April 28, 2024   3:41:40 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นอหังสา ...
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 12/10/2006 @ 10:22:21
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน




คุณ โอภาส จาก อ.หาดใหญ่ สงขลา ถามมาว่า หุ้นอสังหาที่ทำโครงการที่อยู่อาศัยอาคารสูงในเมือง กับ หุ้นที่ทำอาคารสำนักงานใจกลางเมือง และหุ้นบ้านเดี่ยวราคาสูง อย่างไหนจะมีอนาคตของราคาหุ้นมากกว่ากัน

ถามอย่างนี้ ต้องดูรายละเอียดก่อนตอบมากนะครับ เพราะจะให้ตอบแบบเหมารวม มันจะดูหยาบเกินไป เอากันแต่เพียงกว้างๆพอเป็นแนวไว้ก่อนก็แล้วกันนะครับ

หุ้นอสังหาริมทรัพย์นั้น มีตัวแปรที่ต้องพิจารณาคือ พฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยและ ทำเลที่อยู่ของโครงการ รวมทั้งความสามารถในการขาย

สำหรับอาคารสำนักงานนั้น ย่านใจกลางเมือง ถือเป็นย่านที่มีความต้องการสูงและมีแนวโน้มค่าเช่าเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะที่อยู่ในเขตรถไฟฟ้าBTS และรุถใต้ดินวิ่งผ่าน ซึ่งมีความสะดวก ไม่ต้องเสียค่าน้ำมันเดินทาง ถือว่ามีโอกาสที่จะทำกำไรได้เรื่อยๆ แบบน้ำซึมบ่อทราย หุ้นบริษัทที่ทำธุรกิจนี้ จะไม่ค่อยหวือหวาหรอกครับ ดีไม่ดีจะนิ่งเอาดื้อๆ เหมาะสำหรับกินเงินปันผลนะครับ ไม่เหมาะสำหรับเก็งกำไร

ส่วนที่อยู่อาศัยจำพวกอพาร์ทเมนต์ หรือ คอนโดมีเนียม มีแนวทางต่างๆกันไปครับ ในเขตใจกลางเมือ คอนโดจะทำรายได้เร็ว และหวือหวา ในขณะที่หุ้นอพาร์ตเมนท์หากบริหารเก่ง สามารถเอากองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือ REITs เข้ามาช่วย จะทำให้ผลประกอบการเยี่ยมมาก ซึ่งเป็นแนวทางที่กำลังฮอตกันมากเลยครับ หุ้นจำนวนนี้ถือว่ามีอนาคตทีเดียว

ส่วนหุ้นบริษัทที่ทำโครงการแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวราคาแพงนั้น การขายขึ้นกับกำลังซื้อและภาวะเศรษฐกิจมากครับ ช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ความมั่นใจหดหาย ก็อาจจะส่งผลให้ขายยากหรือกำไรไม่สวย ดังนั้น จึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ต้องดูรายละเอียดโครงการอีกที เช่นช่วงนี้โครงการแถวสนามบินสุวรรณภูมิจะขายดี เพราะพนักงาน AOT และ การบินไทย จะย้ายกันไปอยู่แถวนั้นเยอะมาก(ในบริเวณที่มีปัญหามลพิษทางเสียงหรืออากาศต่ำ) ดังนั้น ต้องดูรายละเอียดในส่วนนี้ด้วย

รายละเอียดเหล่านี้ ก็คงจะพอช่วยให้มองเห็นภาพนะครับว่า ราคาหุ้นบริษัททำโครงการที่พักอาศัยคอนโดหรืออพาร์ทเมนต์จะมีแนวโน้มทำกำไรดีกว่าโครงการอื่นๆและราคาหุ้นก็น่าจะไปได้สวยกว่า

กระนั้น ก็คงอย่าคาดหวังว่าผมจะบอกว่า หุ้นตัวไหน มีโอกาสทำราคาดีกว่าตัวอื่นเพราะว่ากันตามจริง ถึงผมบอกไป โอกาสผิดก็มีสูงมากกว่าถูก เนื่องจาก ตัวแปรเรื่องการขึ้นราคาหริอลงราคาของหุ้นนั้น ยังมีตัวแปรอื่นประกอบด้วย ไม่ใช่แค่พื้นฐานผลประกอบการอย่างเดียวครับ


.0008





[/color:f5910060e2">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com