April 29, 2024   5:04:08 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จเรรัฐ ทอล์คโชว์ธุรกิจมาร์เก็ตแคป "D1" 1 หมื่นล้าน
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 24/09/2006 @ 17:43:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ถ้าใคร ไม่เคยรู้จัก จเรรัฐ ปิงคลาศัย มาก่อน นั่งฟังเขา ทอล์คโชว์ ผ่านไป 1 ชั่วโมง จะนั่งหัวเราะพร้อมกับคิดว่า นี่มันโจ๊กธุรกิจชัดๆ..!!! ผ่านไป 2 ชั่วโมงเหมือนนั่งฟังนักการเมืองปราศรัย ใครฟังครบ 3 ชั่วโมง สติสัมปชัญญะจะรายงานว่า ขี้โม้ฉิบ..!!!นั่งฟังเขาพูด (คนเดียว) 3 ชั่วโมงเต็มๆ คิดอย่างไร?..คุณเป็นผู้ตัดสิน



การโตเร็วมีทางเดียวคือ ซื้อ ถ้าคุณ สร้าง ไม่มีทาง วันนี้การเป็นเถ้าแก่แล้วสร้างจากศูนย์ ชาติหนึ่งก็ไม่ได้ ต้องซื้ออย่างเดียวมันถึงจะโต..ไม่อยากคุยจริงๆ จะซื้อ 2 บริษัทต่อเดือนด้วยซ้ำ!!!

----------------------------------

จเรรัฐ ปิงคลาศัย เป็นนักสร้างฝันที่เก่ง และน่ายกย่องในระดับความสามารถ เขาเป็นยิ่งกว่า นักมายากล ที่สามารถเสกความว่างเปล่า (โครงธุรกิจไดอาน่า) ให้กลายเป็น ดราก้อน วัน ที่มีมูลค่า หลายร้อยล้านบาท ได้ภายในไม่ถึง 2 เดือน ทั้งๆ ที่ยังไม่มีธุรกิจอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง

โลกใบนี้เล็กเกินไปสำหรับชายผู้..ผู้คิดการใหญ่หวัง ปั้นฝัน ดราก้อน วันจากบริษัทระดับ ซูเปอร์จิ๋ว ด้วยขนาดมาร์เก็ตแคป 480 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (2550-2552) มังกรหมายเลข 1 จะต้องมีขนาดมาร์เก็ตแคป สูงกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันราวๆ 1,983 เท่าตัว

คุณเชื่อหรือไม่!!! กรุณาอย่าเพิ่งคิดคำตอบเวลานี้ เพราะคุณต้องฝันไปกับเขาเสียก่อน จึงค่อยกลับมาตอบคำถามนี้..กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ถามตรงแบบไม่อ้อมค้อม พร้อมบทสรุปที่ตรงกัน (กับจเรรัฐ) ว่า ระยะทางพิสูจน์ม้า..กาลเวลาพิสูจน์คน

๐ ย้อนความเดิม กำเนิด ดราก้อน วัน และยุทธวิธี การถอนทุน

จเรรัฐ ปิงคลาศัย ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น ดราก้อน วัน (D1) ชื่อเดิม ไดอาน่า ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2549 โดยซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม เนตร จันทรัศมี จำนวน 100 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.408 บาท (พาร ์1 บาท) คิดเป็นสัดส่วน 76.93% ของทุนจดทะเบียน

จากนั้นก็ออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (ตัวเอง) อีก 97 ล้านหุ้น ในราคาพาร์ 1 บาท รวมถือหุ้นทั้งสิ้น 197 ล้านหุ้น คิดเป็น 67.18% ของทุนใหม่ 293.20 ล้านบาท

สรุปว่า จเรรัฐ ลงทุนไป 2 ส่วน รวมกัน 137.80 ล้านบาท (ซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิม 40.80 ล้านบาท บวกกับซื้อหุ้นเพิ่มทุน 97 ล้านบาท)

หลังจากนั้นนับจากวันที่ 20 กรกฎาคม 2549 ถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2549 จเรรัฐ ทยอยขายหุ้น D1 ออกมา รวมกันทั้งสิ้น 105.46 ล้านหุ้น (ให้กับบุคคลมากกว่า 20 ราย และขายผ่าน ตลท.) ที่ราคาเฉลี่ย 1.25 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 131.58 ล้านบาท

เท่ากับว่าทุนที่ จเรรัฐ ลงไป จำนวน 137.80 ล้านบาท นั้น ถึงขณะนี้เขาสามารถ ถอนทุนคืน (131.58 ล้านบาท) ออกไปได้ทั้งหมดแล้ว ที่เหลือจึงเป็นกำไรล้วนๆ และทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงจากครั้งแรก 76.93% ล่าสุดเขาเหลือความเป็นเจ้าของใน D1 เพียง 30.87%

เมื่อจำนวนหุ้นของ จเรรัฐ ลดลง วิธีการเพิ่มมูลค่าความร่ำรวยให้กับตนเองต่อมา ก็คือ การจัดสรร ESOP Warrant ให้กับตัวเองจำนวน 117.60 ล้านหน่วย หรือ 78.40% ของที่ออกทั้งหมด (150 ล้านหน่วย) สามารถใช้สิทธิแปลงเป็นหุ้น D1 ที่ราคาต้นทุน 1 บาท

๐ ชอตต่อไปของ ดราก้อน วัน จะเป็นยังไงต่อไป

ตอนนี้ก็รอวันที่ 25 กันยายน 2549 ประชุมผู้ถือหุ้นให้มีมติ 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ 1.อนุมัติลงทุนในบริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส (เอ-โฮสต์) ที่มูลค่า 269.98 ล้านบาท 2.อนุมัติให้เพิ่มทุน PP อีก 200 ล้านหุ้น ที่ราคาอย่างต่ำ 2.50 บาท 3.อนุมัติ ESOP Warrant ของพนักงาน จำนวน 150 ล้านหน่วย

ชอตต่อไป ก็คือ ยื่นไฟลิ่งในนาม ดราก้อน วัน (ใหม่) ที่มีธุรกิจหลัก คือ เอ-โฮสต์ ใช้เวลา 30 วัน ระหว่างนั้น ตลท.จะเป็นเจ้าภาพเจรจา 3 ฝ่าย (ร่วมกับ ก.ล.ต.) เรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ ส่วนจะอยู่ใน SET หรือ mai ต้องหารือร่วมกัน ยังไม่มีข้อสรุป แต่ในมุมของผม D1 มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เข้า SET ได้อยู่แล้ว มันจะลงไป mai ทำไม! ทุนก็ถึง ผู้ถือหุ้นก็เกิน 1,000 ราย ธุรกิจหลักก็มี เอ-โฮสต์ ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ผ่านการพิจารณา

หลังจากนั้นนับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2549 เราก็จะรวมงบการเงิน เอ-โฮสต์ มาได้ เพราะฉะนั้นไตรมาสที่ 4 จะเห็นอนาคตของ D1 ชัดเจน ส่วนสตอรี่ในชอตต่อๆ ไป อะไรคือข่าวดีบ้าง อันแรกผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ซื้อ เอ-โฮสต์ ก็เป็นข่าวดี ข่าวดีต่อไป PP ออกมา จากนั้นภายในปีนี้ก็จะซื้อบริษัทที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 (อีก 3 บริษัท) ก็จะทยอยมีข่าวดีออกมาเรื่อยๆ เราจะมีข่าวดีออกมาทุกเดือน

๐ เรื่องติด ไซเลนท์ พีเรียด 65% พร้อมหรือไม่พร้อม

ทุกวันนี้บอกได้เลยว่าผมไม่พร้อมจะเอาหุ้นมาติดไซเลนท์ พีเรียด 65% (นานปีครึ่ง) ผมไม่เห็นด้วย และเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด เพราะจะเอาหุ้นที่ไหนมาติด แล้วกฎเกณฑ์ก็ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากยื่นไฟลิ่งแล้วจะหารือกัน 3 ฝ่าย วันนี้ ตลท.มีสิทธิคิด มีสิทธิพูด แต่มันยังไม่ใช่ข้อสรุป

หุ้น D1 ซื้อขายอยู่ทุกวันจะเอาหุ้นที่ไหนมาติดไซเลนท์ ถ้าคุณมามองในมุมของผมที่เข้ามากอบกู้บริษัท มันไม่ควรติด ห้างไดอาน่าก่อนที่ผมจะเข้าไปมันจะถูกดีลีท (ออกจากตลาด) อยู่แล้ว ราคาหุ้นเหลืออยู่ 0.28 บาท มาร์เก็ตแคปกว่า 20 ล้านบาท รายย่อยไม่มีอะไรเหลือ ผมมาช่วยฟื้นฟู มาทำให้บริษัทดีขึ้น ไม่เข้าใจว่า ตลท.ออกมา ขู่ ทำไม..มันไม่แฟร์ อย่างที่ออกข่าวว่าจะให้กองทุนติดไซเลนท์ แล้วใครจะมาลงทุน (ซื้อหุ้น D1) ฝรั่งได้ยินขำกลิ้งเลย ตลท.มีแนวคิดแบบนี้ไม่โปรเฟสชั่นนัล

ยิ่งออกข่าวมาว่าจะเข้าตรวจสอบหุ้น D1 ผมอ่านแล้วตลก ตลท.มีหน้าที่ต้องตรวจสอบหุ้นทุกตัวอยู่แล้ว แต่มาพูดว่าจะตรวจ D1 ตรวจ IEC พูดทำไม!!! ผมจ่ายภาษีให้คุณมาทำงาน จะมาป่าวประกาศทำไม..ไม่เข้าใจ

๐ วิธีที่คุณใช้เหมือน จับเสือมือเปล่า ดันราคาเสร็จก็ขายทิ้ง

ถ้าจับเสือมือเปล่าจะใส่เงินเป็น 100 ล้าน ทำไม! ผมขายหุ้น D1 ออกมา 106.50 ล้านหุ้น คุณไปคูณดูซิ! ขายที่กี่บาท เฉลี่ยที่ บาทเดียว ผมลงทุนไป 200 ล้าน นะคุณ ขายคืนได้เงินมาแค่ 100 ล้านบาท เอง ยังไม่ได้ทุนคืนเลย (จริงๆ คือขายออกมาแล้ว 105.46 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 1.25 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 131.58 ล้านบาท)

คุณรู้มั้ย! ผมลงทุน D1 ไปแล้ว 200 ล้าน ได้คืนมา ร้อยเดียว อีก 100 ล้าน ยังอยู่ ยังอยากได้มากกว่านี้อีก..ผมต้องได้เป็นพันล้าน ไม่ใช่ร้อยล้าน โธ่!เอ๊ย..โดนสื่อด่าทุกวันเงินแค่นี้ไม่คุ้มหรอก

พูดกันตรงๆ ขายหุ้นราคา 2 บาท ไม่อยากขายหรอกครับ กระจอกจะตาย รับรองหุ้น D1 ในอนาคตราคามากกว่านี้อีกเยอะ ผมรวยกว่านี้อีกเยอะ แค่ 100 ล้าน ไม่ทำให้ผมรวยหรอกครับ

๐ ทำไม!ราคา D1 ที่คุณขาย(ส่วนใหญ่)จึงต่ำกว่าตลาดตลอด

เพื่อนฝูงขอ คุณไม่ให้เขา (ในราคาพาร์) เหรอ! คุณไม่มีเพื่อนรึไง! ทำธุรกิจใครขอจะไม่ให้ใครเลย กูรวยอยู่คนเดียว ทำอย่างนี้ไม่ได้หรอกครับ เพื่อนกันขอแบ่งกันก็ต้องให้ ส่วนที่ขายหุ้น (ราคาตลาด) ผ่านตลาดหลักทรัพย์ คนเราต้องกินข้าว ต้องผ่อนบ้าน ไม่ขายหุ้นจะเอาอะไรกิน

ตลท.บอกว่า คุณต้องมีผู้ถือหุ้น 1,000 คน ถึงจะอยู่ได้ ไดอาน่า มีผู้ถือหุ้น 180 คน ถ้าผมไม่ขายหุ้นให้เพื่อนฝูงไปช่วยกันกระจายต่อ แล้วจะถึง 1,000 คนมั้ย!!

๐ ถ้าบริสุทธิ์ใจทำไม! เหลือหุ้นแค่ 30.87% ไม่ถือหุ้นมากกว่านี้

บริษัทมันเป็น มหาชน คุณจะไปถือหุ้นเยอะๆ ทำไม! คุณคอนโทรลเสียงข้างมาก (ถือเกิน 25%) ได้ ก็พอแล้ว ผมถือ 35% ไม่มีใครบล็อกโหวตได้ก็พอแล้ว คนเราทำธุรกิจมันก็ต้องหาประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินงาน ถือแค่นี้ก็พอแล้ว

๐ วิธีการที่คุณใช้กับ ดราก้อน วัน มันดูเหมือนคนไม่จริงใจ

ทุกวันนี้ผมจริงใจ ทุกคนมีสิทธิคิดว่าผมเตรียมตัวหนี เราเพิ่งเจอสื่อแค่ 2 เดือน ใครจะว่าอะไรก็ว่าไป สุดท้ายกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่าเป็นอย่างไร ถึงเวลานั้นพวกคุณอย่าเสียหน้าก็แล้วกัน

ทั้งชีวิตผมมีเงินเก็บแค่นี้ ผมทุ่มลงไปใน D1 หมดเลย แล้วคุณจะลงโทษคนที่เขาตั้งใจมากอบกู้บริษัทให้เขาติดไซเลนท์ 65% แล้วต้องไปยืมเงินคนอื่นมาใช้ ให้ผมขายหุ้นเอาเงินไปพักผ่อนหย่อนใจบ้าง ซื้อรถเบนซ์สักคันไม่ได้รึไง จะให้ผมอยู่ในคุก 18 เดือน..ไม่เป็นธรรม

๐ เป็นลูกจ้างมาตลอดชีวิตเอาเงินที่ไหน 200 ล้าน มาเทคฯดีวัน

โน! เงิน 200 ล้าน ไม่มี ผมมีเงินอยู่แค่ 80 ล้าน ผมซื้อหุ้น 48 ล้าน ใช้จ่ายค่าทนายความ ต้องจ้างนักกฎหมายด้านภาษี จ้างผู้ตรวจสอบบัญชี ต้องจ้างทีมผู้บริหารใหม่ทั้งทีม เพราะฉะนั้นทุนของผมที่ใส่ไปครั้งแรก 80 ล้าน ไม่ใช่ 48 ล้าน เงินซื้อหุ้นเพิ่มทุน 100 ล้าน ไปกู้แบงก์มา ที่ผมขายหุ้นออกไป (131.58 ล้านบาท) ก็เอาเงินไปคืนแบงก์ ถ้าผมต้องการเข้ามาปั่นหุ้น ไม่ต้องรอเพิ่มทุนหรอกครับ

๐ ออก ESOP ให้ตัวเอง 117.60 ล้านหน่วยรวยคนเดียวนี่ครับ

ผมเข้าไปฟื้นฟูบริษัทจากส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ เงินสดไม่มีเลย กำลังจะเข้ารีฮาฟโก้ วันนี้มีเงินสด 250 ล้าน ไม่มีหนี้เลย ผมทำให้หุ้นขึ้นจาก 0.28 บาท วันนี้เกือบ 2 บาท ผู้ถือหุ้นทุกคนได้กำไรหมด นี่ไง! ผลงาน ผมไม่ควรได้รางวัลชีวิตรึไง..ถ้าคุณบอกว่าไม่มีผลงาน ก็บ้าแล้ว (ถามกลับ) คุณถือหุ้น D1 รึเปล่า!! ถ้าไม่ได้ถือ คุณไม่มีสิทธิมาตอบแทนผู้ถือหุ้น พูดจริงๆ นะ บริษัทนี้ถ้าผมไม่อยู่ เจ๊งมั้ย..เจ๊ง!!! คุณให้ผมอยู่อีก 3 ปี (2550-2552) ผมจะทำให้บริษัทนี้แข็งแรง..คอยดู

๐ คุณตั้งใจจะบริหาร ดราก้อน วัน แค่ 3 ปีเองเหรอครับ

ผมถามว่าถ้าคุณเป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง คุณมองเห็นอะไรเกิน 3 ปีมั้ย! คุณทายไม่ถูกหรอก อนาคตอีก 3 ปี ยาวเกินไปแล้ว ถ้าเป็นไปได้ผมขอ ESOP Warrant ปีเดียวด้วยซ้ำ..ปัดโธ่! ผมขอ 3 ปีนี่ ถือว่าเป็นกลางมากแล้ว แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจว่าผมจะอยู่ 3 ปี อย่างต่ำ

เป้าหมายในชีวิตผม คือ สอนหนังสือ กับ ทำงานการเมือง ตั้งใจจะเกษียณจากธุรกิจตอนอายุ 50 ตอนนี้ 43 เหลืออีก 7 ปี แต่ก็เป็นไปได้ว่าจะไป(เล่นการเมือง) ก่อน..ผมชอบ!!!ไปแน่อยู่แล้ว แต่จะไม่เข้าไปอยู่ทัพหน้านะ (เป็น ส.ส.หรือ ส.ว.) จะไปทำงานเบื้องหลังอยู่ฝ่ายวิชาการ ทำงานเป็น Policy Man อยู่กองหลัง ไปเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี ใหญ่จะตาย เป็นทำไม ส.ส.

แต่ก่อนไปก็ต้องสร้างภาพไปเรื่อยๆ ว่า เราเป็นคนทำงานจริงจัง แก้ปัญหาได้ เพราะว่าการทำงานการเมืองคุณต้องมี อิมเมจ ผมต้องชูธงว่าเราเป็นเจ้าของบริษัทมหาชน (ดราก้อน วัน) ที่ประสบความสำเร็จ

ที่ผ่านมาผมเป็นนักธุรกิจด้วย เป็นนักการเมืองด้วย ผมเคยเป็นที่ปรึกษาประธานวุฒิสภา สุชน ชาลีเครือ 2 ปี (2547-2549) ดูแลฝ่ายต่างประเทศ ผมอยากเล่นการเมืองเลยไปอยู่กับท่าน

๐ BNT ใช่ของ พายัพ ชินวัตร มั้ย! ได้ยินว่าคุณ 2 คน ซี้กัน

BNT ใช้ของพายัพรึเปล่า..ไม่ทราบ! เพราะผมไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว ในชีวิตผมเจอเขาแค่ 2 ครั้ง ที่รัฐสภากับงานสันนิบาตชาติ ยืนยันด้วยความสัตย์จริง ผมเป็นเด็กวัด (เทพศิรินทร์) พูดอะไรไม่เคยโกหก ไม่เคยทำธุรกิจกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

๐ ที่บอกว่าจะเทคฯเดือนละ 1 บริษัทตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว

ตอนนี้รออยู่แล้ว 3 ตัว เพื่อนฝูงหาธุรกิจมาให้ (เทคฯ) เยอะแยะ ไม่อยากคุยจริงๆ จะซื้อ 2 บริษัทต่อเดือนด้วยซ้ำ!!! คุณอย่าคิดว่าทำไม่ได้ ทฤษฎี M&A ขั้นตอนมันไม่มีอะไรเลย ตอนอยู่ IEC (3 ปี) ผมซื้อไปแล้วกี่บริษัท ตอนอยู่ BNT อยู่ 4 เดือน ซื้อ 2 บริษัท (แชนแนล วี-บอกซ์ ออฟฟิศ) ผมเคยโชว์ให้พวกคุณดูแล้ว ถ้าผมซื้อ บจ.นวดิศ ออกมาสวยกว่านี้อีก ไม่ว่าผมอยู่ที่ไหนๆ ผมซื้อตลอด มันเป็นสไตล์ส่วนตัว เพราะการโตเร็วมีทางเดียวคือ ซื้อ ถ้าคุณ สร้าง ไม่มีทาง วันนี้การเป็นเถ้าแก่แล้วสร้างจากศูนย์ ชาติหนึ่งก็ไม่ได้ ต้องซื้ออย่างเดียวมันถึงโต

๐ โตเร็วไม่กลัวเจ๊งเหมือน ฟินวัน-เอ็นพาร์ค-ปิคนิค เหรอไง!

ฟินวัน-เอ็นพาร์ค เขาลงในบริษัทที่ไม่ดี ลงทุนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก เราคนละเรื่องกันเลย หลักการลงทุนของผมจะเน้นเฉพาะด้านไอที เป็น เทคโนโลยี โฟกัส แล้วจะลงทุนในบริษัทที่ 1. ต้องมีกำไร 2.ผู้บริหารแข็งแกร่ง 3.เป็นธุรกิจขาขึ้น 4.โปร่งใส ซื้อบริษัทที่ดีๆ มีกำไรแล้วจะเจ๊งได้ไง ธุรกิจต้องขาขึ้น ขาลงไม่เอา

คุณรู้รึเปล่า!! ดีวัน มีพนักงานแค่ 25 คน เองครับ เราเป็น โฮลดิ้ง คอมปะนี ไม่ต้องใช้คนมาก ธุรกิจจะ ร้อยล้าน หรือ หมื่นล้าน ก็ใช้คนแค่นี้ เหมือน วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไง เบิร์กไชน์ ฮาทธะเวย์ ไม่ต้องใช้คนมาก เรานั่งบอร์ดกำหนดนโยบายอย่างเดียว

๐ วางเป้าหมายมาร์เก็ตแคปหุ้น D1 ในใจไว้สักเท่าไร

ผมตั้งเป้าว่า 3 ปีข้างหน้า (2550-2552) ผมอยากให้ D1 ติดลิสต์ของนักลงทุนต่างชาติ ต้องเป็นหุ้นติดตลาด ต้องเป็นหุ้นบลูชิพท็อปในกลุ่มไอที เพราะฉะนั้นขั้นต่ำๆ มาร์เก็ตแคป ต้องเกิน 100 ล้านเหรียญ (4,000 ล้านบาท) และต้องมีปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาดเฉลี่ยต่อวันอย่างต่ำๆ 100 ล้านบาท กองทุนถึงจะลงทุนได้

แต่ถ้าถามวิชั่นผม ภายใน 3 ปี ผมอยากเห็นมาร์เก็ตแคปหุ้น D1 ในระดับ เทนบิลเลี่ยน หรือ 1 หมื่นล้านบาท ครับ Yes..Yes!!!(คุณฟังไม่ผิด)

๐ แล้วคุณจะเอาเงินที่ไหนมาลงทุนสร้างธุรกิจเป็นหมื่นล้าน

การระดมทุนของ ดีวัน เมื่อเราเป็น โฮลดิ้ง คอมปะนี ก็จะระดมทุนไปเรื่อยๆ จะหาเงินจากไหนมา มันมีอยู่ 9 วิธี..วิธีที่หนึ่ง..เพิ่มทุนไปเรื่อยๆ การเพิ่มทุนแบ่งเป็น 2 แบบ คือ เพิ่มแบบ RO กับ PP วิธีที่สอง..ออกเป็นหุ้นกู้ วิธีที่สาม..ใช้วิธีการสวอปหุ้น ไม่ต้องใช้เงิน วิธีที่สี่..เอาเงินลูก (เอ-โฮสต์) ซื้อหลานต่อ

วิธีที่ห้า..ให้ลูกออกหุ้นกู้ วิธีที่หก..กู้เงินจากแบงก์ (วิธีนี้จะไม่ใช้) วิธีที่เจ็ด..เอาลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์ ดีวัน ถือหุ้นแค่ 75% ก็พอจะได้เงินกลับมามหาศาลเลย วิธีที่แปด..ตั้งกองทุนแมทชิ่ง ฟันด์ ลงทุนคนละ 50:50 กับต่างชาติ

วิธีสุดท้าย..วิธีนี้สุดยอด บ้านเรายังไม่มีใครทำ ผมจะทำเป็นคนแรก คือ การออกหุ้นกู้แปลงสภาพ เลือกแปลงเป็นหุ้นบริษัทไหนก็ได้ ซึ่งในอนาคตจะมีหุ้นให้เลือกเป็นสิบๆ บริษัท

ทุกวิธีที่ผมบอกจะใช้หมด ยกเว้นวิธีเดียว คือ กู้เงินแบงก์ ส่วนการเพิ่มทุนของ ดีวัน จะไม่มีลิมิต เพิ่มทุนไปได้เรื่อยๆ คนรวยก็ยากรวยไปเรื่อยๆ ไม่เคยมีใครพอ Never Enough ครับ

นี่คือ..บางชอตจากปากนักล่าฝัน จเรรัฐ ปิงคลาศัย ที่บอกกับ ว่า ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้(ขี้)โม้ และไม่ได้ห้ามสื่อวิพากษ์วิจารณ์ ทุกอย่างให้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ก็แล้วกัน

กรุงเทพธุรกิจ BizWeek [/color:619e069c64">
---------------------------

 กลับขึ้นบน
arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
#1 วันที่: 24/09/2006 @ 19:54:06 : re: จเรรัฐ ทอล์คโชว์ธุรกิจมาร์เก็ตแคป "D1" 1 หมื่น
.000c .000b
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com