May 3, 2024   10:55:49 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ปิติ?จัดระเบียบปั้น TPI
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 15/09/2006 @ 11:17:35
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

?ปิติ?จัดระเบียบปั้นTPI

--------------------------------------------------------------------------------

?ปิติ ยิ้มประเสริฐ? กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) เปิดแผนกู้ภาพ TPI เร่งดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติกลับคืนมา หลังประสบความสำเร็จตามแผนรีไฟแนนซ์หนี้ 950 ล้านเหรียญสหรัฐ มองภาระกิจสำคัญต่อไปต้องเร่งจัดระบบโครงสร้างรายได้ จัดระเบียบบริษัทย่อย และแผนงานการบริหารให้รัดกุมมีประสิทธิภาพมากขึ้น มั่นใจเห็นผลภายใน 1-2 เดือนนี้ ประเมินแล้วช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนลงได้ถึงปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เตรียมเดินสายโรดโชว์ในนิวยอร์คและลอนดอนในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อชี้แจงกันให้กระจ่างแจ้งถึงปัญหาที่สร้างความไม่มั่นใจในการเข้าลงทุน ตั้งเป้าแต่งตัวให้ TPI ให้ขึ้นแท่น
บริษัทชั้นนำภายใน1-2ปี ก่อนออกหุ้นกู้สกุลต่างประเทศวงเงิน 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TPI วานนี้(14ก.ย.) ปิดตลาดที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.69% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 379 ล้านบาท โดยในระหว่างชั่วโมงซื้อขายปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 7.40 บาท
นายปิติ ยิ้มประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) TPI ให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ ทันหุ้น ว่า แผนการดำเนินงานของ TPI ขณะนี้จะเน้นการเข้าไปบริหารจัดการ รวมถึงการจัดระเบียบการดำเนินงานในบริษัทย่อยเพื่อให้บริษัทย่อยดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวทางธุรกิจหลักตามบริษัทแม่ เพื่อลดต้นทุนของบริษัทลง ซึ่งคาดว่าหลังจากการปรับโครงสร้างธุรกิจการจัดการ จะช่วยลดต้นทุนลงได้อย่างต่ำประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับในช่วงที่ผ่านมาได้เริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหาร โดยเริ่มต้นใน 5 บริษัทย่อย ส่วนอีกกว่า 60 บริษัทที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะบริหารจัดการโดยการยุบบริษัท หรือนำมาควบรวมกัน หรือขายทิ้ง ซึ่งในอนาคตอาจจะทำให้เหลือเพียง 1-2 บริษัทเท่านั้น
ทั้งนี้คาดว่าภายหลังการจัดการบริษัทลูกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจหลักอาจจะสามารถรับรู้สินทรัพย์ซ่อนเร้นได้จำนวนมาก ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์รวมหลายแสนล้านบาท นอกจากนี้บริษัทจะนำเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ เข้ามาใช้ในระบบการดำเนินงานภายในบริษัทย่อยมากขึ้นเพื่อเน้นการทำงานที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ คาดว่าจะสามารถจัดการระบบการบริหาร และการดำเนินงานรูปแบบใหม่ได้ภายใน 2 ปี ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนในปี 2550 ที่จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายการบริหารจัดการที่ซ้ำซ้อนลงได้อย่างต่ำปีละ
1,000 ล้านบาท
ตั้งเป้าล้างหนี้ใน3-4ปี
ส่วนสถานะทางการเงินหลังจากรีไฟแนนซ์หนี้ในวันที่ 29 กันยายน 2549 บริษัทจะคงเหลือหนี้ระยะสั้น(Bridge Loan) จำนวน 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริษัทนำไปชำระหนี้เดิมจำนวน 950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยนำเงินจากกระแสเงินสดอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งหากบริษัทไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเชื่อว่าจะสามารถชำระหนี้ระยะสั้นได้หมาดภายในระยะเวลา 3-4 ปี โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมาบริษัทมีเงินสดประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท
?หากแผนการดำเนินงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จบ้างภายใน 1-2 เดือนนี้ จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้เราจะทำทุกอย่างเพื่อทำให้ TPI มีเครดิตและภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น? นายปิติ กล่าว
โรดโชว์เดือนหน้า
นายปิติกล่าวต่อว่า บริษัทวางแผนว่าในช่วงเดือนตุลาคมกันยายน บริษัทจะเดินทางไปนำเสนอข้อมูล(Fโรดโชว์)ในนิวยอร์คและลอนดอนเพิ่ม เพื่อช่วยให้นักลงทุนต่างประเทศมีความเข้าใจการดำเนินงานของบริษัทมากขึ้น ซึ่งยอมรับว่านักลงทุนต่างประเทศไม่ค่อยเข้าใจหลักการขอ L/C ของบริษัทซึ่งต้องสร้างความเข้าใจอย่างมาก แต่นักลงทุนในประเทศจะค่อนข้างเข้าใจมากกว่า ทั้งนี้การทำ L/C นั้นช่วยให้บริษัทมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้รับเครดิตที่ดีจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้แผนทั้งหมดเพื่อรองรับแผนออกหุ้นกู้สกุลต่างประเทศราว 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อายุไม่เกิน 10 ปี
คุมสต็อกน้ำมัน
ส่วนธุรกิจน้ำมันบริษัทจะเข้าบริหารจัดการสต็อกน้ำมันดิบอย่างมืออาชีพมากขึ้นโดยการลดสต็อกสินค้าจาก 2.8 ล้านบาร์เรล เหลือ 1.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในปี 2550 ถึง 1,000 ล้านบาท
โดยมองว่าสต็อกราคาน้ำมันที่มากเกินพอดีและราคาซื้อล่วงหน้าที่สูงเกินไปไม่เหมาะสมกับภาวะการปัจจุบันทำให้กำไรลดลง ดังนั้นหากสัญญาการสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าที่จะหมดอายุสัญญาในสิ้นปีนี้ บริษัทจะเข้าบริการจัดการใหม่เชื่อว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้จากต้นทุนซื้อน้ำมันดิบที่ 2 แสนล้านบาทต่อปี
ส่วนแผนการเข้า SET 50 ในปี 2550 ยอมรับว่าต้องรอดูความเป็นไปได้ก่อน เนื่องจากทางผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงกังวลเกี่ยวกับประเด็นการฟ้องร้องหลายกรณี โดยเฉพาะกรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ได้ยื่นร้องขอให้ศาลฯพิจารณายกเลิกคำตัดสินที่ให้ TPI ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา
ดังนั้นคงต้องจัดการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ซึ่งเบื้องต้นอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล
อย่างไรก็ตามสำหรับผลประกอบการปี 2549 บริษัทจะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งตามแผนการบริหารต่างๆที่บริษัทได้ปรับปรุงนั้นคาดว่าจะเริ่มเห็นผลบวกชัดเจนในปี 2550 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถสร้างผลกำไรได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี
พัฒนาการดี-มีลุ้นปันผล
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน) มองว่า TPI เกิดพัฒนาการทางบวกอย่างมีนัยสำคัญในปี 2549 และยังจะต่อเนื่องในอนาคต เริ่มตั้งแต่การหลุดพ้นจากแผนฟื้นฟูกิจการในเดือนเมษายน 2549 โดยอำนาจการบริหารงานใน TPI และบริษัทย่อยทั้ง 6 แห่ง กลับคืนสู่กลุ่มพันธมิตรใหม่โดยสมบูรณ์
และปลดเครื่องหมาย NC ออกจากหุ้น TPI ตั้งแต่ 6 กันยายน 2549
ส่วนการทำรีไฟแนนซ์หนี้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่ายในอนาคต ซึ่งล้วนเป็นการเปิดทางให้กลุ่มพันธมิตรสามารถใส่เม็ดเงินลงทุนเข้ามาในบริษัทเพื่อปรับปรุงและขยายงานใหม่ๆ ได้ ซึ่งจะทำให้ศักยภาพการทำกำไรของ TPI จะอิงกับผลการดำเนินงานที่แท้จริงมากขึ้น ซึ่งฝ่ายวิจัยได้ปรับปรุงประมาณการกำไรสุทธิปี 2549-2550 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยประเมินว่ากำไรสุทธิจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องได้ในปี 2549-2550 จากทั้งธุรกิจน้ำมันและปิโตรเคมีที่แนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ยังสดใสต่อเนื่อง
ฝ่ายวิจัยให้ราคาเป้าหมายคงเดิมที่ระดับ 9.00 บาท และเริ่มคาดหวังปันผลตอบแทนได้ในปี 2549 คงคำแนะนำเดิมให้?ซื้อ?
ผ่าน8บาทเปิดสัญญาณซื้อ
นางสาวภัทรวัลลิ์ หวังมิ่งมาศ นักวิเคราะห์เทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)KSEC กล่าวว่า สัญญาณการแกว่งตัวของ TPI ค่อนข้างดีแต่ยังถูกปัจจัยภาวะตลาดกดดัน แต่ทิศทางจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหากสามารถปรับตัวขึ้นผ่านระดับ 8.00 บาท จะส่งสัญญาณซื้อที่ดี แต่หากปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 7.10
บาท อาจจะแกว่งตัวลดลงมาทดสอบ 6.80 บาท
ส่วนกลยุทธ์ลงทุนสามารถซื้อเก็งกำไรได้ โดยราคาหุ้นจะแกว่งตัวในกรอบ 7.10-7.60 บาท
ดังนั้นสำหรับกลยุทธ์การลงทุนทางเทคนิคระยะสั้นในหุ้น TPI แนะนำซื้อเก็งกำไร โดยให้แนวรับ 7.10 บาท ส่วนแนวต้านแรก 7.40 บาท และแนวต้านถัดไป 7.60 บาท

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com