May 5, 2024   3:22:49 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ดึงชื่อเจริญปั่นหุ้น พัวพันACL-MATCH
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 31/08/2006 @ 08:47:47
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

นักลงทุนหมดสตอรี่เล่น ดึงเจ้าสัวเจริญปั่นหุ้นแทน เผยมีชื่อเข้าไปพัวพันหลายบริษัททั้ง ACL MATCH เก็งข่าวซื้อกิจการ-ร่วมทุน ดันหุ้นวิ่งกระฉูดก่อนดีลชัดเจน ด้านเจ้าสัวยันยังหวัง THBEV กลับมาจดทะเบียนในไทย รอทางการไฟเขียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีหุ้นหลายตัวในตลาดหลักทรัพย์ที่มีกระแสข่าวพัวพันกับนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการกลุ่มบริษัททีซีซี กรุ๊ป เจ้าของธุรกิจเบียร์ช้าง โดยส่วนใหญ่ระบุว่านายเจริญจะเข้ามาซื้อกิจการหรือเป็นพันธมิตรร่วมทุน ส่งผลให้ราคาหุ้นเหล่านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ทั้งที่ยังไม่มีความชัดเจนว่ากระแสข่าวดังกล่าวมีความจริงมากน้อยเพียงใด

โดยหุ้นที่ถูกนำเข้าไปพัวพันกับนายเจริญในขณะนี้ประกอบด้วยบริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอจำกัด(มหาชน)หรือ MATCH และธนาคารสินเอเซีย จำกัด(มหาชน)หรือ ACL โดยในส่วนของแมทชิ่งนั้นแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระบุว่ากลุ่มของนายเจริญได้เข้ามาเจรจากับบริษัทเพื่อเข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมทุนจริง แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน

โดยเบื้องต้นมองว่าหากกลุ่มนายเจริญจะเข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัท อาจจะเข้ามาในรูปแบบของพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่าเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท เพราะปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแคปเพียง 200-300 ล้านบาทเท่านั้น อย่างไรก็ดีบริษัทก็ได้เจรจากับพันธมิตรรายอื่นเช่นกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป

ปัจจุบันกลุ่มนายเจริญ ทำอีเวนท์มีเดีย และสื่อต่างๆจำนวนมาก ซึ่งหากตกลงกันได้บริษัทก็จะรับงานบางส่วนจากกลุ่มดังกล่าว ซึ่งโปรดักชั่นของบริษัทกับกลุ่มนายเจริญตรงกันดังนั้นเชื่อว่าจะส่งผลให้บริษัทมีความแข็งแรงมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทก็สามารถเอื้อประโยชน์ให้กับพันธมิตรได้เหมือนกันแหล่งข่าว กล่าว

ขณะที่ธนาคารสินเอเซีย มีกระแสข่าวว่ากลุ่มของนายเจริญจะเข้าไปซื้อหุ้นของแบงก์ในส่วนที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)หรือ BBL ถืออยู่ประมาณ 19% เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจแบงก์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่นายเจริญยังไม่มีและสนใจจะทำ ขณะที่แบงก์กรุงเทพก็ต้องขายหุ้นที่ถืออยู่ออกมาตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่ไม่อนุญาตให้แบงก์ถือหุ้นในแบงก์ด้วยกัน อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ภายหลังที่มีกระแสข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นทั้งสองตัวปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดย ACL เริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่าน จากระดับ 3.62 บาท ล่าสุดปิดที่ 4.94 บาท และราคาหุ้นเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 5.05 บาท ขณะที่ MATCH ราคาหุ้นเริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.เช่นกัน จากระดับ 1.43 บาท ล่าสุดอยู่ที่ 1.91 บาท

ด้านนายเจริญ กล่าวว่า ยังอยากให้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน)หรือTHBEV กลับมาจดทะเบียนในประเทศไทย เนื่องจากเป็นบริษัทของคนไทย ซึ่งหากทางการเปิดโอกาสให้กลับมาเมื่อไหร่ ไทยเบฟฯก็จะกลับมาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยมากว่ามีความแข็งแกร่งแม้ว่าล่าสุดแบงก์ชาติจะออกมาส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของไทยเริ่มชะลอตัวแล้วก็ตาม และโดยส่วนตัวก็ยังมีแผนลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหน แต่หากจะลงทุนก็ควรเป็นธุรกิจที่มีความชำนาญและมีความเข้าใจ

ส่วนปัญหาการเมืองในขณะนี้มองว่าอยู่ที่ทุกฝ่ายว่าจะช่วยกันมากน้อยเพียงใด หากทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันก็เชื่อว่าปัญหาจะคลี่คลาย และถ้าทุกคนคิดว่าหากประเทศเสียหายทุกคนก็จะเสียหายด้วยก็คงไม่มีอะไรร้ายแรง

นายเจริญ กล่าวถึงแนวโน้มของธุรกิจประกันด้วยว่า เป็นธุรกิจที่ยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง เพราะคนเริ่มเข้าใจและให้ความเชื่อถือมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันธุรกิจประกันมีระบบบริหาร มีการบริการที่รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการต้องก็ต้องพัฒนาตัวเองให้มีความเป็นสากลมากขึ้น รองรับการแข่งขันจากต่างชาติที่เริ่มเข้ามา

สำหรับธุรกิจประกันในกลุ่มทีซีซีปัจจุบันมีอยู่หลายแห่ง แต่ขณะนี้ไม่มีนโยบายที่จะนำมาควบรวมกิจการกัน เนื่องจากไม่มีความจำเป็น เพราะแต่ละแห่งมีผู้บริหารโดยเฉพาะ และไม่มีอำนาจของผู้ถือหุ้นเข้ามากดดันให้ต้องควบรวมกันเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ ยอมรับว่าในส่วนของบริษัทไทยเจริญประกันภัยล่าสุดทางกลุ่มได้ตัดสินใจขายให้กับซิกน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ด้วยมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ขายให้เป็นเพราะทางกลุ่มซิกน่าติดต่อเข้ามาและบอกว่าอยากทำธุรกิจประกันในไทย เลยตัดสินใจแบ่งให้เขาเอาไปทำบ้าง

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:52542463a3">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com