May 3, 2024   4:13:38 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 15/09/2006 @ 09:28:41
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

PTT พุ่งจริง หรือแค่ภาพลวงตา[/color:56d5ed129c">[/size:56d5ed129c">

วงการฯ แนะชาวหุ้นระวังติดกับ
* เตือน ตปท.เริ่มลดน้ำหนักลงทุนเล่นแบงก์-วัสดุฯ[/color:56d5ed129c">[/size:56d5ed129c">

หุ้น PTT เริ่มฟื้นหลังดิ่งเกือบ 11% ในช่วงที่ผ่านมา แต่วงการฯ เตือน
งานนี้นลท.ระวัง อาจติดกับดัก เหตุไม่รู้หุ้นพุ่งจริงหรือว่าแค่ภาพลวงตา
ทั้งที่ยังมีปัจจัยกดดันทั้งคดีถอดถอนที่ศาลปกครอง รวมถึงแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกที่ยังลดลงต่อเนื่อง
อีกทั้งล่าสุดอเมริการะบุ ฤดูเฮอริเคนยังไม่ถึงขั้นรุนแรง จนกระทบโรงกลั่นน้ำมันเมื่อปีที่ผ่านมา
เผย ล่าสุดกองทุนต่างประเทศเริ่มปรับพอร์ต ลงทุนหุ้นแบงก์ วัสดุก่อสร้าง อสังหาฯ แทน
หลังได้รับผลบวกเต็มๆจากราคาน้ำมันลง และอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มนิ่ง[/color:56d5ed129c">

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้ คงไม่มีข่าวอะไรที่จะอยู่ในความสนใจมากเท่ากับ
ข่าวที่ศาลปกครองสูงสุดรับคำฟ้องของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ที่จะให้ถอดถอนหุ้นของบมจ.ปตท. (PTT)
ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา
โดยมูลนิธิฯ ได้ขอศาลปกครองสูงสุดพากษายกเลิกและเพิกถอน
พ.ร.ฎ.กำหนดอำนาจสิทธิและประโยชน์ของบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) พ.ศ.2544
และ พ.ร.ฎ.กำหนดเงื่อนไขเวลาการยกเลิกกฎหมายว่าด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2544
และทันทีที่ข่าวดังกล่าวออกมานั้น ราคาหุ้น PTT ก็ตอบรับทันทีจากระดับราคาปิดเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ซึ่งอยู่ที่ 238 บาท
ลดลงมาอยู่ที่ 226 บาท ในวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งเป็นวันแรกที่ตลาดฯรับข่าวดังกล่าว
และลดลงมาอยู่ที่ 218 บาท ในวันที่ 8 ก.ย. และเหลือ 212 บาทในวันที่ 11 ก.ย.
ถือว่าในช่วง 4 วันหุ้น PTT ลดลงถึง 10.91% ซึ่งการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงดังกล่าวฉุดให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทรุดตาม
เพราะ PTT เป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ มีมูลค่าตลาดรวมหรือมาร์เก็ตแคปมากที่สุด[/color:56d5ed129c">

เพราะฉะนั้นการปรับตัวขึ้นหรือลง จึงกระทบดัชนีฯและภาพรวมของตลาดฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เนื่องจากข่าวดังกล่าวได้บั่นทอนความมั่นใจของนักลงทุนในประเทศ และต่างประเทศอย่างหนัก
เพราะหากไม่มี PTT ในตลาดฯ เท่ากับว่าความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยก็จะหมดไปด้วยเช่นกัน
เพราะหุ้นขนาดใหญ่ ปัจจัยพื้นฐานดีอย่าง PTT มีไม่มากนักในตลาดฯ [/color:56d5ed129c">

อีกทั้งด้วยมาร์เก็ตแคปที่มากถึง 6 แสนล้านบาท ย่อมกระเทือนไปถึงมาร์เก็ตแคปรวมด้วยไม่มากก็น้อย
เพราะฉะนั้นในช่วงการรอคำตัดสินของศาลปกครองฯ
นักลงทุนส่วนใหญ่จึงตัดสินใจเทขายหุ้น PTT และลดน้ำหนักการลงทุนออกมาอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของ PTT เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา
โดยราคาหุ้นปิดทรงตัวจากวันที่ 11 ก.ย. ที่ระดับราคา 212 บาท ก่อนจะปิดเพิ่มขึ้นที 214 บาท เมื่อวันที่ 13 ก.ย.
และปิดเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อวานนี้ (14ก.ย.) ที่ราคา 218 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท มีมูลค่าการซื้อขายถึง 1,713.31 ล้านบาท
และส่งให้ดีชนีฯ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ตลาดสามารถปิดเหนือ 700 จุดได้อีกครั้ง
โดยปิดที่ 701.97 จุด เพิ่มขึ้น 3.78 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 18,298.41 ล้านบาท[/color:56d5ed129c">

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 15/09/2006 @ 09:36:12 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
ทั้งนี้การปรับขึ้นของ PTT รอบนี้คงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดด้วยว่าราคาหุ้นจะยืนอยู่ในแดนบวกได้นานเพียงใด
เพราะหากตั้งข้อสังเกตุกันให้ดีแล้ว จะเห็นได้ว่าการปรับตัวขึ้นในครั้งนี้
ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมากแล้ว จึงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง
ในขณะที่ความกังวลที่จะถูกถอดถอนใช่ว่าจะคลี่คลายลง หรือหายไปทันที [/color:d1bc7b5269">

เพราะตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำตัดสินออกมา
แม้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้ง ผู้บริหารของปตท. ตลาดหลักทรัพย์ รวมไปถึงบรรดาโบรกเกอร์
จะแสดงความเชื่อมั่นว่าหุ้น PTT ไม่น่าจะถูกถอดถอนออกจากตลาดฯ
เพราะเท่ากับจะสร้างความเสียหายมหาศาลให้กับตลาดฯ และอาจรวมไปถึงเศรษฐกิจของประเทศด้วย
แต่ก็ยังไม่ใช่คำพิพากษาสุดท้ายที่ศาลปกครองสูงสุดจะตัดสิน
ดังนั้นในระหว่างนี้จนกว่าจะมีคำพิพากษาออกมา หุ้น PTT ก็ยังน่าจะถูกรุมเร้าและกดดันด้วยปัญหาดังกล่าวต่อไป[/color:d1bc7b5269">

นอกจากนี้หากพิจารณาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เริ่มมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าวานนี้จะปรับตัวขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ / บาร์เรล
โดยล่าสุดนั้นราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange)
ส่งมอบเดือนต.ค. ยืนอยู่ที่ระดับ 63.97 ดอลลาร์/บาร์เรล เท่านั้น หลังจากที่ปรับตัวลดลงทำสถิติต่ำสุดถึง 5 ครั้ง
และยังมีสัญญาณว่าจะปรับลดลงต่ออีก เนื่องจากล่าสุดกระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริการ ระบุว่า
ปริมาณน้ำมันเบนซินสำรองยังคงเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สู่ระดับ 207 ล้านบาร์เรล
และน้ำมันกลั่นสำรอง ซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ทะยานขึ้น 4.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 144.6 ล้านบาร์เรล
ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า อีกทั้งรายงานพยากรณ์อากาศที่มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมัน
ล่าสุดนั้นทางอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ ก็รายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีพายุเฮอริเคนระดับรุนแรง
ซึ่งจะช่วยให้โรงกลั่นน้ำมันดำเนินการได้โดยปราศจากการติดขัด
ในขณะที่แรงกดดันทั้งเรื่องการประท้วงหยุดงานของกลุ่มคนงานบริษัทน้ำมันในไนจีเรีย
และประเด็นนิวเคลียร์ของอิหร่าน ก็ยังไม่น่าจะกดดันให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 70 ดอลลาร์/ บาร์เรลได้ในช่วงนี้[/color:d1bc7b5269">

ดังนั้นราคาหุ้น PTT ที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้ จึงอาจไม่ใช่ของจริงนัก
เมื่อมองจากปัจจัยรอบด้านที่ยังเกื้อหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอยู่
นอกเหนือจากนั้นล่าสุดยังพบว่ากองทุนหรือนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศขณะนี้ต่างก็เริ่มปรับพอร์ต
หรือลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานลงค่อนข้างมากแล้ว
โดยให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ วัสดุก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์บางตัวแทน
เนื่องจากอนาคตนั้นราคาน้ำมันอาจจะไม่กลับมาขึ้นสูงเหมือนเดิมอีก [/color:d1bc7b5269">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 15/09/2006 @ 09:43:49 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
*วงการ เตือนนลท. อย่าชะล่าใจ PTT ขึ้นรอบนี้อาจไม่ใช่ของจริง [/color:ca690cc1b6">[/size:ca690cc1b6">

แหล่งข่าวจากวงการค้าหลักทรัพย์ เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า
การขึ้นของหุ้น PTT ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาอาจไม่ใช่ของจริง หรือเป็นเพียงแค่ภาพลวงตานักลงทุนเท่านั้น
เพราะเชื่อว่าราคาหุ้นอาจจะไม่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอีก
หากพิจารณาจากปัจจัยกดดันทั้งเรื่องการฟ้องร้อง ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
รวมไปถึงแนวโน้มการลดพอร์ตการลงทุนของสถาบันต่างประเทศด้วย
เพราะฉะนั้นจึงอยากให้นักลงทุนระวังการลงทุนหุ้น PTT ในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน
บางคนอาจเห็นว่าราคาหุ้นลดลงมากแล้วรีบเข้ามาเก็บ แต่จริงๆแล้วหุ้น PTT อาจจะมีแรงขายแฝงอยู่
เพราะตราบใดที่ราคาน้ำมันยังคงยืนในระดับ 60-65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนั้น
ก็ถือว่าราคาน้ำมันดิบยังไม่กลับไปสู่ระดับราคาสูงอย่างที่เคยกังวลกัน[/color:ca690cc1b6">

อีกทั้งตอนนี้ตลาดฯก็ยังมีปัจจัยบวกอื่น
ทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่อาจมีแนวโน้มทรงตัวไปถึงไตรมาสที่ 4 ต่อถึงไตรมาสแรกปี 2550 ด้วย
และเมื่อผสมกับปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันลงแล้ว ก็น่าจะทำให้หุ้นที่อิงกับเรื่องดอกเบี้ย- ราคาน้ำมันลง
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแบงก์ ที่หากดอกเบี้ยไม่ขึ้นอีก ต้นทุนของพวกเขาก็น่าจะคงที่
หุ้นอสังหาริมทรัพย์ ที่จะได้รับผลดีโดยตรงเพราะภาระต้นทุนของผู้ซื้อบ้านและผู้ประกอบการลดลง
รวมไปถึงกลุ่มวัสดุก่อสร้างก็จะได้รับผลดีจากต้นทุนดังกล่าวที่ลดลงด้วยเช่นกัน จึงทำให้นักลงทุนหันมาสนใจหุ้นกล่มเหล่านี้แทน
อีกทั้งราคาหุ้นก็ไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับหุ้นพลังงาน
เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้าจากนี้ไปหุ้นแบงก์-วัสดุก่อสร้าง-อสังหาฯ จะกลับมาเป็นหุ้นยอดนิยมอีกครั้ง[/color:ca690cc1b6">

ตอนนี้หุ้นพลังงานไม่ใช่หุ้นแม่เหล็กเหมือนก่อน หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
และหากไม่มีปัจจัยลบมากระทบเชื่อว่าอย่างน้อยจนหมดไตรมาส 3 ต่อไตรมาส 4 ราคาน้ำมันก็ไม่น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก
เพราะฉะนั้นจึงอยากเตือนนักลงทุนรายย่อยด้วยว่าหากลงทุนในหุ้นน้ำมัน โดยเฉพาะปตท. จะต้องระวังไว้ก่อน
การเด้งขึ้นมาเพียงแค่ 1-2 วันไม่ใช่จะแสดงว่าราคราจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นแล้ว
เพราะการกลับมาซื้ออีกครั้งของต่างชาติอาจเพียงแค่เข้ามาเก็บหุ้นตามสัดส่วนการลงทุนเท่านั้นหลังจากราคาลงไปมาก
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากเหมือนก่อน แหล่งข่าว กล่าว [/color:ca690cc1b6">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 15/09/2006 @ 09:51:33 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
* ราคา PTT ยังผันผวนตามราคาน้ำมันตลาดโลก[/color:1c370b3b85">[/size:1c370b3b85">

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวถึงกรณีราคาหุ้น บมจ.ปตท. (PTT) ที่ปรับเพิ่มขึ้นในวันนี้ว่า
เป็นเพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงมีผลให้ราคาหุ้น PTTเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน
แต่ทั้งนี้ เชื่อว่าราคาหุ้น PTT จะยังคงผันผวนตามราคาน้ำมันในตลาดโลกและปัจจัยอื่นรอบด้าน
ขณะเดียวกับที่มีควมเสี่ยงจากการถอดถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
หลังจากล่าสุด ศาลปกครองสูงสุดรับคำฟ้องเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว
[/color:1c370b3b85">
ราคาหุ้น PTT ช่วงนี้ยังมีความเสี่ยง เพราะถึงยังไงคงต้องรอความชัดเจนจากศาลฯก่อนว่าเป็นอย่างไร
เนื่องจากมีผลต่อการลงทุนและการตัดสินใจซื้อขายหุ้นในขณะนี้ นักวิเคราะห์ กล่าว[/color:1c370b3b85">

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า PTTอาจจะไม่ได้ถูกถอดถอนให้ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน
เนื่องจาก ปตท.เป็นบริษัทฯขนาดใหญ่ซึ่งมีผลต่อภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์ไทยพอสมควร
แต่ทั้งนี้คงต้องรอคำตัดสินจากศาลว่าเป็นเช่นใด[/color:1c370b3b85">

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนหุ้น PTT แนะนำให้ถือไปก่อน
แต่หากราคาขยับเพิ่มขึ้นก็หาจังหวะทยอยขายออกมาก่อน เนื่องจากยังมีความเสี่ยงอยู่
โดยมองว่าหุ้นเด่นในกลุ่มพลังงานขณะนี้ ได้แก่บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ หรือ BAFS
เนื่องจากได้ประโยชน์จากการขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิในช่วง 1 -2 ปีจากนี้
จะยังไม่มีคู่แข่งเด่นชัด ทำให้ BAFS มีผลประกอบการที่ดีขึ้น[/color:1c370b3b85">

โดยประมาณการผลประกอบการปีนี้ BAFS มีรายได้ 1,427 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 480 ล้านบาท
ส่วนปีหน้าผลประกอบการจะขยับเพิ่มขึ้นโดยมีรายได้ 2,144 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 580 ล้านบาท
โดยแนะนำซื้อ BAFS ได้ในราคาเหมาะสม 13.80 บาท[/color:1c370b3b85">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#4 วันที่: 15/09/2006 @ 10:00:37 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
* วงการ ไม่เชื่อ AOT-MCOT-THAI ติดร่างแห PTT ด้วย[/color:830e6746db">[/size:830e6746db">

เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า
มีความคิดเห็นว่าบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT,
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT
และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI
จะถูกฟ้องร้องให้ถอนถอดออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เหมือนกับกรณีของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT
เนื่องจากหากบริษัทฯ ดังกล่าวถูกถอดออกจากตลาดฯ
จะทำให้ความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยและนักลงทุนต่างชาติอาจจะชะลอการลงทุนได้[/color:830e6746db">

ทุกวันนี้นักลงทุนที่มีเงินเป็นพันๆล้าน ส่วนใหญ่เขาก็ชะลอการลงทุนในหุ้นของ PTT เพื่อรอดูความชัดเจนก่อน
เป็นใครก็ไม่กล้าเสี่ยง แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมมองว่า PTT ไม่น่าจะถูกถอนถอดออกจากตลาดเพราะมันเป็นเรื่องที่เลวร้ายเกินไป
และกรณีของ PTT ก็ไม่น่าที่จะลากหุ้นรัฐวิสาหกิจตัวอื่นไปด้วย แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว[/color:830e6746db">

ทั้งนี้หุ้นของ PTT, MCOT,THAI และ AOT มีมาร์เก็ตแคปรวมกันทั้งสิ้น 790,000 ล้านล้านบาท
หรือคิดเป็น 15% ของมาร์เก็ตแคปรวมที่อยู่ที่ 5 ล้านล้านบาท
โดย PTT มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 11.7%
MCOTมีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 26,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.5% ,
THAI มีมาร์เก็ตแคป อยู่ที่ 80,000 ล้านบาท หรือ 1.5%
และ AOT มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 84,000 ล้านบาท หรือ 1.65%
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com