May 5, 2024   3:08:21 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ยุมิจังมาแว้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 29/09/2006 @ 11:21:55
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นเจ๊จิ๋ม...

พบกับ ยูมิจัง วันที่ 29 กันยายน 2549

****ท่าดี-ทีเหลวจริงๆ สำหรับ TIES หุ้นน้องใหม่ใสกิ๊กที่เพิ่งกระโจนเข้าเทรดวานนี้ แม้ช่วงต้นแรงจะดี แต่ไหงปิดเทรดหลุดราคาจองไปได๊ ! หล่ะเนี่ย ...แฮ่ม!ไม่บอกก็รู้นะว่าฝีมือใครเป็นที่ปรึกษาคงไม่พ้น เจ๊จิ๋ม สุวภา หัวหอกไอบีบล.ธนชาต ไม่ทิ้งฟอร์มเลยนะจ๊า........า หุ้นตัวไหนตัวนั้นที่เจ๊ดันเข้าเทรดวันแรก เปิดตลาดวิ่งกระจาย แต่ตอนปลายแรงแผ่ว...ท้ายสุดราคาหุ้นก้อหลุดต่ำกว่าราคาไอพีโอทั้งน้านนนนนนนนนน****
****ไม่จบไม่สิ้นเสียที IEC-BLISS ...แม้ว่ารอบที่แล้วบอร์ดของทั้ง 2 บริษัทจะมีมติออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อแลกหุ้นกันและกัน มาคราวนี้ BLISS ประกาศเพิ่มทุน 501 ล้านหุ้นขายพีพี 454 ล้านหุ้น ที่เหลือ 47 ล้านหุ้นเอาไว้ชำระค่าหุ้น ไออีซี โมบาย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ IEC ...มานั่งดีดลูกคิดดูแล้ว IEC จะถือหุ้น BLISS ทั้งทางตรง-อ้อม 37.19% งานนี้หนีไม่พ้นต้องยื่นทำเทนเดอร์ หรือไม่งั้น ป๋าสุมิท ต้องขอผ่อนผัน แต่ยูมิจังขอเดาว่าป๋าคงไม่ปล่อยโอกาสงาม-งามให้หลุดมือ ...เพราะความตั้งใจแต่เริ่มแรก ป๋าสุมิท เค้าอยากถือหุ้น BLISS 40% ใช่ม๊า-า-า-า****
****ไม่รุเป็นเทศกาลอาราย...ย ช่วงนี้บจ.ไหนก็ตบเท้าเพิ่มทุนไม่สนสถานการณ์ในประเทศตอนนี้เลย ...เหมือนเป็นสัญญาณที่ดีว่า บจ.หลายแห่งยังชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยว่ายังแจ่มก็ไม่รู้เน๊อ!! ...ล่าสุด HMPRO ประกาศเพิ่มทุน 960.8 ล้านหุ้น เสนอขายผถห.เดิม ...ยูมิจังแอบไปสืบมาให้แล้วว่า งานนี้ไดลูท 60% แหนะ แถมเซียนหุ้นยังกระซิบบอกมาว่า ผถห.เก่าทั้งหลายต้องใช้สิทธินะไม่งั้นขาดทุนจม ...แหม ก้อน่าใช้สิทธิอยู่อ๊ก เพราะเค้าจัดสรรให้ในสัดส่วน 1:1 ราคาแค่บาทเดียงเอง****
****หุ้นแบงก์รูดระนาว หลังพี่หรั่งใจร้าย CLSA แนะขายหุ้นแบงก์ไทยยกแผง ...พี่แกให้เหตุผลว่า หลังเกิดเหตุการปฎิรูปการปกครองฯอาจส่งผลให้ GDP ของประเทศชะลอตัว ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวตาม ...การปล่อยสินเชื่อจึงด๊อบ ...ยูมิจังขอเตือนว่า ฟังหูไว้หู ก็ดีนะ เพราะโบรกฯพี่ไทย หลาย-หลายแห่งยังยกนิ้วโป้งให้หุ้นแบงก์ เหตุว่าพื้นฐานแกร่ง-เศรษฐกิจไทยปีหน้าแจ๋ว หลังจากที่เบิกจ่ายงบประมาณปี 50 ได้เร็วกว่าเดิม ...ไม่รู้ว่าใครจะหน้า แ_กกันแน่นะเนี่ย****

 กลับขึ้นบน
arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
#1 วันที่: 29/09/2006 @ 11:26:27 : re: ยุมิจังมาแว้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
RRC ซื้อเก็งกำไร

--------------------------------------------------------------------------------

วานนี้ตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าตามตลาดต่างประเทศ แต่บวกได้ไม่นานก็มีแรงขายออกมาในกลุ่มธนาคารและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นแรงขายทำกำไรออกมาเพราะทั้งกลุ่มธนาคารและกลุ่มวัสดุก่อสร้างเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้ โดยทั้ง 2 กลุ่มนี้ลบไปประมาณ 2% ปัจจัยลบภายในประเทศมาจากความไม่แน่นอนว่าใครจะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ตอนนี้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีเริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ ในทางเทคนิคตลาดยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน และ 25 วันบริเวณ 694 จุด ทิศทางตลาดจึงยังไม่มีแนวโน้มจะกลับตัวเป็นขาขึ้น ประกอบกับ Volume ตลาดที่ยังน้อยอยู่ ดังนั้นการปรับขึ้นของตลาดจะอยู่ในกรอบที่จำกัด แนะนำเหมือนเดิมคือ ถ้าขึ้นมาใกล้ๆ 694 ให้ขายออกไปก่อน แนวรับที่ 682 จุด
กลุ่มพลังงาน เริ่มสัญญาณของการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินในกลุ่มธนาคารออกมา โดยไปเข้ากลุ่มพลังงาน สังเกตได้จากสัญญาณทางเทคนิคของกลุ่มธนาคารได้เกิดสัญญาณขาย และกลุ่มพลังงานมีสัญญาณซื้อ ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาจากบริเวณ low ของรอบที่ 60 เหรียญต่อบาร์เรลแล้ว โดยตัวใหญ่ๆ ในกลุ่มพลังงานในเครือของ ปตท. ยังคงเป็น top picks ของกลุ่มนี้ PTT มองจุดซื้อที่ 216 บาท เป้าหมายระยะสั้น 230 บาท PTTEP แนวรับบริเวณ 106 บาท short term target 112 บาท TOP บริเวณ 60-60.50 บาท แนะนำ ซื้อ โดยมีแนวต้านบริเวณ SMA 200 วันที่ 64 บาท RRC นั้นน่าจะยืนเหนือ 19 บาทได้ เป้าหมายระยะสั้น 20-20.10 บาท
RRC ราคาหุ้นที่ตกลงมาน่าจะสะท้อนค่าการกลั่นที่ปรับลงมาที่จุดต่ำสุด $2.54 ต่อบาร์เรลไปแล้ว ปัจจุบันค่าการกลั่นที่สิงคโปร์เริ่มปรับสูงขึ้นมาแล้ว แต่ราคาหุ้นยังไม่ขยับขึ้นมากนัก
เราคาดว่าค่าการกลั่นจะปรับเพิ่มขึ้นมาในช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นช่วง High season ประกอบกับแผนการเข้าซื้อ ATC ของ RRC น่าจะยังคงเกิดขึ้น เราแนะนำ RRC เป็นหุ้นโดดเด่นของเรา แม้ว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 3/49 ของ RRC อาจจะหดตัวจากผลกระทบของราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อมูลค่าน้ำมันในสต๊อก แต่การลดลงดังกล่าวจะถูกชดเชยด้วยการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีจากผลขาดทุนของ FX ในอดีต เรายังคงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร โดยให้ราคาเป้าหมาย RRC ที่ 26 บาท จากการคำนวณโดยวิธีต้นทุนทดแทน
 กลับขึ้นบน
arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
#2 วันที่: 29/09/2006 @ 11:27:36 : re: ยุมิจังมาแว้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
?กล้าพูดความจริง??

--------------------------------------------------------------------------------

สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินแห่งชาติแห่งที่ 2 ก็ได้เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเป็นทางการแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มเข้ารูปเข้ารอยกันบ้างแล้ว นักวิเคราะห์บอกว่าการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการเป็นไปได้ด้วยดี น่าจะเป็นการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยทีเดียว และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยอีกทางหนึ่ง ถึงแม้อาจจะมีข้อขัดข้องทางเทคนิคในด้านต่างๆ บ้างก็ตามที แต่เชื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบคงแก้ปัญหาให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ก็เป็นธรรมดาของของใหม่ละครับที่ต้องมีขัดข้องกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ คงพอรับกันได้นะครับ
ในวงการค้าหุ้นวันที่ 27 ก.ย. เป็นที่ฮือฮากันมาก เมื่อบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ไทยได้มอบหมายให้บิ๊กบอสของหน่วยงานกำกับดูแล ไปดูแลหน่วยงานใหม่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลการซื้อขาย โดยให้ไปทำเรื่องบรรษัทภิบาล มองดูผิวเผินก็เหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก แต่นักลงทุน นักเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทยไม่ยักคิดแบบข่าวที่ตลาดหุ้นไทยให้มาซะนี่
บ้างก็ว่าเป็นเพราะบิ๊กบอสของหน่วยงานกำกับดูแลท่านนี้เข้มงวดในเรื่องการซื้อขายหุ้นของนักลงทุน นักเก็งกำไรมากจนเกินไป จนเกิดการร้องเรียนขึ้นมามากมายเหลือเกิน บ้างก็ว่าผลของการที่ตลาดหุ้นไทยถูกผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายถึง 3 พันล้านบาท พ่นพิษใส่เข้าให้แล้ว สาเหตุก็เพราะการนำมาตรการห้ามซื้อขายแบบหักกลบลบหนี้ และห้ามการให้มาร์จิ้นในหุ้นบริษัทจดทะเบียนแห่งนั้นมาใช้หลายครั้งหลายหนจนเกินไป ในขณะที่หุ้นของบริษัทจดทะเบียนแห่งอื่นๆ ไม่ถูกมาตรการนี้เลย พูดง่ายๆ ว่าเป็นการ ?เลือกปฏิบัติ? นั่นเอง
ถึงแม้จะมีการชี้แจงมาจากผู้บริหารระดับสูงของตลาดหุ้นไทยว่า การย้ายผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานกำกับดูแลในครั้งนี้ เป็นเพราะจะให้ไปนั่งดูแลหน่วยงานที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อป้องกันการปั่นหุ้นเสียตั้งแต่ต้นน้ำ ไม่มีอะไรมาก จะได้ไม่ต้องไปแก้ปัญหาหลังจากเข้าซื้อขายแล้ว แต่พูดก็พูดเถอะ นักลงทุน นักเก็งกำไรทั้งหลายไม่ยักกะเชื่อตามที่ผู้บริหารตลาดหุ้นไทยชี้แจงมาแฮะ
แต่ผลที่เกิดขึ้นในทันทีทันใดก็คือ หุ้นที่ได้ชื่อว่าเป็นหุ้นเก็งกำไหรทั้งหลายดูกันคร่าวๆ ไม่ต่ำกว่า 50 ตัว วิ่งขึ้นตอบรับถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ้นไทยกันอย่างถ้วนหน้า ตั้งแต่ 5% ขึ้นไปทั้งนั้น หุ้นบางตัววิ่งขึ้นไปชนเพดาน 30% หรือซิลลิ่งหน้าตาเฉยเลย มิหนำซ้ำ Warrant บางตัววิ่งขึ้นไปเกือบ 100% ทีเดียว เอ! อะไรเกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทยหรือครับ? โดยเฉพาะในฝ่ายบริหารระดับสูง ?กล้าพูดความจิรง? กันบ้างไม่ได้หรือ ว่าอะไรเป็นอะไรครับเจ้านายทั้งหลาย!
 กลับขึ้นบน
arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
#3 วันที่: 29/09/2006 @ 11:29:53 : re: ยุมิจังมาแว้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เริ่มวันฝนตกอีกแล้วหรือ ?

--------------------------------------------------------------------------------

แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยระยะสั้นเริ่มส่งสัญญาณเตือนการปรับตัวอีกครั้งเมื่อดัชนีทดสอบแนวต้านบริเวณ 697 จุดแต่ไม่ผ่านและปรับลงมาปิดต่ำซึ่งเป็นสัญญาณในทางไม่ดีหากวันนี้ดัชนีทดสอบแนวต้านเดิมไม่ผ่านและปิดต่ำกว่าระดับ 685 จุดจะเป็นสัญญาณไม่ดีสำหรับตลาดปลายสัปดาห์

สถานการณ์เผาโรงเรียนในจังหวัดกำแพงเพชรเป็นเหมือนสัญญาณ ?ลองของ?
ครั้งแรกหลังจาก ครป.เข้ามามีอำนาจทางการเมืองในห้วงเพียง 2
สัปดาห์และอยู่ระหว่างการประกาศตัวนายกรัฐมนตรีเพื่อเข้ามาบริหารประเทศ
ดังนั้นหากเหตุการณ์ในจังหวัดกำแพงเพชรไม่ได้เป็นอุบัติ
แต่เป็นการสร้างสถานการณ์ก็อาจจะนำไปสู่การ ?คาดเดาเหตุการณ์?
ในเชิงลบมากกว่าเชิงบวก
และพฤติกรรมตลาดระยะสั้นมักจะแสดงออกมาในทางลบเช่นกัน

ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดที่ระดับ 687.90 ลดลง 5.13 จุด
โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 14,112 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่ราคาปิดเพิ่มขึ้นมีจำนวน 99 หลักทรัพย์ ลดลงมี 232
หลักทรัพย์
และอีก 103 หลักทรัพย์ราคาปิดไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนีสูงสุด 697.05
และต่ำสุดที่
687.72
ภาพการปิดของดัชนีอาจจะเป็นสัญญาณชี้นำตลาดในวันนี้ในทางลบมากกว่าทางบวก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทดสอบแนวต้าน 697 -700
อีกครั้งไม่ผ่านคาดว่าจะนำไปสู่การขายหุ้นเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนและลดความเสี่ยงในช่วงปลายสัปดาห์

ปัจจัยทางการเมืองระยะสั้นยังคงไม่นิ่ง
เพราะอยู่ในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาล
และคณะรัฐมนตรีใหม่ โดยภาระกิจสำคัญคือ
การสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
ขณะเดียวกันยังต้องรักษาความเรียบร้อยจากความขัดแย้งของกลุ่มอำนาจเก่าที่อาจจะยังไม่สงบดีนัก
เปรียบเหมือนไฟยังไม่สงบ
ดังนั้นทำให้เกิดปรากฏการณ์ของการคาดการณ์และคาดเดาสถานการณ์ในหลาย ๆ รูป
ซึ่งเมื่อมีการคาดการณ์ก็มีการปรับพฤติกรรมการลงทุนตามความเห็นที่เกิดขึ้นในใจ

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นจะเป็นไปอย่างเรียบร้อยที่สุดสำหรับเหตุการณ์ที่เรียกว่า
?รัฐประหาร? หรือ ?ปฏิวัติ?
แม้ว่าจะเรียบร้อยที่สุดขนาดขึ้นประวัติศาสตร์ในกินเนสท์บุ๊ค
แต่ไม่ได้หมายความว่า ?ภายใต้ความสงบไม่มีความเคลื่อนไหว? ตรงกันข้าม
อาจจะมีการต่อรองกันระหว่างกลุ่มอำนาจเก่าและอำนาจใหม่โดยอาศัย
?ความสัมพันธ์?
และ ?อำนาจเงิน? ตลอดจนผลประโยชน์เป็นเครื่องมือในการเจรจา

เป็นที่ทราบกันว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของกลุ่มอำนาจเก่าในประเทศนั้นมีจำนวนมหาศาลและมีหลากหลายรูปแบบ
เช่น ธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม สัมปทานต่าง ๆ
ส่วนอำนาจใหม่นั้นอยู่ในช่วงของการ ?จัดระเบียบ?
และหาหลักฐานเพื่อเป็นข้อพิสูจน์ถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในห้วงที่ผ่านมา
แต่เนื่องจากดูเหมือนว่าการดำเนินการเป็นไปอย่าง ?ละมุนละม่อม?
และเงียบเป็นพิเศษ ซึ่งต่างกับเหตุการณ์ในอดีตที่หัวข้อเหล่านี้มีการ
?จัดการอย่างเข้มข้น?
ดังนั้นหากนักลงทุนในตลาดหุ้นจะตั้งข้อสงสัยก็คงจะเป็นเรื่องปกติ

ส่วนนักลงทุนต่างชาตินั้น
คาดว่ายังคงดูท่าที่การเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลอยู่ห่าง
ๆ และคงมองว่าเป็นเรื่อง ?ปกติ?
ของประเทศกำลังพัฒนาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองต่างไปจากกฎเกณฑ์ปกติอยู่บ้าง
แต่ตลาดหุ้นก็ยังคงดำเนินกิจกรรมต่อไปตามปกติ ขณะที่ตัวแปรอื่น ๆ
ที่กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น เช่น ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง
และอัตราดอกเบี้ยที่นิ่งขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นที่เคลื่อนไหวในกรอบ 640
-780
ตลอดช่วง 9 เดือนเต็มที่ผ่านมาแต่ยังไม่สามารถฝ่ายืนเหนือ 700
จุดได้อย่างมีเสถียรภาพ อาจจะทำให้นักลงทุนมองว่าไตรมาส 4
อาจจะเป็นความหวังใหม่ก็ได้
?หากไม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองซ้ำรอยเก่าอีกครั้ง?

สำหรับเหตุผลสนับสนุนนั้น คาดว่าตัวแปรเรื่องน้ำมัน ดอกเบี้ย
และราคาหุ้นที่ค่อนข้างต่ำน่าจะเป็นเหตุผลเชิงบวก
นอกจากนี้ในช่วงปลายปีมักจะมีปรากฎการณ์หุ้นขึ้น
เนื่องจากจะมีแรงซื้อส่วนหนึ่งของนักลงทุนสถาบันกลับเข้ามา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่นำเงินมาซื้อหน่วยลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีในช่วงสิ้นปีเช่น
LTF RMF ซึ่งคาดว่าจะทำให้สภาพคล่องส่วนหนึ่งไหลเข้าตลาดหุ้น
แต่หุ้นที่จะได้อานิสงฆ์นั้นคาดว่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่มากกว่าหุ้นขนาดเล็ก
เนื่องจากอยู่ในเงื่อนไขและกฎเกณฑ์การลงทุนที่สามารถหาคำอธิบายในการลงทุนได้ง่ายกว่าหุ้นประเภท
Small Cap และประเภทเก็งกำไร
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com