LALIN ?ซื้อเก็งกำไร?

--------------------------------------------------------------------------------

ตลาดในวันศุกร์แกว่งตัวแคบๆ และอ่อนตัวลงมาตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง มีหุ้นกลุ่มน้ำมันเป็นตัวฉุดตลาด กลุ่มที่โดดเด่นเป็นกลุ่ม Prop ทั้งกลุ่ม ที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะได้รับผลดีจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและกลุ่มที่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง SET สัปดาห์ที่แล้วปรับตัวขึ้นมาชนแนวต้าน High เดิมและ EMA 200 วัน บริเวณ 705 จุด แล้วยืนไม่ได้ กลับลงมาปิด GAP ที่เปิดไว้ที่ 700 จุด ถ้าจะขึ้นต่อ ต้นสัปดาห์นี้ต้องกลับไปยืนเหนือ 705 จุดให้ได้ จากปัจจัยทางการเมืองที่จะเริ่มมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรามีมุมมองทางบวก สำหรับวันนี้ SET มีแนวต้าน 705 แนวรับ 685
LPN ยอด Presales ของ LPN จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันนี้ จากการเปิดโครงการลุมพีนี เพลส ปิ่นเกล้า 2 มูลค่า 1,200 ล้านบาทและคอนโดมิเนียมจำนวน 523 หน่วย มูลค่า 964 ล้านบาทได้ขายหมดภายในช่วงเช้าวันศุกร์ที่แล้ว จากยอดซื้อที่แข็งแกร่งนี้ช่วยยืนยันปริมาณความต้องการคอนโดมิเนียมราคา 1-2 ล้านบาทต่อหน่วยได้เป็นอย่างดี ยอด backlog ของ LPN ปัจจุบันอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้จะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังปี 2549 จำนวน 2,760 ล้านบาท และปี 2550 จำนวน 5,370 ล้านบาท ซึ่งทำให้ 100% ของประมาณการรายได้ปี 2549 และ 88% ของประมาณการรายได้ ปี 2550 มีความแน่นอนแล้ว ทำให้เราเชื่อว่าการประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมควรประเมินจากผลประกอบการในปี 2550 เราจึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายมาอยู่ที่ 5.80 บาท จาก 4.70 บาท โดยราคาเป้าหมายใหม่ ของเราเทียบเท่ากับ PER 10.2x ในปี 2549 และ 9.2x ในปี 2550
[b:2288047d88">LALIN ช่วงนี้จะเน้นว่ากลุ่มอสังหาฯ เริ่มกลับมา trade กันคึกคักอีกครั้งแล้ว นำโดย AP LH LPN และ LALIN ซึ่งก็คงจะเล่นกันในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะ peak แล้ว ซึ่งก็จะเป็นจิตวิทยาในเชิงบวกต่อกลุ่มนี้ โดย LALIN นั้นมีสัญญาณทางเทคนิคที่ค่อนข้างโดดเด่น ราคาหุ้นนั้น break ผ่าน 4.70-4.72 บาทขึ้นมาได้พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เข้ามาสนับสนุนด้วย RSI ก็ทำ New high MACD และ Modified Stochastic ก็ดูดี ระยะสั้นมีโอกาสวิ่งขึ้นมาทดสอบ SMA 200 วันที่ 5.15 บาท แนะนำ ?ซื้อเก็งกำไร? ระยะสั้นสำหรับ LALIN[/b:2288047d88">


*** พิจารณาก่อนตัดสินใจนะครับ ***

seafco

SEAFCO ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานด้วยการขยายขอบเขตการรับงานมากขึ้น จากเดิมที่รับเฉพาะงานเสาเข็ม ได้เปลี่ยนมาเป็นรับงานเสาเข็มร่วมกับงานโครงสร้างฐานรากบางส่วน เพื่อให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น และทำให้รายได้และผลประกอบการเติบโตตามไปด้วย สิ้นเดือน มิ.ย. 49 บริษัทมีงานในมือถึง 1,446 ล้านบาท ซึ่งมากกว่างานในมือช่วงสิ้นปี 48 ถึง 88% งานของบริษัทเป็นงานที่มีช่วงเวลาทำงานที่สั้นเพียง 3-6 เดือน ทำให้บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ได้ตามเป้าหมาย บริษัทอยู่ระหว่างยื่นประมูลอีกหลายโครงการ ซึ่งในช่วงที่เหลือของปี 49 บริษัทคาดว่าจะได้รับงานประมูลอีกประมาณ 300-400 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา บริษัทมีงานใหม่เข้ามา 4 โครงการมูลค่า 115.09 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงครึ่งหลังปี 49 ประมาณ 80% และที่เหลือจะรับรู้ในไตรมาส 1/50 เราเชื่อว่าราคาหุ้น SEAFCO ได้ตอบรับข่าวร้ายของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างไปแล้ว ทำให้ราคาหุ้นที่อยู่ในระดับต่ำสุดได้ปรับขึ้นไปบ้างเพื่อตอบรับการฟื้นตัวของบริษัท อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นดังกล่าวยังไม่สะท้อนถึงการเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัท โดยปัจจุบันราคาหุ้น SEAFCO ซื้อขายที่ P/E ratio เพียง 7 เท่าของ EPS ปี 49 และ 6 เท่าของ EPS ปี 50 ขณะที่ P/E ratio ของกลุ่มอาคารสูงซึ่งเป็นลูกค้าสำคัญกลุ่มหนึ่งของ SEAFCO ซื้อขายที่ P/E Ratio ที่ 9 เท่า เราจึงประเมินราคาที่เหมาะสมของ SEAFCO ด้วย P/E Ratio ที่ 9 เท่าเช่นกัน ซึ่งจะให้ราคาเหมาะสมสำหรับปี 49 ที่ 5 บาท นั่นคือ ยังมี Upside Gain ถึง 33% จากราคาปัจจุบัน ดังนั้น เราแนะนำ ?ซื้อ? สำหรับ SEAFCO

.0000 .0000 ทดสอบเส้น 200 วัน เร็วจัง เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วจะยังไงต่อเนียะ 555555555

.000c .000c 55555 ก็ยังดีที่ปิด 5 บาท แต่อีกตัวดิ ถือมาหลายวันแระ เมื่อไหร่มันจะวิ่งกระจายบ้างอ่ะเนียะ 5555555555555 แต่มองโลกในแง่ดี มันก็ทำ new high ไปเรื่อยๆ แล้วนี่ .0009 .0009