|
| |
|
??????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 |  วันที่: 11/09/2006 @ 21:16:27 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ภาพรวมยังไม่สดใสแต่ยังมีหุ้นให้เล่น
4 โบรกฯดัง แนะแบงก์-รับเหมาฯ-โรงพยาบาล-หุ้นเทิร์นอะราวด์[/color:bf019d8a10">[/size:bf019d8a10">
4 โบรกเกอร์ดัง เอเซียพลัส-บัวหลวง-ฟินันซ่า-ธนชาต
ยังเชื่อมันปีนี้ตลาดหุ้นไทยแกร่ง จะสามารถยืนเหนือ 700 จุดได้
ให้กรอบไว้ที่ 730-800 จุด แม้มีปัจจัยรุมเร้าตลอดเวลาทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ
แต่ก็ยังลุ้นหุ้นน่าซื้อทั้งเพื่อลงทุนและเก็งกำไร โฟกัสไปที่ กลุ่มแบงก์ใหญ่ รับเหมาก่อสร้าง โรงพยาบาล และหุ้นเทิร์นอะราวด์ [/color:bf019d8a10">
-ระเบิดเวลาลูกใหม่ของตลาด สอบ.
เตรียมฟ้องศาลปกครองถอนรัฐวิสาหกิจอื่นๆ อาทิ AOT-THAI -MCOT[/size:bf019d8a10">
นายชาญศักดิ์ เตชะอมรธนกิจ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า
หลังจากที่ บมจ.ปตท. (PTT) โดนสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค (สอบ.)
ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดให้เพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ และมีแนวโน้มที่จะฟ้องรัฐวิสาหกิจอื่นๆ
ทั้ง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ.การบินไทย (THAI) และ บมจ.อสมท (MCOT) ต่อจาก PTT ด้วยนั้น
เชื่อว่าจะส่งผลให้นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ รวมถึงกองทุนขนาดใหญ่ลดความเสี่ยงการลงทุนลง
ทำให้หุ้นกลุ่มรัฐวิสาหกิจมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง [/color:bf019d8a10">
กรณีของ PTT และมีแนวโน้มที่จะฟ้องรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ด้วยนั้น น่าจะทำให้ตลาดฯกลับมาเป็นขาลงอีกครั้ง
จากเดิมที่คาดว่าดัชนีฯระดับ 700 จุดจะยืนได้นั้น พอเกิดประเด็นดังกล่าวดัชนีฯอาจปรับลดลงมาถึงบริเวณ 665 จุดได้
นายชาญศักดิ์ กล่าว [/color:bf019d8a10">
|
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #1 วันที่: 11/09/2006 @ 21:21:44 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... -ASP หวั่นหุ้นทรุดปลาย ก.ย. จาก 2 ไอพีโอใหญ่จีนพ่นพิษ
ขนเงินไปจองหุ้นยักษ์ แต่มั่นใจดัชนีสิ้นปีอยู่ที่ 770 จุด[/size:ece271ed2d">
นางสาววชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปะชัย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส ASPเปิดเผยว่า
นับจากนี้ไปจนถึงปลายปี ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากที่สุด
คือปัจจัยนอกประเทศมากกว่าปัจจัยภายในที่เริ่มคลี่คลายลงแล้ว
ทั้งนี้ ต้องจับตาการเคลื่อนย้ายของเงินทุน โดยเฉพาะในช่วงปลาย ก.ย.-ต้นเดือน ต.ค.
ประเทศจีนจะมีการนำ IPO ของธนาคารขนาดใหญ่ 2 แห่งคือ เมอแชนต์แบงก์ และ ICBC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
โดยเฉพาะ ICBC ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศ
มีขนาดสินทรัพย์ถึง 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.6 แสนล้านบาท
ซึ่งอาจจะทำให้ต่างชาติถอนเงินออกจากตลาดหุ้นไทยรวมถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเพื่อนำเงินไปจองหุ้นดังกล่าว
จึงคาดว่าจะเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นภูมิภาคปรับตังลงอีก
เห็นได้จากเดือน พ.ค.ที่จีนนำไอพีโอ Bank of Chaina เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง[/color:ece271ed2d">
?ไอพีโอขนาดใหญ่ 2 แบงก์จะมาแย่งเม็ดเงินต่างชาติไป
เห็นได้จากช่วง พ.ค.ที่ตลาดหุ้นร่วงเพราะมีไอพีโอแบงก์ออฟไชน่า ซึ่งมียอดจองเกินมาถึง 33 เท่า
และตอนนั้นเงินที่ไหลออกไม่ใช่เพราะจองหุ้นเบียร์ช้างในสิงคโปร์ เพราะสินทรัพย์เล็กกว่า ?
นางสาววชิราลักษณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าปีนี้ดัชนีตลาดจะอยู่ที่ 770 จุด และมีแนวรับที่ 675 จุด
แม้จะยังต้องเผชิญปัจจัยลบจากต่างประเทศดังที่กล่าวมาข้างต้น
แต่ในช่วงเดือน ต.ค.ของทุกปีจะมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งจะช่วยพยุงตลาดไม่ให้ปรับลดลงมาก
โดยจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า หลังวันที่ 16 ต.ค.ของทุกปี กระแสเงินทุนไหลจะไหลเข้ามาในไทย และส่วนหนึ่งจะลงในตลาดหุ้น[/color:ece271ed2d"> |
| | กลับขึ้นบน |
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป | #2 วันที่: 11/09/2006 @ 21:27:44 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... -ระเบิดเวลาลูกใหม่ของตลาด สอบ.
เตรียมฟ้องศาลปกครองถอนรัฐวิสาหกิจอื่นๆ อาทิ AOT-THAI -MCOT
สงสารเธอ ประเทศไทย |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #3 วันที่: 11/09/2006 @ 21:28:31 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... -ASP แนะเล่นหุ้น อสังหาฯ - ปิโตรฯ-การแพทย์-แบงก์ ครึ่งปีหลังโดดเด่นสุด[/size:7e5590fa8f">
นางสาววชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปะชัย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส หรือ ASP เปิดเผยว่า
หุ้นเด็ดในช่วงที่เหลือของปีมี 4 กลุ่มที่น่าสนใจ โดยครึ่งปีหลังจะทำกำไรได้ดีกว่าครึ่งปีแรก
ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปิโตรเคมี การแพทย์ และธนาคาร
โดยครึ่งปีหลังหุ้นแต่ละกลุ่มมีความสามารถในการทำกำไรได้ถึง 60% 54% 52% และ 44% ของทั้งปีตามลำดับ
สำหรับกลุ่มอสังหาฯ บล.เอเซียพลัส พิจารณาจาก Backlog แนะนำ บมจ.ศุภาลัย (SPALI)
มีแบ็คล็อกถึง 7.5 พันล้านบาท พี/อีต่ำ อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงถึง 8%
บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) แบ็คล็อก 3.1 พันล้านบาท พี/อี 4 เท่า อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงถึง 7%
และ บมจ.ปริญสิริ (PRIN)แบ็คล็อก 2.2 พันล้านบาท อัตราผลตอบแทนเงินปันผลประมาณ 9%
กลุ่มปิโตรเคมี แนะนำ บมจ.อะโรเมติกส์ (ATC) ที่ยังมีความสามารถในการทำไรระยะยาว
คาดไตรมาส 3 บริษัทจะมีกำไรสุทธิประมาณ 3 พันล้านบาท
ส่วนกลุ่มการแพทย์ แนะนำ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH)
และบมจ. บางกอก เชน ฮอสปิทอล (KH) ที่แม้ว่าพี/อี สูง แต่โอกาสในการเติบโตยังมีสูงเช่นกัน
ส่วนกลุ่มธนาคาร แนะนำ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY
นอกจากนี้หุ้นยังมีหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการทำกำไรดี ได้แก่ บมจ.นวนคร (NNCL)
บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) และ บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJANA) [/color:7e5590fa8f">
-BLS แนะลงทุนหุ้นรับเหมาฯ SEAFCO-ITD-STEC
ขณะที่หุ้นโรงแรม MINT-ERAWAN ก็น่าสน[/size:7e5590fa8f">
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (BLS )
กล่าวว่าในช่วงที่เหลือของปี 2549 นี้ประเมินว่าปัจจัยที่ต้องติดตามที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย
คงเป็นเรื่องของหุ้น IPO ของประเทศจีนที่จะเข้ากระจายหุ้นในช่วงปีนี้ซึ่งจะกระทบเม็ดเงินในภูมิภาคเอเชีย
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยของหุ้นกู้สหรัฐที่น่าจะกลับมามีความสนใจ
หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐปรับขึ้นและมีแนวโน้มที่ปรับลดลงส่งผลให้ค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดหุ้น
แต่บริษัทฯยังคงเป้าของดัชนีตลาดหลักทรัพย์จนถึงสิ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 730 จุด
โดยระดับดังกล่าวเป็นการปรับลดลงจากเดิมที่คาดไว้ 780 จุด
ขณะที่แนวรับเชื่อว่าดัชนีตลาดฯไม่น่าที่จะปรับลดลงต่ำกว่า 600 จุด
สำหรับหุ้นที่มีความสนใจลงทุน นายชัยพร กล่าวว่า แบ่งออกเป็นหุ้นในกลุ่มกึ่งน่าลงทุน คือ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC),
บมจ. ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) เนื่องจากมีผลตอบแทนจากปันผลค่อนข้างดีระดับ 6-7 %
นอกจากนี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับลดลง จึงมองว่ากลุ่มที่น่าจะได้รับประโยชน์คือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มโรงแรมมีความน่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากแนวโน้มราคาห้องพักที่ยังสามารถปรับขึ้นได้
หุ้นที่แนะนำ อาทิ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) , บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERAWAN)
ส่วนหุ้นในกลุ่มที่ 2 จะเป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในช่วงรอยต่อของก่อนการเลือกตั้งคือกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
อาทิ บมจ. ซีฟโก้ (SEAFCO) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD),
บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) และหุ้นในกลุ่มโบรกเกอร์
อาทิ บริษัท หลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) (ASL)[/color:7e5590fa8f"> |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #4 วันที่: 11/09/2006 @ 21:34:50 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... -บล.ฟินันซ่า เชื่อสิ้นปีเห็นดัชนีที่ 780-800 จุด
เชื่อ Q4 กลุ่มธนาคารขึ้นมาเป็นตัวนำตลาดแทนกลุ่มพลังงานที่จะซึมลง[/size:f726a09752">
นางสาวรัชนก ด่านดำรงรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์ บล.ฟินันซ่า เปิดเผยว่า
ปัจจัยภายนอกประเทศเริ่มคลี่คลายลง ทั้งราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยนเริ่มทรงตัว
และไทยสามารถปรับตัวได้ในระดับหนึ่ง ในขณะที่ปัจจัยในประเทศเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ
หลังจากมี กกต.ชุดใหม่ และมีการกำหนดวันเลือกตั้ง การเมืองไทยจึงน่าจะได้เห็นรัฐบาลผสม
จะทำให้การเมืองโปร่งใสมากขึ้น เพราะจะสามารถตรวจสอบการทำงานได้
ในขณะที่ปัจจัยแทรกซ้อนอย่าง บมจ.ปตท. (PTT)ที่ถูกฟ้องร้องให้ถอนออกจากตลาด
น่าจะส่งผลดีต่อนักลงทุนที่ถือหุ้น PTT เพราะในกรณีที่ถูกเพิกถอนจริง กระทรวงการคลังต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ในราคาสูง
ทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้ขายหุ้นในราคาที่ดี และยังเป็นจังหวะที่จะเข้าลงทุน
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้น PTT เพราะราคาเริ่มอ่อนตัวลงแล้ว [/color:f726a09752">
บริษัทจึงเชื่อว่า สิ้นปีนี้จะเห็นดัชนีที่ 780-800 จุด
และเชื่อว่าไตรมาส 4 กลุ่มธนาคารจะขึ้นมาเป็นตัวนำตลาดแทนกลุ่มพลังงานที่อาจจะซึมลง หลังจากราคาน้ำมันเริ่มลด[/color:f726a09752">
-บล.ฟินันซ่า เปิดโผหุ้นเด็ด BBL-SCIB เด่นสุดกลุ่มแบงก์
ส่วน TPI มีหวังฟื้นตัวเร็วนี้ ขณะที่ TRUE-SYRUS -MLINK ยังน่าลงทุน[/size:f726a09752">
นางสาวรัชนก ด่านดำรงรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์ บล.ฟินันซ่า เปิดเผยว่า
บริษัทฯแนะนำหุ้น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL
ซึ่งราคายังถูกเมื่อเทียบกับหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ด้วยกัน ราคาเป้าหมาย 120-130 บาท
และหุ้นธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ SCIB ราคาเป้าหมาย 22 บาท
เพราะในที่สุดแล้ว SCIB จะต้องมีพันธมิตรเข้ามาช่วยเพิ่มโนฮาว
นอกจากนี้ ยังมีหุ้นที่ราคามีโอกาสฟื้นตัว ได้แก่ บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย(TPI) ราคาเป้าหมาย 8.70 บาท
และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)ราคาเป้าหมาย 8.35 บาท และกรณีดีที่สุด 17.20 บาท
[/color:f726a09752">
ส่วนหุ้นตัวเล็กแต่มีทีเด็ด ได้แก่ บล.ไซรัส (SYRUS)
มีเงินสดในมือกว่า 700 ล้านบาท หนี้สินน้อยกว่าเงินสดที่มีอยู่ ราคาเป้าหมาย 4.37 บาท
บมจ.เอ็มลิงค์เอเชียคอร์ปอเรชั่น (MLINK) ที่น่าจะพลิกจากขาดทุนเป็นกำไรได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
หลังได้รับงานใหญ่ชิ้นล่าสุด เป้าหมาย 3.68 บาท[/color:f726a09752"> |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #5 วันที่: 11/09/2006 @ 21:40:10 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... - บล.ธนชาต มองเป้าดัชนีปีนี้อยู่ที่ 730-740 จุด
แนะเก็บหุ้น PTTEP-SCC-TPI-BBL-KBANK-SCB-KTB ชี้พื้นฐานแจ่ม[/size:b0c88c57b4">
นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต เปิดเผยว่า
ในปี 2549 ตั้งเป้าดัชนีฯ ไว้ที่ 730 -740 จุด
โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากหุ้นของบริษัทฯ ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT
ที่ถูกสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค (สอบ.)ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) 2 ฉบับ
ที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปของ ปตท. ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน
และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในการลงทุนอีกด้วยเนื่องจาก PTT มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่และมีอิทธิพลต่อดัชนีฯ
?PTT ตัวเดียวมีผลกระทบต่อ SET Index ถึง 2%
และถ้าไม่ต้องการให้ดัชนี ปรับลดลงเราต้องเปลี่ยนมาเล่นหุ้นในกลุ่มที่ช่วยพยุงตลาดหรือมีมาร์เก็ตแคปรวมๆกันได้เท่ากับ ปตท.
คือมาเล่นหุ้นปูนใหญ่แบงก์ใหญ่ เพื่ออุ้มดัชนีฯไว้และเรื่องของ ปตท.น่าจะยังไม่จบจนถึงสิ้นปี ?
ส่วนหุ้นที่แนะนำให้ลงทุนประกอบด้วยหุ้นของ PTTEP-SCC-TPI-BBL-KBANK-SCB-KTB
เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะหุ้น TPI หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.)ได้ปลดเครื่องหมาย NC เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อ TPI ในอนาคต ขณะเดียวกัน TPI ยังประกอบธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจปิโตรเคมีซึ่งถือได้ว่าค่อนข้างที่จะครบวงจร
ดังนั้นจึงเป็นจังหวะที่นักลงทุนจะเข้าไปลงทุนในหุ้นดังกล่าวเพื่อผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามและน่าจะมีผลกระทบต่อภาวะตลาดฯ
ประกอบด้วยการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)เกี่ยวกับเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 20 กันยายนนี้
ถ้าเฟดส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งอาจจะส่งผลให้นักลงทุนกังวลได้
รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดและดัชนีตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ
ที่ในระยะนี้ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างที่จะเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นต่างประเทศ
นอกจากนี้ปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังไม่นิ่งก็เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ต้องติดตาม เนื่องจากเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะตลาดฯ
? ปัจจัยภายนอกที่เราต้องติดตามก็จะมีดอกเบี้ยเฟด น้ำมันหุ้นนอก ส่วนในประเทศก็มีการเมืองที่ยังไม่นิ่ง
และก็มีกรณี ปตท. ที่น่าจะยาวไปถึงปลายปีและ SET ก็ผูกติดกับ ปตท.ถึง 13%ครึ่ง แต่ก็คงไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ ลูก
เพราะว่าแม่กับลูกมันเป็นคนละส่วนซึ่งตัวลูกก็ยังเล่นได้ ? นายแสงธรรม กล่าวในที่สุด[/color:b0c88c57b4"> |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #6 วันที่: 11/09/2006 @ 21:46:08 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... นวค. broke ไหน แนะนำกันอย่างไร ก็ลองๆ เก็บข้อมูลกันดูนะคะ ว่าใครแน่หรือไม่ แค่ไหน [/color:3baa881351">[/size:3baa881351">
เผื่อจะได้หาทางหนีทีไล่กันได้ทันน่ะ .0008 .0008 .0008 [/color:3baa881351">[/size:3baa881351"> |
| | กลับขึ้นบน |
lop
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 47 | #7 วันที่: 11/09/2006 @ 22:10:02 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... ตลาดแย่จริงๆๆ เมื่อไรจะสดใสนะ พี่จันวันนี้เข้าเอ็มไม่ได้อ่ะครับ |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #8 วันที่: 11/09/2006 @ 23:04:21 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... ช่วงนี้ เน็ตไม่ค่อยดีเลยค่ะ เน๊อะๆๆ ... .000c .000c .000c [/color:87923f1a20">[/size:87923f1a20"> |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #9 วันที่: 11/09/2006 @ 23:17:41 : Re: re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... [quote:017d5cd4b4=บุคคลทั่วไป">-ระเบิดเวลาลูกใหม่ของตลาด สอบ.
เตรียมฟ้องศาลปกครองถอนรัฐวิสาหกิจอื่นๆ อาทิ AOT-THAI -MCOT
สงสารเธอ ประเทศไทย[/quote:017d5cd4b4">
ถ้าถอน THAI ออก โดยการรับซื้อหุ้นคืนที่ ราคา IPO ( 60 บาท )
รายย่อย คงจะดีใจ มีเฮ แน่ๆ คิก คิก... ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3[/color:017d5cd4b4">[/size:017d5cd4b4"> |
| | กลับขึ้นบน |
P_aud
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531 | #10 วันที่: 12/09/2006 @ 11:18:44 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... .0005 ขอบคุณค่ะ คุณจันทรา.....
เนตดีค่ะ แต่คอมไม่ดีเลย ....[/color:b7587f1068">[/size:b7587f1068"> |
| | กลับขึ้นบน |
| |
