April 29, 2024   11:15:31 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ผลตอบแทน
 

mrarthy
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 38
วันที่: 18/09/2006 @ 12:34:02
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

[b:03d890d7a7">ผลตอบแทน [/b:03d890d7a7">


การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องของเงิน อีกครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องของเวลา ที่กล่าวเช่นนี้เพราะในการลงทุนแต่ละครั้ง คุณต้องคำนึงอยู่เสมอว่า จะได้รับผลตอบแทนเท่าไร ในช่วงระยะเวลาใด

การลงทุนที่ประสบผลสำเร็จ คือ การที่คุณได้รับผลตอบแทนตามที่ตั้งความหวังไว้ในเวลาที่คุณต้องการ และการลงทุนจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมาจากเป้าหมายที่เหมาะสม สมเหตุสมผล ไม่มากไม่น้อยเกินไป เช่น ถ้าต้องการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนขนาดซื้อคฤหาสน์ราคา 20 ล้าน ได้ภายในสองปี ทั้ง ๆ ที่มีเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท อย่างนี้ถือว่าไม่สมเหตุสมผล แต่ถ้าด้วยเงินจำนวนเดียวกันคุณตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องได้ผลตอบแทนอีกหนึ่งเท่าตัวภายในเวลา 20 ปี อย่างนี้เรียกว่าความคาดหมายต่ำเกินไป เพราะเท่ากับว่าคุณต้องการผลตอบแทนเฉลี่ยไม่ถึง 5% ต่อปี

นอกจากนี้ ในการคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน คุณยังต้องคำนึงด้วยว่าเงินที่คุณมีอยู่หรือลงทุนไปไม่ได้มีค่าคงที่ ส่วนใหญ่เงินจะมีค่าลดน้อยลง หรือที่เรียกว่า เงินเฟ้อ นั่นเอง อัตราเงินเฟ้ออาจอยู่ที่ระดับ 2 - 4% ต่อปีหรืออาจมากกว่านั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ การตั้งเป้าหมายและการคำนวณผลการลงทุน คุณต้องคิดหักลบเผื่ออัตราเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นด้วย

ดังนั้น หากคุณได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับ 12% ต่อปี ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อขึ้นสูงถึง 4% ต่อปีในช่วงเดียวกัน ก็เป็นอันว่า คุณได้รับผลตอบแทนจริงๆเพียง 8% เท่านั้น และเป็น 8% ที่จะต้องถูกนำไปคำนวณในภาษีเงินได้ของคุณเสียด้วย (โปรดดูรายละเอียดเรื่องภาษีในบทแรกและภาคผนวก)

ในยามปกติ ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ควรคาดหวังผลตอบแทนไว้ที่ระดับ 12-15% ต่อปี หากทำได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรทีเดียว คุณอาจจะสงสัยว่า ถ้าได้ผลตอบแทนประมาณนี้สู้นำเงินจำนวนเดียวกันไปปล่อยกู้นอกระบบไม่ดีกว่าหรือ คำตอบก็คือคุณคงต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยว่ามากหรือน้อยกว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หากคุณยังสงสัยต่อไปว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำกับสถาบันการเงินอาจให้ผลตอบแทนต่ำกว่านี้ไม่มากนักแต่ดูเหมือนจะมีความมั่นคงมากกว่า คำตอบก็คือ คุณคงเห็นแล้วว่าสถาบันการเงินที่ใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือในการบริหารงานนั้นตั้งอยู่บนรากฐานที่ง่อนแง่นเพียงใด

แต่ถ้าคุณตั้งเป้าหมายอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่านี้ คุณคงต้องเตรียมตัวเตรียมใจทำการบ้านและหาข้อมูลมากหน่อย และทำใจยอมรับความเสี่ยงที่จะมีมากขึ้นตามมา คุณอาจเคยได้ยินว่ามีผู้ลงทุนบางคนได้รับผลตอบแทนในอัตราสูงหลายร้อยเปอร์เซนต์ เราขอบอกว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นข้อยกเว้นซึ่งมิได้เกิดขึ้นกับผู้ลงทุนทุกคน หรือไม่ก็เป็นตัวเลขยกเมฆ โดยทั่วไปผลตอบแทนในระดับ 30% ต่อปี ก็นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แล้ว

ในบรรดาผลตอบแทนที่เกิดจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ มีสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงอยู่สามประการคือ รายได้มูลค่าเพิ่มของทุน และ ความมั่นคง

[b:03d890d7a7">รายได้ (Income)[/b:03d890d7a7"> คือ ผลตอบแทนในรูปตัวเงินที่มีลักษณะสม่ำเสมอ ในระยะเวลาที่แน่นอน ได้แก่ ผลกำไรต่อหุ้นจากการประกอบการในแต่ละช่วง ดอกเบี้ยที่จะได้รับจากการซื้อพันธบัตรหรือหุ้นกู้ต่าง ๆ เป็นต้น

[b:03d890d7a7">มูลค่าเพิ่มของทุน (Capital Appreciation)[/b:03d890d7a7"> หมายถึง การเติบโตของมูลค่าการลงทุนตามระยะเวลาจากเมื่อแรกที่คุณลงทุนหุ้นสามัญในกิจการที่กำลังเติบโตรุ่งเรืองจะให้ผลตอบแทนในลักษณะนี้ได้ค่อนข้างสูง และผลตอบแทนที่คุณได้รับ ก็คือ ส่วนต่างหรือกำไรจากการขายหุ้นนั้นออกไปนั่นเอง หุ้นสามัญยังอาจให้ผลตอบแทนแบบเดียวกับรายได้ในรูปของเงินปันผล แต่ทั้งนี้อาจมีความไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับนโยบายการดำเนินงานและสภาวะการลงทุนของกิจการแต่ละประเภท

[b:03d890d7a7">ความมั่นคง (Safety)[/b:03d890d7a7"> ในการลงทุนทุกประเภท ผู้ลงทุนจะต้องคำนึงเสมอว่ามีความไม่แน่นอนประกอบอยู่ด้วยเสมอ ด้วยเหตุนี้ ผลตอบแทนที่คุณได้รับไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด คุณควรเผื่อที่ว่างสำหรับความไม่แน่นอนนี้ไว้ด้วย[/color:03d890d7a7">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com