หุ้นไทยบ่ายนี้ยังสดใส มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
หลังนลท. คลายกังวลปัจจัยการเมือง - แรงซื้อหุ้นพลังงานฟื้น

โบรกเกอร์ เห็นพ้องบ่ายนี้หุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวต่อเนื่องจากช่วงเช้า
เหตุ นลท. คลายความกังวลการเมือง ผสมโรงหุ้นพลังงาน-แบงก์บวกนำ
แต่แนะ นลท. ระวังแรงขายทำกำไร ให้กรอบแนวรับแนวต้านไว้ที่ 695 -710 จุด

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เกียรตินาคิน เปิดเผยว่า
แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์บ่ายนี้ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวรับแนวต้านที่ 695 -710 จุด
ซึ่งในระยะนี้ดัชนีฯ มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อจากช่วงเช้า
เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี

ประกอบกับหุ้นในกลุ่มพลังงานยังคงมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มส่งสัญญาณที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
โดยราคามันดิบในตลาดไนเม็กซ์ปรับเพิ่มขึ้น 21 เซนต์ อยู่ที่ระดับ 63.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนดัชนีฯ ตลาดหลักทรัพย์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ ด้วยการนำของหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์
อีกทั้งยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น
ในขณะที่กลยุทธ์การลงทุนให้นักลงทุนระมัดระวังแรงขายทำกำไรเพราะ
ราคาหุ้นหลายกลุ่มได้ปรับเพิ่มขึ้นมากแล้ว
โดยให้แนวรับไว้ที่ 695 จุด ให้แนวต้านไว้ที่ 707 จุด ให้แนวต้านถัดไปไว้ที่ 710 จุด

นายอดิพงษ์ ภัทรวิกรม ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า
บ่ายนี้ ดัชนีฯคงยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ บริเวณ 702-708 จุด
และหากทะลุกรอบนี้ไปได้ในตอนบ่าย อาจมีโอกาสทดสอบถึงระดับประมาณ 720 จุด ในเร็วๆนี้
ประเด็นหลักที่มีผลกระทบต่อตลาดฯไทยในช่วงบ่ายยังคงเป็นเรื่องการเมือง
ที่นักลงทุนต้องการทราบถึงตัวบุคคลที่จะมาสืบต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากข่าวลือที่ว่า รักษาการนายกฯทักษิณ ลาออกจริง
ส่วนข่าวการกำหนดวันเลือกตั้งไม่น่าจะมีผลกระทบต่อตลาดฯแล้ว

โดยประเด็นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนคือ การคาดหวังให้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้ เป็นแกน นำหลักของรัฐบาลชุดต่อไป
ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นบวกต่อตลาดฯที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่ามีความเหมาะสมที่สุดในขณะนี้
และอีกทั้งจะทำให้สถานะของรัฐบาลชุดต่อไปมีความเข้มแข็ง
ส่วนทางด้านประเด็นกำหนดวันเลือกตั้งของว่าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คงไม่มีผลกระทบใดต่อตลาดแล้ว
เพราะนักลงทุนต่างรับรู้กันแล้วว่าคงจะมีการเลื่อน ออกไปอย่างแน่นอน
หากวันเลือกตั้งเลื่อนออกไปไม่เกิน เดือน พฤศจิกายน ก็คงไม่มีผลลบอะไรต่อตลาดฯ

ดัชนีฯที่ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกในเช้านี้ ทำให้ในตอนบ่าย อาจมีโอกาสทดสอบถึงระดับประมาณ 702-708 จุด
ซึ่งหากผ่านทะลุที่ 708 จุด อาจมีโอกาสทดสอบถึงระดับประมาณ 720 จุด บวก/ลบ เล็ก น้อย
ส่วนการดีดตัวกลับของ ห้นกลุ่มพลังงานนั้น คิดว่าเป็นการดีดกลับในระยะสั้น
ซึ่งหุ้นกลุ่มที่น่าจับตามองคือกลุ่มพลังงานที่อาจปรับตัวขึ้นอีก
และ คงจะมีแรงเทขายเก็งกำไรในหุ้นตัวที่ราคาขึ้นไปมากแล้วในหลายวันที่ผ่านมาด้วย
และแนวโน้มการเข้าลงทุนหนุนในหุ้นกลุ่มธนาคารปรับเพิ่มขึ้นนันอาจจะมีการย้ายกลุ่มบ้าง
ในหุ้นพื้นฐานดีที่ราคายังไม่ปรับตัวขึ้นมากนักนายอดิพงษ์ กล่าว

ส่วนทางด้านการเคลื่อนไหวของดัชนีฯในช่วงบ่ายนักวิเคราะห์คาดว่ามีแนวรับที่ 702 จุด
และมีโอกาสสูงที่จะทดสอบระดับแนวต้านที่ 708 จุด
โดยล่าสุด ตลาดหุ้นของไทยในช่วงเช้าปิดที่ 705.32 จุด เพิ่มขึ้น 7.13 คิดเป็น 1.02% โดยยังคงบวกต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้

ด้านนายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการ สายงานการตลา บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า
แนวโน้มภาวะตลาดหลักทรัพย์ช่วงบ่าย นักลงทุนน่าจะมีแรงซื้อเพิ่มขึ้น
โดยคาดว่าปริมาณการซื้อขายช่วงบ่ายอาจจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาทหรือมากกว่า
และดัชนีฯจะยืนเหนือระดับ 700 จุดต่อเนื่อง และอาจส่งผลให้วันนี้มูลค่าการซื้ออยู่ที่ระดับ 1.5 หมื่นล้านบาทได้

สำหรับปัจจัยภายในประเทศด้านการเมืองช่วงนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์
ซึ่งต้องจับตามองเรื่องกำหนดการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการและการจัดตั้งรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลผสมหรือไม่

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเล่นหุ้นกลุ่มธนาคาร,กลุ่มFinance เพราะอัตราดอกเบี้ยยังคงที่
และเล่นหุ้นกลุ่มสื่อสาร เพราะการปรับตัวขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ ให้แนวรับไว้ที่ 700 จุด แนวต้าน 708 จุด

สด ไปไม่ไหว .0008