April 29, 2024   3:19:55 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ฟังโบรกฯเขาแนะ"ซื้อ/ถือ"LH
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 19/09/2006 @ 13:48:07
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

.0006 .0006 .0006

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำ?ซื้อ?หรือถือหุ้นบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์(LH)แม้คาดกำไรปี 49 ปรับลดลงมาก จากการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกเนื่องจากปัจจัยลบหลายทางทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัญหาการเมือง อัตราดอกเบี้ยสูง กดดันยอดขายและมาร์จิ้นของบริษัท แต่เชื่อว่าปีหน้ากำไรของบริษัทจะฟื้นตัว หลังจากหันไปทำบ้านระดับกลาง-ล่าง จากเดิมที่เน้นแต่ระดับบน ทั้งนี้เพื่อสอดรับกับความต้องการของผู้ซื้อ พร้อมมีโครงการที่มีทำเลใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ

โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)

บล.นครหลวงไทย ซื้อ 9.10
บล.โกลเบล็ก ซื้อ 7.75
บล.ซิกโก้ ถือ 7.60
บล.เอเชียพลัส ถือ 7.25
บล.ซีมีโก้ ทยอยขาย 5.20

น.ส.ธาริสา ชัยสุนทรโยธิน นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย มองหุ้น LH เป็นหุ้นที่ยังน่าสนใจลงทุนในระยะยาวได้ หลังจากปัจจัยราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย ลดความกดดันลง โดยเฉพาะการทรงตัวของอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มตัดสินใจซื้อบ้านเร็วขึ้น ซึ่งการที่ LH เป็นผู้ประกอบการที่มีบ้านพร้อมขายจำนวนมากถือว่าได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องความพร้อมของการส่งมอบ การโอน รวมถึงการรับรู้รายได้

ทั้งนี้การที่มีการบันทึกบัญชีใหม่ด้วยการบันทึกต้นทุนทั้งบ้านที่กำลังก่อสร้างและต้นทุนที่ดิน ทำให้คาดว่า LH จะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเท่ากับเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ 32% ต่ำกว่า 33.7% ในปี 2548 ดังนั้น ปัจจัยของอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง ประกอบกับยอดขายที่ชะลอตัวในครึ่งแรกปีนี้ ส่งผลให้กำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะลดลง 27%

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นอีกครั้งในปี 2550 จากความสำเร็จของโครง
การที่เปิดขายโดยเฉพาะรอบสนามบินสุวรรณภูมิ

LH ถือเป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโดดเด่นในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง แม้ในปีนี้ผลประกอบการจะปรับตัวลดลง 15% วิ่งสวนทางกับผู้ประกอบการรายเล็กอื่นๆ ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 13-15% สาเหตุหลักเกิดจากการรายได้ส่วนใหญ่ประมาณ 80-90% เป็นรายได้จากบ้านเดี่ยว และมี Backlog จากโครงการคอนโดมิเนียมเพียงเล็กน้อยจึงได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่ายอดขาย LH จะเริ่มพื้นตัวในปี 2550 และจะมีอัตราการเติบโต 17% ซึ่งมาจากความมั่นใจผู้บริโภคเริ่มกลับมา นักวิเคราะห์จากบล.นครหลวงไทยกล่าว

น.ส.วิลาสินี บุญมาส่องแสง นักวิเคราะห์บล.โกลเบล็ก มองราคาเป้าหมาย LH ปีนี้ 7.75 บาท แต่ปี 2550 ราคาจะเพิ่มขึ้นมาที่ 9.70 บาท เนื่องจากมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงกว่า 90% ทำให้ระยะยาวจะให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องปีละ 5% และการที่ครึ่งแรกปีนี้อสังหาริมทรัพย์ธุรกิจชะลอตัวอย่างมากจากเศรษฐกิจแล้วจึงมองว่าในครึ่งหลังจะเติบโตได้

จากอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอลงในช่วงต้นปี บริษัทได้มีประมาณการใหม่ทั้งยอดขายและกำไรในปีนี้ชะลอลง หลังจากยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน 21% ประกอบกับปัจจัยลบที่ยังมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาการเมือง

บทวิจัยของบล.ซิกโก้ แนะนำเพียงถือเท่านั้นจากปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น โดยมองว่าภาวะราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูง และมีความผันผวนในตลาดโลก ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อในขณะนี้ และหากมีการปรับตัวขึ้นอีกจะกระทบกับตลาดที่อยู่อาศัยโดยตรง

อย่างไรก็ตาม การที่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีอยู่ แต่ความสามารถในการซื้อลดลงนั้น ส่งผลดีกับแผนของ LH ที่ปรับมาเปิดโครงการระดับกลาง-ล่างในครึ่งหลังปีนี้ จากเดิมเน้นระดับบน ขณะเดียวกันฐานะทางการเงินถือว่าแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E)ในครึ่งแรกปีนี้ที่ 0.4 เท่าลดลงจาก 0.5 เท่าในปีก่อน จึงยังลงทุนได้เพิ่มขึ้นและเชื่อว่าจะสามารถรักษา D/E นี้ต่อไปได้

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม นักวิเคราะห์บล.เอเชียพลัส ประเมินหุ้น LH แนะนำให้ถือ จากการที่เราได้ปรับลดประมาณการกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้ลง 4.5% จากเดิมมาอยู่ที่ 4.22 พันล้านบาท เกิดจากการปรับลดรายได้จากการขายลง 5.8% รวมทั้งปรับลดอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Margin)ลงมาที่ 32.93% และการปรับลดรายการดอกเบี้ยจ่ายลงตามนโยบายทางบัญชีที่ปรับเปลี่ยน

ส่วนนักวิเคราะห์ บล.ซีมีโก้ กล่าวว่า หากประเมินหุ้น LH ในส่วนของบริษัทคงให้ทยอยขาย ภายใต้ความไม่มั่นใจผู้บริโภคยังคงกดดันให้ชะลอการตัดสินใจซื้อที่พักอาศัยโดยเฉพาะบ้านระดับกลางถึงสูง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของบริษัท และราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 2549 ที่สูงถึง 23 เท่า ซึ่งถือว่าสูงมาก

ถึงแม้ LH จะมีแผนการเปิดโครงการใหม่อีก 8 โครงการมูลค่า 17.9 พันล้านบาทในครึ่งปีหลังซึ่งเน้นระดับราคา 3-4 ล้านบาทต่อยูนิตก็ตาม แต่อัตรากำไรขั้นต้นก็ปรับลดลงตามต้นทุนทางอ้อมที่สูงขึ้นเพราะฐานรายได้ที่ลดลงประกอบกับการตัดขายคอนโดมิเนียมที่อยู่ทำเลไม่ดี

นอกจากนี้ ไตรมาสนี้ไม่มีกำไรจากการลงทุน ขณะที่กำไรตามวิธีส่วนได้เสียปรับตัวลดลง 45% และมีการเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีตามส่วนได้เสียจากกองทุนอสังหาริมทรัพย์แลนด์แอนด์เฮาส์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์

ดังนั้น จึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2549-50 ลง 20-24% เพื่อสะท้อนยอดขายและมาร์จิ้น และกำไรจากเงินลงทุนที่ต่ำกว่าคาด โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 2549 เท่ากับ 3.3 พันล้านบาทลดลง 36% เนื่องจากยอดขายที่พักอาศัยชะลอตัว และต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้น แต่ปรับราคาเพิ่มไม่ได้ และปี 2550 คาดว่ากำไรสุทธิเท่ากับ 3.8 พันล้านบาทเติบโต 16% จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภค ขณะที่บริษัทเน้นการเปิดโครงการใหม่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาทต่อยูนิตที่สอดคล้องกับกำลังซื้อผู้บริโภคที่มากขึ้น[/size:189b8e80a9">[/color:189b8e80a9">



.0003 .0003 .0003

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 19/09/2006 @ 21:10:41 : re: ฟังโบรกฯเขาแนะ"ซื้อ/ถือ"LH
.000b .000b
[b:ae0e64b8f6">
สาธุ ......[/b:ae0e64b8f6">[/color:ae0e64b8f6">[/size:ae0e64b8f6">


ฟฟฟฟ2 ฟฟฟฟ2
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 19/09/2006 @ 22:13:35 : re: ฟังโบรกฯเขาแนะ"ซื้อ/ถือ"LH
เฮ๊อ... .0004 .0004 [/color:e65b7c1e3c">[/size:e65b7c1e3c">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com