May 19, 2024   9:44:40 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จับตาทิ้งหุ้นไทยจองIPOแบงก์จีน โรงกลั่นสตาร์ฯเลื่อนเทรด
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 02/10/2006 @ 11:39:37
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

นักวิเคราะห์เตือนจับตา ต้นเดือน ต.ค.นี้ นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ขนเงินสดไปจองซื้อหุ้นแบงก์จีนที่จะเทรด 2 ตลาดทั้งฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ มูลค่าไอพีโอ 7.2 แสนล้านบาท


ประเสริฐ ยอมรับไม่รู้ชะตา โรงกลั่นสตาร์ฯ เข้าตลาดหุ้น รอคำตอบจากเชฟรอน ยันไม่มีแผนควบรวม MAI ตั้งเป้าออกบทวิเคราะห์ได้ไตรมาสแรกปีหน้า มั่นใจช่วยกระตุ้นฟรีโฟลต

น.ส.ธริศา ชัยสุนทรโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 1-15 ต.ค.นี้ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทยมีโอกาสปรับราคาลง เนื่องจาก Industrial Commercial BANK of China (ICBC) ธนาคารขนาดใหญ่ของจีน จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้พร้อมกัน (Dual Listing)

โดยเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 720,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยจะประกาศราคาไอพีโอ วันที่ 13 ต.ค.นี้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2548 China Construction Bank เสนอขายหุ้นไอพีโอ 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลง 2.61% และดัชนีกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับลดลง 4.10% ส่วนวันที่ 4 พ.ค.2549 Bank of China เสนอขายหุ้นไอพีโอ 9,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลง 10.49% และดัชนีกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับลดลง 9.91%

ดังนั้น มองว่าการระดมทุนของ ICBC ครั้งนี้จะส่งผลต่อหุ้นกลุ่มธนาคารของไทย เพราะต่างชาติจะต้องมีการโยกเงินจากภูมิภาคเอเชียไปลงทุนในหุ้นไอพีโอครั้งนี้ ซึ่งนักลงทุนจะต้องเริ่มระดมเงินก่อนนั้น 2 สัปดาห์ จึงน่าจะทำให้มีการเทขายหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือน ต.ค.

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (ปตท.) กล่าวว่า บริษัทเริ่มไม่แน่ใจถึงแผนนำโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง (เอสพีอาร์ซี) ขนาดกำลังผลิต 1.5 แสนบาร์เรลต่อวัน เข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในปี 2550 เพราะบริษัท เชฟรอน เท็กซาโก้ หรือคาลเท็กซ์ บริษัทแม่และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงกลั่นสตาร์ฯ ในไทย ยังไม่ติดต่อกลับมายัง ปตท.เกี่ยวกับอนาคตของโรงกลั่นดังกล่าว หลังการปฏิรูปการปกครองฯ

การเข้าตลาดฯ เป็นไปตามแผนหรือไม่คงต้องติดตามต่อไป คงไม่สามารถระบุได้ชัดว่าจะเข้าได้ในปีหน้าหรือไม่ นายประเสริฐกล่าว

ส่วนแผนควบรวมโรงกลั่นสตาร์ฯ กับโรงกลั่นอื่นๆ ในเครือคงเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้ง ปตท.และคาลเท็กซ์ไม่มีนโยบาย ประกอบกับโรงกลั่นแห่งนี้มีศักยภาพและสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง

นายอนนท์ ศิริแสงทักษิณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นโยบายและแผน ปตท.กล่าวว่า คงต้องรอข้อสรุปจากคาลเท็กซ์ก่อน แต่เบื้องต้น ปตท.ต้องการลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือไม่เกิน 25% จากปัจจุบัน 36% ส่วนคาลเท็กซ์ขอกลับไปทบทวนแผนโครงสร้างทางธุรกิจ ระหว่างควบรวมกับไม่ควบรวมจะมีผลดีผลเสียอย่างไร

ปัจจุบัน โรงกลั่นน้ำมันสตาร์ฯ มี ปตท.ถือหุ้น 36% คาลเท็กซ์ถือหุ้น 64% โดยแผนเดิมกำหนดเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้นปี 2550 เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาการสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่มีไว้กับรัฐ โดยช่วงแรก ปตท.จะลดสัดส่วนการถือหุ้นให้เหลือ 25% ส่วนคาลเท็กซ์จะลดการถือหุ้นให้เหลือ 45%

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ MAI กล่าวว่า ได้ตั้งเป้าหมายจะออกบทวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียนที่ซื้อขายในตลาด MAI ภายในไตรมาสแรกปี 2550 ตามที่นักลงทุนสถาบัน บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) ที่ต้องการมีข้อมูลเพื่อประกอบตัดสินใจการลงทุน คาดว่าจะช่วยกระตุ้นจำนวนหุ้นหมุนเวียนในกระดานซื้อขาย (ฟรีโฟลต) จากปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ

สำหรับแผนงานปี 2550 เบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายจำนวนบริษัทจดทะเบียนยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาด MAI ประมาณ 20-30 บริษัท ซึ่งจากการเดินสายพบกับผู้ประกอบการในต่างจังหวัดพบว่าหลายแห่งพร้อมจะยื่นไฟลิ่ง และเป็นบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี.


ที่มา Thaipost

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com