ซื้อ PTTEP เป้าหมาย 123 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเชีย จำกัด แนะนำ ซื้อ PTTEP แหล่งสัมปทานปิโตรเลียมโอมาน 44 (Shams) เป็นแหล่งที่ PTTEP ถือ 100% คาดว่าจะมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 3,400 บาร์เรลต่อวันและก๊าซธรรมชาติในอัตรา 40 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในระยะเริ่มต้น และคาดว่า จะสามารถเพิ่มการผลิตได้มากขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดว่า จะช่วยเพิ่มปริมาณการขายอีกประมาณ 1 หมื่นบาร์เรลต่อวันให้ PTTEP ตั้งแต่ไตรมาส 4/2549 ซึ่งจะสามารถผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคตปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สูงทั้งความสามารถในการทำรายได้และกำไรสุทธิที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น PTTEP ราคาเป้าหมาย 123 บาทจากวิธี DCF คาดว่า โดยยังคงประมาณการกำไรปกติของปี 2549 ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 23.4% จากปีก่อน จากแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเฉลี่ยที่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงในปี 2549 และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2548

ซื้อ AH เป้าหมาย 19.6 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) แนะนำ ?ซื้อ? AH แม้ผลการดำเนินงานในปี 2549 ของบริษัท คาดว่าจะลดลง 22% จากปีก่อนจากผลกระทบการให้ส่วนลดราคาขายกับอีซูซุ แต่ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองในเชิงบวกต่อหุ้น AH จากแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2550 ที่คาดว่าจะกลับมาเติบโต 24.5% จากปีก่อนจากคำสั่งซื้อใหม่มูลค่า 1.1 พันล้านบาท และและการเรียกคำสั่งซื้อจากบริษัท Outsource กลับมาทำเองอีก 500 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้รายได้เติบโต 19.8% จากปีก่อนและอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 8.2% ในปี 2549 เป็น 8.8% ในปี 2550 รวมถึงการเข้าร่วมทุนกับหลายบริษัททั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความสามารถในการทำกำไรและแข่งขัน ซึ่งคาดว่าจะเข้ามีส่วนสนับสนุนผลการดำเนินงานในระยะกลางและยาว ราคาหุ้นมี Upside ประมาณ 19% จาก Fair price ปี 2549 ที่ 19.6 บาท

ซื้ออ่อนตัว RRC เป้าหมาย 24.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) แนะนำ ?ซื้อ? RRC แม้กำไรสุทธิไตรมาส 3/2549 คาดว่าจะอ่อนตัว ตามค่าการกลั่นที่ตกต่ำ ซึ่งเป็นไปตามที่คาด และราคาหุ้นปัจจุบันได้ปรับลดลงกว่า 10% จากราคาสูงสุดเมื่อ 8/8/49 ที่ 21.30 บาท ซึ่งน่าจะสะท้อนผลประกอบการที่ตกต่ำของไตรมาส 3/2549 ไปแล้ว แต่เนื่องจากค่าการกลั่นเพิ่งเริ่มฟื้นตัวและยัง
ผัน ผวนอยู่ ดังนั้นเพื่อให้การลงทุนในหุ้น RRC เป็นไปอย่างระมัดระวัง ฝ่ายวิจัยจึงยังคงคำแนะนำเดิมให้ ซื้อเมื่ออ่อนตัว ที่ราคาต่ำกว่า 19 บาท โดยราคาหุ้นปัจจุบันมี upside gain อยู่ 28% จากราคาเป้าหมายที่ 24.50 บาท โดยประเมินว่าค่าการกลั่นปัจจุบันเริ่มฟื้นตัวแต่ยังผันผวนโดยค่าการกลั่น(โรงกลั่นในตลาดสิงคโปร์) ได้ตกลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 2.54 เหรียญฯต่อบาร์เรลในช่วงต้นเดือน ส.ค.49 และปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 3.87 เหรียญฯต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 28 ก.ย.49 รวมทั้งค่าการกลั่นมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4/2549 จากความต้องการใช้น้ำมันเพื่อการทำความร้อน (heating oil) ที่เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล

ซื้อ BANPU เป้าหมาย 187 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด แนะนำ ซื้อ BANPU บริษัทรายงานผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำจากเหมืองทรูบาอินโดต่อตลาดหลักทรัพย์ทรัพย์เรียบร้อยแล้วโดยคณะผู้ตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซียสรุปว่าคุณภาพน้ำในบ่อดักตะกอนจำนวนทั้งหมด 10 บ่อของเหมืองทรูบาอินโดนั้นส่วนใหญ่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ยกเว้นเฉพาะบ่อดักตะกอน 1 บ่อที่ตรวจพบว่ามีสภาพความเป็นกรดค่อนข้างสูง อย่างไรก็ดี การปรับปรุงระบบบำบัดน้ำที่บ่อดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายอย่างมีสาระสำคัญ อย่างไรก็ตามผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำจากเหมืองทรูบาอินโดของ BANPU เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นข่าวนี้จะไม่มีผลกระทบต่อ BANPU ยังคงคำแนะนำ ?ซื้อ? และกำลังพิจารณาปรับราคาเป้าหมาย

เพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนถึงการยกเลิกภาษีส่งออกถ่านหินในอินโดนีเซีย เราเชื่อว่าการยกเลิกภาษีส่งออกถ่านหินอินโดเนีซียจะทำให้งบกำไรขาดทุน และกระแสเงินสดของ BANPU ปรับตัวดีขึ้น และมีแนวโน้มที่จะช่วยสนับสนุนให้เราปรับราคาเป้าหมายของ BANPU เพิ่มขึ้นสู่ระดับประมาณ 187 บาท

ที่มา ทันหุ้น





^_^