arthor สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 803 | วันที่: 29/08/2006 @ 13:01:25 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต โผหุ้นแกร่งสวนตลาด [/size:9274d459fb">
--------------------------------------------------------------------------------
ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังดิ่งลงไม่หยุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 6,397 ล้านบาท ฉุดบรรยากาศการลงทุนเงียบเหงา จากปัจจัยลบรอบด้านที่รุมเร้า ฉุดแรงขายหุ้นแทบทุกกลุ่มติดลบแดงเถือก นักลงทุนมึนหาทิศทางไม่เจอ หลังประมวลมุมมองโบรกเกอร์แล้ว รอบนี้ยังมีทางออก หุ้นแดงยังไม่หมดหวัง ระหว่างนั่งรอตลาดฟื้น เป็นโอกาสเหมาะสะสมหุ้นเด่นน่าลงทุนและปลอดภัยจากมรสุมร้ายรอบด้าน เติบโตต่อเนื่องจากรายได้หลักที่แน่นอน ภาวะเศรษฐกิจ-การเมืองกระทบได้แค่ผิวเผิน คัด 3 หุ้นเด่น กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มโรงไฟฟ้า โบรกยก BGH ขึ้นแท่นหลังเปิดสุวรรณภูมิดันลูกค้าต่างชาติทะลักหนุนรายได้โตต่อเนื่อง ให้ราคาเหมาะสมปีนี้ 38.19 บาท ส่วนค้าปลีก BIGC ยอดขายยังคงโตหลังเร่งส่งเสริมการขายและเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง ให้เป้าหมาย 46.14 บาท ด้านโรงไฟฟ้าแนะนำ RATCH กินรายได้มั่นคงแน่นอนจากธุรกิจขายไฟฟ้าในสัญญาระยะยาว ให้ราคาเหมาะสมปีนี้ที่ 44.00 บาท
ภาวการณ์ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยวานนี้(28ส.ค.)ดัชนีปิดตลาดติดลบที่ 682.07 จุด ลดลง 7.06 จุด หรือ 1.02% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 6,397 ล้านบาท ซึ่งมีแรงขายหุ้นในแทบทุกกลุ่ม โดยมีหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 72 หลักทรัพย์ ขณะที่มีหลักทรัพย์ลดลง 261 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 89 หลักทรัพย์
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากปัจจัยลบที่ยังไม่มีความชัดเจนทั้งจากการเมืองในประเทศ และและสถานการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยคงเคลื่อนไหวไปไหนได้ไม่ไกลนัก จึงมองว่าหุ้นประเภทที่มีความผันผวนต่ำและมีรายได้ที่แน่นอน (Defensive Stock) น่าจะถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
?ตลาดหุ้นไทยยังอิงกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดหุ้นต่างประเทศ ราคาน้ำมัน หรือค่าเงินบาท โดยดัชนีพร้อมที่จะปรับขึ้นหากตลาดหุ้นต่างประเทศหรือราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นผลกระทบจากปัจจัยด้านจิตวิทยามากกว่าปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง ดังนั้นหุ้นประเภทที่ผันผวนต่ำทำกำไรได้ต่อเนื่องแม้ตลาดหุ้นจะไม่ดี น่าจะเป็นคำตอบที่ดีในภาวะตลาดช่วงนี้เหมือนกัน?นายชัยกล่าว
อย่างไรก็ตามหากตลาดหุ้นกลับฟื้นตัวนักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นหุ้นประเภทนี้ก็ยังสามารถเลือกลงทุนได้เช่นกันนอกจากจะได้ผลตอบแทนในเรื่องส่วนต่างราคาหุ้นแล้วยังถือว่าเป็นหุ้นที่มีเงินปันผลค่อนข้างโดดเด่นจากกระแสเงินสดในมือที่มากและถือเป็นคุณสมบัติของหุ้นประเภทดังกล่าว
คัดหุ้นเด่น3กลุ่มน่าลงทุน
สำหรับหุ้นกลุ่มที่ถือว่าเป็นหุ้นประเภท Defensive Stock เช่น หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่ถือว่าเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยมีความเกี่ยวเนื่องกับภาวะเศรษฐกิจเท่าไหร่นัก ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องถึงแม้จะไม่หวือหวาเหมือนกุล่มอื่นๆ โดยหุ้นที่น่าสนใจคือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด ( มหาชน) BGH
ฝ่ายวิจัยมองว่าหุ้นในกลุ่มนี้น่าสนใจจากผลการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยต่างชาติมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงพยาบาล หรือสาขาที่มีทำเลอยู่ใกล้กับเขตสนามบิน โดยแนะนำซื้อ BGH คาดว่ารายได้จากค่าบริการในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 27% เป็น 12,993 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,260 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อน ให้ราคาเหมาะสมในปีนี้ที่ 38.19 บาท
ส่วนกลุ่มพาณิชย์ประเภทค้าปลีก แนะนำ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)BIG C ที่ถือว่ายอดขายยังคงโตต่อเนื่องท่ามกลางปัจจัยลบต่างๆที่กระทบกำลังซื้อของผู้บริโภครวมถึงการส่งเสริมการขายและเพิ่มหรือปรับปรุงสาขาเดิมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิในปีนี้เป็น 2,289 ล้านบาท และให้มูลค่าเหมาะสมที่ 46.14 บาท
RATCHกินรายได้ยาว
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในภาวะตลาดหุ้นช่วงนี้ถือเป็นโอกาสเหมาะที่จะเลือกลงทุนหุ้นประเภท Defensive Stock หรือหุ้นที่ไม่ขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจหรือปัจจัยลบต่างๆ
?ในช่วงที่ตลาดหุ้นขาดความมั่นใจ มีปัจจัยลบรุมเร้า ควรที่จะเลือกลงทุนหุ้นประเภทที่อ่อนไหวต่อปัจจัยลบต่างๆ ซึ่งนอกจากจะมีรายได้ที่แน่นอนแล้วส่วนใหญ่ยังมีการจ่ายเงินปันผลที่ดีเสม่ำเสมอด้วย?นายโกสินทร์กล่าว
สำหรับหุ้นที่แนะนำคือหุ้น ในกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นหุ้นในกลุ่ม Denfensive Stock ที่เห็นชัดเจนที่สุด เนื่องจากธุรกิจขายไฟฟ้าเป็นการเจรจาตกลงซื้อขายในสัญญาระยะยาว ทำให้รายได้ค่อนข้างที่จะแน่นอน โดยแนะนำซื้อบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) RATCH โดยให้ราคาเหมาะสมในปีนี้ที่ 44 บาท
นักวิเคราะห์เทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า หุ้น BGH ระยะสั้นยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว ให้แนวรับที่ 28.50-28.00 บาท แนวต้านที่ 29.75-30.25 บาท ส่วน BIGC แนวโน้มเทคนิคยังดี ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ แต่มีปัญหาในเรื่องของสภาพคล่อง โดยแนะนำซื้อลงทุน ให้แนวรับที่ 37.00 บาท แนวต้านที่ 38.00 บาท และ RATCH แนวโน้มยังดูอ่อนแอ ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวลดลง แนะนำ?ซื้อเมื่ออ่อนตัว? โดยให้แนวรับที่ 33.50-33.00 บาท แนวต้านที่ 35.00-35.50 บาท
|
arthor สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 803 | #2 วันที่: 29/08/2006 @ 14:12:04 : re: โผหุ้นแกร่งสวนตลาด ฟฟฟฟ2 ฟฟฟฟ2 ยืมมาจากอาฟง[/color:98d2b77a03">
....
๐ จับตา บ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) กันหน่อย เพราะตอนนี้ อู้ฟู่ สุดๆ กำเงินสดไว้ในมือกว่า 4,700 ล้านบาท มากกว่า มาร์เก็ตแคป ของ(ทั้ง)บริษัทเสียอีก แถมยังเก็บ ข่าวดี ไว้หลายชอตรอให้เล่น ๐ งานนี้ นายหัวใหญ่ (อดิศัย โพธารามิก) ถึงขั้นลงมาคุมเกมเอง ใครอดทนถือยาวๆหน่อย..มีลุ้น
.0007 .0007 อันนี้ของนักวิแคะ[/color:98d2b77a03">
....
มีข่าวจะนำบริษัทลูก JTS เข้าตลาด ซึ่งน่าจะทำให้ JAS ได้กำไรจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ประมาณ 500 ล้านบาท โดยทาง JAS นั้นมีต้นทุนที่ราคาพาร์ 1 บาท ราคาเสนอขาย JTS อยู่ที่ 3.10-3.20 บาท เปิดจองช่วงต้นเดือนหน้านี้ สัญญาณทางเทคนิคของ JAS นั้นก็ดูดี ในระยะสั้นราคาน่า จะเหวี่ยงตัวขึ้นมาได้ถึง 0.55 บาท ตาม story ที่เข้ามา Support และ Volume เริ่มกลับเข้ามาคึกคักอีกครั้ง แนะนำ ?ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น? สำหรับ JAS โดยมองจุดซื้อบริเวณ 0.50 บาท และ short term target ที่ 0.55 บาท
******** ผสมกันไปมาก็มันส์ดี แต่มันช้าจริงๆตัวนี้ เก็บมานานยังไม่ไปไหนเรย 555 |