720 จุด ให้แนวต้านถัดไปไว้ที่ 725 จุด



*น้องใหม่ JTS ยังมั่นใจขายไอพีโอ ไม่หวั่นตลาดหุ้นร่วง
แหล่งข่าวจาก บล.ซิมีโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ หรือ JTS กล่าวว่า บริษัทยังคงมีความมั่นใจที่จะเสนอขายหุ้น IPO ของหุ้น JTS แม้มีเหตุการณ์ลอบวางระเบิด ซึ่งมองว่าถ้าเป็นนักลงทุนที่มองในเรื่องปัจจัยพื้นฐาน สถานการณ์ดังกล่าวคงไม่ส่งผลกระทบกับหุ้น JTS เนื่องจากหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีการเติบโตของกำไรและยังมีงาน backlog ในมือ ทั้งนี้ยังมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่รุนแรง แต่อย่างไรก็ตามต้องขอรอดูสถานการณ์ในช่วงใกล้ที่จะนำหุ้นดังกล่าวเสนอขายอีกครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนก.ย. นี้
พร้อมกันนี้แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า เรามองว่าราคาที่เสนอขายอยู่ในช่วง 3.10-3.30 บาท เป็นราคาที่ไม่แพง ซึ่งถ้าถือหุ้นแล้วจะมีกำไร ซึ่งราคาดังกล่าวยังต้องรอการอนุมัติของคณะกรรมการบริหารของ JTS อีกครั้ง โดยจุดเด่นของบริษัท JTS ถือได้ว่ามีประสบการณ์ มีผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจบริการโทรคมนาคม และมองว่าในระยะยาว นโยบายของภาครัฐน่าจะยังสนับสนุนการให้บริการอย่างต่อเนื่อง และด้วยภาวะโดยรวมของบริษัทที่ให้บริการทางด้านโทรคมนาคม ยังมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#1 วันที่: 01/10/2006 @ 19:36:36 : re: ข่าวลอบสังหาร"ทักษิณ" ฉุดหุ้นดิ่ง
.000c .000c
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com