April 27, 2024   6:59:46 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระแสเงินในโลกกำลังเปลี่ยนไป
 

Curious_boy
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 2
วันที่: 11/09/2005 @ 21:16:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สำหรับผม เฮอริเคน Katrina ไม่ใช่ตัวละครหลักที่จะเป็นตัวผลิกผันเศรษฐกิจของสหรัฐ
แต่ว่าเศรษฐกิจของอเมริกาเองมันถึงจุดที่ควรจะล้มได้มานานแล้ว การที่พยายามประคองตัวให้รอดพ้น
วิกฤติมาได้หลายต่อหลายครั้งของรัฐบาลบุชและอลัน กรีนสแปน ก็เป็นเพียงการยืดเวลาออกไปเท่านั้น
ตัวเลขความเสียหายที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้ประเมินกันไว้คือประมาณ 20,000 - 30,000 ล้านเหรียญ
ซึ่งก็ยังมีนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองโลกในแง่ดีว่าท้องฟ้าจะกลับมาสดใสภายในปีหน้า

แต่ในมุมมองของผม บุชเหมือนโดนบีบให้ขึ้นหลังเสือไปแล้ว ยากที่จะลงแล้วครับ แม้จะรู้ว่ากำลังวิ่งลงเหวก็ตาม
งบทางการทหารที่อัดเข้าไปใช้ในสงครามอิรัก, ตัวเลขขาดดุลที่สะสมมาเป็นเวลานาน หรือฟองสบู่ภาคอสังหาที่เหมือนจะระเบิดแต่ก็
ไม่ระเบิด เพราะรอปัจจัยอื่นมากระตุ้น สุดท้ายมันก็จะแสดงผลของมันออกมาในที่สุด นโยบายของกรีนสแปนที่คอยเป็น
ตัวชี้นำอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก ก็เริ่มจะหมดความขลังไป
ประเทศอื่นเริ่มมีทีท่าแสดงจุดยืนของตัวเอง แทนที่จะคอยทะยอยปรับขึ้นหรือลงตามสหรัฐเหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย จากที่เคยมีแต่คนห่วงว่า spread ดอกเบี้ยจะต่ำกว่าสหรัฐทำให้เงินไหลออก แต่ตอนนี้
มีแต่คนเริ่มรับรู้กันแล้วว่าอัตราดอกเบี้ยบ้านเราจะเริ่มมีทิศทางของตัวเอง แซงหน้าพญาอินทรี เพียงแต่เมื่อไหร่เท่านั้น
ธนาคารกลางสหรัฐเองก็ได้แต่ทำให้ดีที่สุดคือการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ดูท่าทีเท่านั้น เพราะไม่รู้ว่ามรสุมจะตามมาอีกกี่ลูก
ตอนนี้ก็หวาดๆเฮอริเคนตัวใหม่ Ophelia กันว่าจะเข้ามาปะทะฝั่งแคโรไลน่าเมื่อไหร่ ซึ่งไม่เกินอาทิตย์นี้คงได้รู้กัน

ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทำให้กระแสเงินในโลกเปลี่ยนไป คนมีเงินไม่เลือกทุ่มเงินเข้าไปลงทุนในอเมริกาเฉกเช่นเหมือนก่อน
กลับจะมีแต่เงินไหลออก บริษัทยักษ์ใหญ่อเมริกาหลายรายก็มีแต่คอยจะตกเป็นเป้าการเข้าฮุบจากบ.ข้ามชาติทั้งหลาย
โดยเฉพาะจากเอเชีย หลายคนมุ่งเน้นไปที่จีนกัน ซึ่งผมจะไม่ขอพูดถึงมากนัก เพราะเชื่อว่าในห้องนี้ได้พูดคุยกันเยอะแล้ว
ผมกลับเบนเข็มมองไปที่ประเทศหนึ่งซึ่งในสายตาผมกำลังจะกลับมาเป็นแชมป์ทวงบัลลังก์ แต่หลายคนมองว่าเป็นคนแก่อมโรค
ซึ่งจะเป็นประเทศใด เดี๋ยวผมจะกลับมาคุยด้วยใหม่ครับ ขอเชิญทุกท่านร่วมแลกเปลี่ยนทรรศนะคติกันครับ ไม่ได้คุยกันนาน คิดถึงครับ

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 11/09/2005 @ 22:24:02 : re: กระแสเงินในโลกกำลังเปลี่ยนไป
ตอนนี้ทางยุโรปกำลังกลัวว่าเศรษฐกิจเอเชียกำลังจะเจริญเติบโตแบบข้ามหน้าข้ามตาทางยุโรป ตอนนี้เค้าเริ่มที่จะกระตุ้นกันบ้างแล้ว
ส่วนอเมริกาเอง ไม่ใช่ว่าไม่กลัวนะ ดูได้จากมาตรการกีดกันการค้าที่ออกมา เห็นได้ชัดเลยแหละ อยากจะให้คนอื่นเดินตาม แต่ก็กลัวที่คนอื่นจะเดินแซง หุหุหุ
 กลับขึ้นบน
Curious_boy
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 2
#2 วันที่: 12/09/2005 @ 20:52:10 : re: กระแสเงินในโลกกำลังเปลี่ยนไป
สำหรับความเห็นของผมนั้น ให้น้ำหนักไปที่จีนและญี่ปุ่นเป็นหลักครับที่เม็ดเงินจากฝั่งตะวันตกจะไหลเข้ามา
สำหรับจีนนั้นหลายๆท่านก็คงได้ยินมามากแล้วว่าจะมีแนวโน้มที่จะเป็นมหาอำนาจเข้ามาแทนที่สหรัฐได้ในอนาคต
ผมจึงจะขอไม่พูดถึงมาก แต่ไม่เถียงครับว่าจีนเป็นดาวเด่นแห่งเอเชียที่ต่างชาติกำลังจ้องจะขนเงินเข้ามากัน

แต่สำหรับญี่ปุ่นนั้น การที่ตกอยู่ภายใต้กับดักเงินฝืดมายาวนานนับทศวรรษ
นักวิเคราะห์หลายคนจึงพากันเบือนหน้านี้และไม่คิดว่าญี่ปุ่นจะได้โงหัวภายในระยะเวลาอันใกล้นี้
หรือไม่ก็รอให้มีสัญญาณหลายๆอย่างที่แสดงออกมาดีก่อน จึงคิดว่าค่อยเข้าไปสนใจก็ยังทัน
จะเห็นได้ว่าการที่ญี่ปุ่นเคยตกอยู่ในภาวะผู้แพ้สงคราม จึงมีการปลูกฝังให้ประชาชนช่วยกันตั้งหน้าตั้งตาทำงานหามรุ่งหามค่ำ
จนทำให้คนญี่ปุ่นพากันเก็บออมโดยไม่นำเงินออกมาใช้จ่าย มาลงทุนกันมากเท่าที่ควรนัก
การลดอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็ทำได้ช้าเกินไป ตอนนี้ถึงอัตราดอกเบี้ยเริ่มติดดินแค่ไหน
ก็ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ผมเชื่อว่าสามารถกระตุ้นได้จริง
เพียงแต่ต้องใช้เวลานานเพราะต้องรอให้เป็นยุคผลัดใบ หรือเปลี่ยน generation จะรอให้คนรุ่นเก่าๆที่เคยอยู่ในยุคแพ้สงคราม
หันกลับมาขนเงินไปลงทุนแบบ aggressive ทันทีนั้นคงเป็นไปไม่ได้

ถ้าไม่มีผู้นำก็ไม่มีผู้ตาม เริ่มต้นอาจจะมีกิจการที่เจ้าของเงินพร้อม ใจถึง แบ๊คหนาไม่กี่รายสยายปีกออกนอกประเทศ
แต่เมื่อทำและประสบความสำเร็จแล้ว ย่อมมีผู้กล้าเดินตามรอยเท้า ในช่วง 1-2 ปีนี้ จึงไม่แปลกที่เริ่มเห็นกระแสกิจการญี่ปุ่นเข้าไปเทคโอเวอร์กิจการต่างชาติใหญ่ๆโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกามากขึ้น
อีกทั้งบริษัทที่มีการลงทุนในที่ต่างๆก็เริ่มมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการลงทุนเข้าไปอีก
ส่วนด้านเทคโนโลยีและบุคลากรนั้น ญี่ปุ่นก็ตระหนักดีว่าตัวเองนั้นมีความพร้อมไม่เป็นรองใครในโลก
การที่จะเข้าไปครอบงำหรือร่วมทุนกับใคร จึงมักไม่มีอุปสรรคในการเจรจา
ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวก็ประเทศเราเองนี่แหละครับ ที่เจรจาเรื่อง FTA กันมานมนานกับญี่ปุ่น
ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าเราโดนโขกเอาๆ แต่จะปฎิเสธเสียงแข็งก็ทำได้ไม่ดังนัก เพราะเราก็รู้อยู่แก่ใจว่า
ถ้าเราจะโตกว่านี้ เรายังต้องพึ่ง know how เค้าในบางด้าน (จริงๆก็หลายด้านอยู่)

จากนี้ไป สิ่งที่ผมคาดไว้ก็คือเราจะได้เห็นกลยุทธ์เชิงรุกของญี่ปุ่นมากขึ้น ซึ่งจะแสดงถึงความพร้อมที่จะฟื้นไข้
เนื่องจากพฤติกรรมของคนญี่ปุ่นเริ่มเปลี่ยนไป ความ conservative เริ่มน้อยลง
แต่ฟื้นไข้แล้วจะลุกขึ้นวิ่งอย่างแข็งแรงได้หรือเปล่านั้นก็ต้องดูนโยบายภายใต้การบริหารของนายกฯ โคอิซูมิ ทีเพิ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งต่ออีกสมัย
ซึ่งผมก็มีความเชื่อว่าจะทำให้เกิดความไหลลื่นทางด้านนโยบาย อันจะเป็นผลดีกับประเทศญี่ปุ่น
เมื่อคืนตัวเลขดุลบัญชีสะพัดของญี่ปุ่นก็เพิ่งประกาศเองครับว่าเกินดุลมาถึง 15,000 US$
และต่างชาติก็ยังขนเงินเข้าตลาดหุ้น Nikkei ทำให้เกิด new high record อย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณที่ดีว่าต่างชาติก็ให้ความสำคัญกับญี่ปุ่นไม่น้อยหน้าจีนเลยทีเดียว

สรุปว่าในอนาคต ที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างมองว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวขึ้นต่อเนื่องถึง 2010 เป็นอย่างต่ำ และญี่ปุ่นจะขยายตัวลงจนมีขนาดไม่ถึง 10% ของเอเชีย
ผมกลับมองแย้งกันว่าญี่ปุ่นจะโตแรงขึ้นมาให้จีนได้ผวาจากปัจจัยหลักคือพฤติกรรมผู้บริโภคและพฤติกรรมการลงทุนที่เปลี่ยนไปโดยมีนโยบายจากภาครัฐเป็นตัวหนุน และยังเชื่ออีกว่า ภายในไม่เกิน 1-2 ปีนี้ เราจะได้เห็นค่าเงินเยนในระดับที่ต่ำกว่า 90 เยน/เหรียญสหรัฐครับ
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงมุมมองของผมครับ ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ยีงไม่เกิดขึ้นและต้องเฝ้ามองกันต่อไป ขอเชิญทุกท่านรวมแลกเปลี่ยนทรรศนะคติกันครับ
 กลับขึ้นบน
innocent
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 729
#3 วันที่: 15/09/2005 @ 08:10:03 : re: กระแสเงินในโลกกำลังเปลี่ยนไป
[b:4581adac5d">เล่นหุ้น หรือเล่นเงิน...ก็ได้

อย่างคุณบอย...ได้กำไรทั้งนั้นค่ะ.. .0005

อิอิ .. คิดถึงค่ะ ไม่ได้คุยกันนาน...[/color:4581adac5d">[/b:4581adac5d">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com