May 5, 2024   11:16:47 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > รวยGENแล้วเลิก จับตาIECแจงลงทุนไม่เคลียร์-เอี่ยว 4 หุ้นร้อน
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 01/10/2006 @ 11:35:36
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

คาดเอาไว้ไม่มีผิด ทรงพนธ์ จันทรพันธ์ ไม่ได้ต้องการเข้ามาฟื้นฟู GEN อย่างบริสุทธิ์ใจ เมื่อรัฐบาลทักษิณสิ้นอำนาจ..หุ้นการเมือง วงแตก พลิกแผนทิ้งหุ้นฟันกำไร จับตา ไออีซี ข้อมูลลงทุนไม่เคลียร์สักเรื่อง ทั้งยังงุบงิบลงทุน 4 หุ้นร้อน MME PLE EVER ASL มีแววหุ้นถูกลากขึ้นมา ทิ้ง ปิดงบไตรมาสที่ 3



น้ำลดตอผุด การเข้ามาซื้อหุ้นใหญ่ บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEN) ของ ทรงพนธ์ จันทรพันธ์ เลขานุการส่วนตัว พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล หรือ เฮียเพ้ง อดีตรมว.คมนาคม และยังเป็นญาติของ พอฤทัย ชินวัตร ภรรยา พายัพ ชินวัตร เริ่มพบความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแล้ว

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549 ทรงพนธ์ เข้ามากวาดหุ้น GEN รวดเดียวจนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด จำนวน 93.50 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 19.61% โดยความร่วมมือของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม มีราคาสูงสุดที่ได้หุ้นละ 1 บาท แต่ต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 0.80-0.85 บาท ไม่เกินจากนี้

พบความเคลือบแคลงที่ว่า ทรงพนธ์ น่าจะเป็น นอมินี ของ นักการเมืองใหญ่ ระดับชาติ ทั้งยังเชื่อด้วยว่าเขาไม่ได้มีเจตนาเข้ามาฟื้นฟู GEN อย่างจริงใจตั้งแต่ต้น

ภายหลังมีการนำเสนอข่าว (ฉบับวันที่ 8-14 กันยายน 2549) ที่ระบุว่า ทรงพนธ์ เกี่ยวโยงกับ พายัพ-พงษ์ศักดิ์ จึงเหมือนกับการ แหย่รังแตน ข่าวแตกก่อนแผนจะสำเร็จ หลังจากนั้น ผู้บริหาร GEN (วิชญา จาติกวณิช และ กิตติชัย รักตะกนิษฐ์) ได้ติดต่อไปทาง ทรงพนธ์ เพื่อขอทราบวัตถุประสงค์การเข้ามาถือหุ้นใหญ่ และได้พยายามยืนยันกับสื่อมวลชนหลายฉบับว่า ฝ่ายบริหารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นเป็นใจ

ต่อมา วิชญา จาติกวณิช กรรมการผู้จัดการบริษัท ให้ข้อมูลกับ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek โดยเกริ่นกับ ทรงพนธ์ ว่า จะส่งคนเข้ามานั่งในบอร์ดมั้ย! อยากรู้เรื่องอะไรของบริษัทบ้าง! จะให้เราทำอะไรหรือไม่!

เขา (ทรงพนธ์) บอกเพียงว่าเอาไว้ก่อน ยังคิดไม่ออก ทุกอย่างไม่ได้รีบร้อน วิชญา กล่าวพร้อมทั้งยืนยันด้วยว่าผลประกอบการของ GEN ปีนี้จริงๆคือ ไม่มีเซอร์ไพรส์

คำยืนยันของ บิ๊ก GEN แทบจะฟันธง! ได้แล้วว่า เสนาธิการคนสนิท ของ 2 นักการเมืองรายนี้ เข้ามาแค่จัดฉากล่อรายย่อย..ไม่ถึง 1 เดือน นับจากวันที่ ทรงพนธ์ เข้ามาซื้อหุ้น GEN และเพียง 2 วันภายหลัง ลูกพี่ หมดสิ้นอำนาจบารมี

ล่าสุด ทรงพนธ์ กระหน่ำขายหุ้น GEN ออกมาแล้ว 74.56 ล้านหุ้น หรือ 15.64% ล่าสุดเขาเหลือหุ้น GEN เพียงแค่ 18.93 ล้านหุ้น สัดส่วน 3.97% หุ้นล็อตที่เหลือถ้าเดาไม่ผิดเขาน่าจะ ทิ้ง ออกมาในเร็วๆ นี้

และหากประเมินจากต้นทุนที่ได้มาเฉลี่ย 0.80-0.85 บาท คาดว่ารอบนี้ ทรงพนธ์ และ พรรคพวก จะทำกำไรหุ้น GEN เข้ากระเป๋า ไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 0.40-0.50 บาท เป็นอย่างน้อย

จบจากหุ้น GEN ก็มาถึงหุ้น บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจิเนียริง (IEC) ที่ร้อนแรงไม่ทิ้งกัน ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ไออีซี มีความเคลื่อนไหวอย่างน่าติดตาม โดยเฉพาะแผนการลงทุนที่เริ่มออกนอกลู่นอกทาง คล้ายๆ กับ ปิคนิค ในช่วงท้ายๆ ก่อนที่หุ้นจะ..ดิ่งลงเหว

ดีลต่างๆ ที่ ตลท.เปิดแผล ไออีซี พบข้อตำหนิที่ไม่เนียนในหลายเรื่อง ดีลส่วนใหญ่มีลักษณะเป็น บุฟเฟ่ต์ธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายคนรู้จัก หรือ Networking

อาจกล่าวได้ว่าเส้นทางการลงทุนของ ไออีซี ในธุรกิจผลิตเอทานอล และอีกหลายธุรกิจที่บริษัทซุ่มดำเนินการอยู่ ตามสคริปท์ธุรกิจหวังจะใช้สร้างสตอรี่ใน ไตรมาสที่ 4 แต่ ณ วินาทีนี้ต้องถือว่าเป็นสัญญาณสร้างราคาที่มี ความถี่ต่ำ มากๆ และอาจจะถูก หักล้าง ด้วยข้อครหา ไม่โปร่งใส ได้ง่ายกว่า

โดยเฉพาะโครงการซื้อขายต้นไม้ และโครงการสัมปทานเพื่อการเพาะปลูกพืช (ในกัมพูชา) โครงการนี้มีประเด็นที่ คาใจ มากกว่าที่จะเป็นข่าวดี

เฉพาะโครงการนี้มี 3 ประเด็นอวบๆ ที่ได้รับคำอธิบายค่อนข้าง ขี้เหร่

ประเด็นแรก..ไออีซี ซื้อขายต้นไม้ผ่าน บริษัท คริสตัล อะโกร ของ คนกันเอง แต่ปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ที่สำคัญกว่านั้น ธุรกิจขายโทรศัพท์ กับ ธุรกิจขายต้นไม้ มันคนละเรื่องเดียวกัน

ส่วนประวัติของ บริษัท คริสตัล อะโกร จดทะเบียนในประเทศกัมพูชา ถือหุ้น 100% โดย สุวิทย์ วิชชาวุธ ซึ่ง สุวิทย์ ผู้นี้แหละที่หนีคดีปั่นหุ้น KMC ร่วมกับ เสี่ยสอง จนคดีหมดอายุความ และเขาก็มีนามสกุลเดียวกันกับ สัณห์จุฑา วิชชาวุธ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไออีซี คนปัจจุบัน

ประเด็นที่สอง..ไออีซี จ่ายเงินให้ บริษัท คริสตัล อะโกร ไปก่อนทั้งจำนวน 60 ล้านบาท ทั้งๆ ที่สัญญาซื้อขายไม้ (ในเขตอำเภออุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา) มีอายุ 2 ปี หลังจากนั้นอีก 12 วันให้หลัง ก็ทำสัญญาขายไม้ต่อให้กับ บริษัท สยามสโตน อาร์คิเทค ในราคา 220 ล้านบาท (แบ่งจ่าย 7 งวด) มีกำไรทันที 160 ล้านบาท อะไรจะง่ายขนาดนั้น!!!

ส่วนประวัติของ บริษัท สยามสโตน อาร์คิเทค ก็เกี่ยวข้องกันอีก บริษัทนี้ถือหุ้น 99.99% โดย สยาม วัชรปรีชา ซึ่งคนๆ นี้ไม่เพียงถือหุ้น IEC อยู่ก่อนแล้ว 2 ล้านหุ้น หรือ 0.11% ที่บังเอิญอีก ก็คือ สยาม วัชรปรีชา คนเดียวกันนี่แหละ ที่ซื้อหุ้น D1 (ดราก้อน วัน) มาจาก จเรรัฐ ปิงคลาศัย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2549 จำนวน 9.06 ล้านหุ้น ที่ราคาพาร์ 1 บาท

เช่นเดียวกับญาตินายสยาม คือ สุรินทร์ วัชรปรีชา ก็ซื้อหุ้น D1 มาจาก จเรรัฐ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2549 จำนวน 1.5 ล้านหุ้น ที่ราคาพาร์ 1 บาท

ผู้ถือหุ้น IEC ต้องช่วยตรวจสอบว่าดีลนี้ ถ้าราคาหุ้น IEC และ D1 ไม่วิ่ง บริษัท สยามสโตน อาร์คิเทค ของนายสยาม จะมีเงินมาจ่ายให้ ไออีซี หรือไม่!!!

แต่ที่แน่ๆ ไม่ต้องวิเคราะห์ก็ฟันธง!ได้ว่า จเรรัฐ ปิงคลาศัย กับ สยาม วัชรปรีชา ต้องซี้กัน แล้ว จเรรัฐ เกี่ยวข้องอะไรกับ บิ๊กไออีซี ดูจากอดีตก็ไม่ต้องเดาให้เหนื่อย! เพราะ ตัวประกอบ ทั้งหมด น่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับอย่างตั้งใจ

ประเด็นที่สาม..ไออีซี ยังทดลองจ่ายเงินอีก 20 ล้านบาท ให้กับ บริษัท คริสตัล อะโกร ของ สุวิทย์ วิชชาวุธ นำไปลงทุนในโครงการปลูกมันสำปะหลังในกัมพูชา เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล โดยอ้างว่าในภายหลังจะแปลงเงินทดรองจ่าย 20 ล้านบาท เป็นหุ้นประมาณ 50% ใน บริษัท คริสตัล อะโกร

...นี่แค่ ชอตแรก ก็มีตำหนิ เพราะหาก ไออีซี ต้องการลงทุนในธุรกิจ เอทานอล ก็ควรจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ ทำไม!ต้องไปลงทุนผ่าน บริษัท คริสตัล อะโกร ของเครือญาติผู้บริหาร ไออีซี

ส่วนโครงการที่ ไออีซี ทำสัญญาขออนุญาตใช้โปรแกรม Mobile Casting ผ่านตัวแทนในประเทศไทย บริษัท ดีฟิวซ์ เทคโนโลยี เป็นเวลา 10 ปี มูลค่า 80 ล้านบาท ก็ถูกทาง ตลท.ตั้งข้อสังเกต แต่ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับประเด็นของการนำเงินของบริษัทไปลงทุนใน 4 หุ้นร้อน (MME PLE EVER และ ASL) ผ่านบริษัทในเครือ 2 แห่ง คือ บริษัท ไออีซี แอสเสท และ บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส

ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ไออีซี บันทึกผลขาดทุนในหุ้น MME สูงถึง 64.68 ล้านบาท จากต้นทุนที่ลงไป 91.04 ล้านบาท ทั้งนี้ ไออีซี นำเงินไปลงทุนในหุ้น MME มูลค่า 91.04 ล้านบาท หุ้น PLE ลงทุนมากที่สุด 224.64 ล้านบาท หุ้น EVER ลงทุน 23.55 ล้านบาท ส่วนหุ้น ASL ที่เคยมีมูลค่าเงินลงทุน 66.09 ล้านบาท ได้ขายล้างพอร์ตออกไปแล้ว

นักสังเกตการณ์ในแวดวงตลาดทุน ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า หุ้นทั้ง 4 ตัวที่ ไออีซี เข้าไปลงทุนล้วนเป็นเครือข่าย หุ้นการเมือง ที่กำลังถูก ตลท.เพ่งเล็ง ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ก๊วนการเมือง กำลังจับมือกันสร้างราคาขึ้นมา ปล่อยของ คาดว่า ไออีซี น่าจะผสมโรงขายหุ้น (บางส่วน) ออกมาแล้ว

-----------------------------------------

กรุงเทพธุรกิจ BizWeek[/color:a0785107e1">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com