May 3, 2024   8:37:41 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ดัชนียืนเหนือ 700 รับข่าวเว้นวรรค
 

mrarthy
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 38
วันที่: 15/09/2006 @ 13:09:51
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

[b:013e344093">ดัชนียืนเหนือ 700 รับข่าวเว้นวรรค[/b:013e344093">

[b:013e344093">นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1.6 พันล้าน ลุยหุ้นแบงก์-ปูนใหญ่-พลังงานรับน้ำมันโลกพุ่งและข่าวนายกฯเว้นวรรค[/b:013e344093">

ดัชนีหุ้นรีบาวนด์ต่อ ยืนเหนือ 700 จุด หลังราคาน้ำมันโลกพุ่งดันกลุ่มพลังงานบวกถ้วนหน้า ผสมโรงกระแสข่าวนายกฯ เว้นวรรค ขณะที่ต่างชาติเข้าเก็บหุ้นใหญ่ ด้าน ดร.ทนง กล่อมนักลงทุนสถาบันทั่วโลกกว่า 1,000 คน มั่นใจหากพรรคไทยรักไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ดัชนีหุ้นจะเกิน 800 จุด ยอมรับนักลงทุนสอบถามปัญหาการเมืองและอนาคตนายกฯ มาก แต่ยังสนใจลงทุนหุ้นไทยต่อเนื่อง

ภาวะการซื้อขายหุ้นเมื่อวานนี้(14 ก.ย.) ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด จนไปแตะระดับสูงสุดที่ 707.76 จุด หลังจากนั้นก็แผ่วลงมาปิดที่ระดับ 701.97 จุดเพิ่มขึ้น 3.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 1.79 หมื่นล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศมียอดซื้อสุทธิ 1,642 ล้านบาท

ขณะที่นักลงทุนทั่วไปและสถาบันมียอดขายสุทธิ 1,413 ล้านบาทและ 228 ล้านบาทตามลำดับ หุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นและมีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น ยังเป็นหุ้นในพลังงานโดยเฉพาะปตท.และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ใหญ่ รวมถึงหุ้นบริษัทปูนซิเมนต์ไทย

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ดัชนีหุ้นได้ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันก่อนหน้า โดยดัชนีได้บวกทันทีที่เปิดตลาด แต่ช่วงท้ายก็มีแรงขายทำกำไรเกิดขึ้น ในช่วงที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดของวันคือ 707 จุด ประกอบกับราคาหุ้นหลายบริษัทปรับเพิ่มขึ้นชนแนวต้านระยะสั้น จึงทำให้มีแรงขายทำกำไรเกิดขึ้น นางวิริยา กล่าวว่าปัจจัยที่ทำให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นคือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับเพิ่มขึ้น เป็นผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับเพิ่มขึ้นจากข่าวดังกล่าว รวมทั้งหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่งได้รับผลดีจากการคาดหมายของอัตราดอกเบี้ยที่จะทรงตัว ทำให้เกิดแรงซื้อเข้ามาในหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ ?หุ้นกลุ่มพลังงาน และแบงก์ใหญ่ เป็นตัวที่ผลักดันดัชนีให้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อวานนี้ แต่เมื่อถึงจุด นิวไฮของวันก็มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง และหุ้นบางตัวก็ชนแนวต้าน?นางวิริยากล่าว

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันนี้ คาดว่าดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ระดับ 700-710 จุด โดยแนวรับแรกอยู่ที่ 700 จุด และแนวรับถัดไป 695 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 705 จุด และ 710 จุด โดยปัจจัยที่มีผลต่อดัชนีก็คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลก และต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งต้องเกาะติดสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากปัญหาการสไตรค์ของคนงานน้ำมันในไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดในทวีปแอฟริกา หนุนตลาดหุ้นไทยให้มีทิศทางดีขึ้น ขณะที่ปัจจัยการเมืองมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ดี มุมมองของภาครัฐและเอกชนที่คาดว่าการส่งออกในปี 2550 จะชะลอตัวลง อาจกดดันตลาดไม่ให้ปรับตัวขึ้นต่อได้แรงนัก จึงแนะนำนักลงทุนระยะสั้นให้ขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 702-704 จุด

ส่วนนักลงทุนระยะยาวให้ถือต่อ และรอซื้อหุ้นน้ำมัน ขนส่ง และธนาคาร เมื่อราคาอ่อนตัว นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบวกต่อได้จากวันก่อนหน้า ตามความคาดหวังต่อการเมืองที่คลี่คลาย หลังวันเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้น และข่าวที่ออกมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปต่างประเทศ เพื่อตัดสินใจอนาคตทางการเมือง ทำให้มีการเก็งกันมากขึ้น ถึงความเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรีจะเว้นวรรคหลังเลือกตั้ง ด้านราคาน้ำมันก็ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นอยู่ แม้ว่าจะปรับขึ้นมาแต่ไม่มากนัก ทำให้หุ้นอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง และขนส่ง ยังขึ้นได้ต่อ ดร.ทนงชี้นำดัชนีเกิน 800 จุด หากไทยรักไทยยังนั่งรัฐบาล

ดร.ทนง พิทยะ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างการประชุม Asean Finance Minister?s investor seminar ครั้งที่ 3 ที่ฮ่องกง ซึ่งมีนักลงทุนสถาบันกว่า 1,100 คน จาก 30 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมประชุมว่า ได้มีโอกาสชี้แจงถึงภาพรวมเศรษฐกิจของอาเซียน ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่ายังมีศักยภาพดี ควรส่งเสริมให้มีการลงทุนในอาเซียนมากขึ้น

สำหรับประเทศไทยนักลงทุนได้สอบถามถึงปัญหาที่ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง ซึ่งได้ชี้แจงว่า เกิดจากปัญหาราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างรุนแรง รวมทั้งสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย เนื่องจากไทยมีพื้นฐานการลงทุนที่ดี มีค่าพีอีเรโชในระดับต่ำ คือประมาณ 8 เท่า ขณะที่อาเซียนเฉลี่ยอยู่ที่ 12 เท่า โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่จะอยู่ใน 4 กลุ่มหลัก คือ โทรคมนาคม พลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ หรือเมกะโปรเจค ปัญหาการเมืองของไทย ได้มีการชี้แจงว่าสถานการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลายลง โดยจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนและนักลงทุนก็ไม่ได้ถอยออกจากตลาดหุ้นไทย แต่กำลังรอดูทิศทางการเมือง เห็นได้ชัดจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หากว่าปีนี้ไม่มีปัญหาการเมือง ดัชนีหุ้นไทยจะเกิน 800 จุดอย่างแน่นอน แต่จนถึงขณะนี้ยอมรับว่าคงไม่ถึงแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หากพรรคไทยรักไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ดัชนีหุ้นไทยจะทะลุ 800 จุดแน่นอน? ดร.ทนง กล่าว ส่วนกระแสข่าวการเว้นวรรคทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้ชี้แจงต่อนักลงทุนว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าสาเหตุของปัญหากลุ่มคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรี ส่วนหนึ่งเนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีความสามารถ ทำให้เป็นการยากที่พรรคการเมืองใดจะเอาชนะได้ ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็ได้ทำงานอย่างทุ่มเทมาโดยตลอด นอกจากนี้ นักลงทุนยังสอบถามถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดรับคำร้องของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่ขอให้พิจารณาถอดถอน บริษัท ปตท. ออกจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งได้ชี้แจงว่า กรณีของ ปตท.แตกต่างกับกรณีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เนื่องจาก ปตท.เป็นบริษัทจดทะเบียนแล้ว และมีนักลงทุนจำนวนมากเกี่ยวข้อง จึงหวังว่าศาลปกครองสูงสุดจะวินิจฉัยโดยไม่เกิดผลรุนแรงที่จะกระทบต่อนักลงทุน[/color:013e344093">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com