samjin
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352 |  วันที่: 12/10/2006 @ 10:54:07 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต
ไม่รู้ว่าเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย ที่วันนี้ปั๊มเจ็ต แบรนด์ดังของยักษ์ใหญ่โคโนโค่แห่งสหรัฐอเมริกา เตรียมยกธงขาวออกจากประเทศไทยเสียแล้ว
โดยจะขายทิ้งกิจการให้ปตท.
สำหรับคนใช้รถเดินทางออกต่างจังหวัด หรือกระทั่งในเมืองก็ตาม ผมว่ากว่า70-80% จะเลือกใช้บริการปั๊มเจ็ตมากกว่าปั๊มยี่ห้ออื่นๆ
เจ็ตสร้างแบรนด์จนได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วมากในประเทศไทย ก็เพราะห้องน้ำสะอาดเป็นอันดับ1 เป็นปั๊มที่กล้าลงทุน มีพนักงานคอยทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา
ความนิยมอันดับ2 น่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ที่มีของกินของใช้ที่ครบเครื่องกว่าใคร และอันดับ3 ก็คงจะเป็นเรื่องของภูมิทัศน์ สถานที่กว้างขวาง มีไม้ดอกไม้ประดับร่มรื่น เหมาะจะเป็นที่พักรถได้อย่างดี
ที่ผมจั่วหัวว่า ไม่รู้เป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย ก็ตรงที่ว่า หากปั๊มเจ็ตกลายเป็นปตท.ไปเสียแล้ว ห้องน้ำสะอาดๆ จะต้องหายไป กลายเป็นห้องน้ำสกปรกๆแบบดั้งเดิมกันต่อไปหรือเปล่า
ไม่ได้ว่าดูถูกปั๊มน้ำมันค่ายอื่นหรอกนะ เพราะธุรกิจค้าน้ำมันในประเทศไทยเราเวลานี้ ย่ำแย่กันไปทั้งบริษัทค้าน้ำมัน และสถานีบริการ
เส้นเลือดใหญ่ ที่จะอยู่ได้ก็คือ ค่าการตลาด ซึ่งความผันผวนของราคาน้ำมัน มีทั้งลอยขึ้นลอยลง บางครั้งค่าการตลาดทั้งระบบก็กลายเป็น0
ปั๊มน้ำมันหรือสถานีบริการ น่าเห็นใจที่สุด เพราะค่าการตลาด ล็อคไว้ที่ประมาณ 60ส.ต. สำหรับน้ำมันเบนซิน 95 ก็ลองคิดดู ราคาเบนซิน 95 ตอนนี้ ประมาณ 26 บาทกำไรเท่านี้ ก็แค่2%กว่า
เป็นการค้าที่มีมาร์จิ้นหรือผลกำไรต่ำมาก
เมื่อก่อนน้ำมันหน้าปั๊ม ราคาจำหน่าย 12-15 บาท ก็ยังได้ค่าการตลาดเท่านี้เดี๋ยวนี้เงินเฟ้อ ค่าครองชีพ ต้นทุนค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ แรงงานสูงขึ้นเท่าไหร่ ปั๊มน้ำมันก็ยังได้ค่ากำไรเท่านี้ แล้วจะไปมีแรงทำนุบำรุงปั๊มได้อย่างไร
เมื่อมาเจอเข้ากับนโยบายขึ้นเป็นคนสุดท้าย ลดราคาเป็นคนแรกของปตท.เข้าไปให้อีก ยักษ์ใหญ่ค่ายน้ำมันโลกก็ยักษ์ใหญ่เถอะ จะเอาอะไรมาสู้กับปตท.
ไม่ลดราคาตามปตท. หรือไม่ยอมตรึงราคาตามปตท. ก็จะต้องสูญเสียลูกค้าไปให้กับปตท. ฉะนั้นไม่แปลกหรอก ที่ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายจะโบกมือลาจากตลาดน้ำมันเมืองไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ ปั๊มQ8ของเศรษฐีคูเวต ก็ยอมขายกิจการไปให้ปิโตรนาสของมาเลเซียแล้ว
ตลาดน้ำมันไทย กลายเป็นตลาดปราบเซียนไปอย่างช่วยไม่ได้
ไม่ใช่ว่าปตท.ใจดีอะไรนักหนา แต่เพราะปตท. แม้จะแปรรูปเป็นบริษัทมหาชนไปแล้ว ก็ยังอยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาล รัฐบาลไม่ว่าแบบไหน จะประชานิยมหรือไม่นิยม ก็ต้องอาศัยปตท.เป็นเครื่องมือตรึงราคาน้ำมันทั้งนั้น
ฐานะปตท.ก็มีความพร้อมจะสนองนโยบายตรึงราคาเสียด้วย เพราะรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการค้าน้ำมัน ผลประโยชน์ใหญ่ของปตท.อยู่ที่การค้าแก๊ซ และรายได้จากบริษัทลูกที่เข้าไปลงทุนทั้งหลาย
เพราะฉะนั้น ปีที่แล้วปตท.ขาดทุนจากธุรกิจน้ำมันประมาณ 2 พันล้านบาท ก็ไม่สะเทือน ปีนี้อาจจะกำไรเพิ่มเข้าใกล้ 1 แสนล้านบาท หากจะขาดทุนจากธุรกิจน้ำมันอีกสัก 5 พันล้านบาท ก็ยิ่งไม่สะเทือนเข้าไปใหญ่
ไม่มีปตท.นี่สิ จะแย่กัน บริษัทค้าน้ำมันต่างชาติทั้งหลาย คงเชิดฉิ่งผลกำไรกันหวานปาก ไม่มีเสียหรอกจะได้เห็นQ8 โคโนโค่ ทะยอยเก็บของกลับบ้านกันอย่างนี้
มันถึงน่าสงสัยเสียจริงว่า เหตุใด ถึงมีคนไทยกลุ่มหนึ่งเอาแต่จ้องจะโค่นทำลายปตท. แทนที่จะส่งเสริมให้ปตท.ใหญ่โต กลับอยากเห็นปตท.เล็กลง โดยเรียกร้องให้เพิกถอนการแปรรูปปตท.
มีทั้งพวกรู้ดี แต่เจตนาร้าย และพวกดื้อตาใสอย่างเอ็นจีโอ ร่วมกันบ่อนทำลายชาติอย่างเมามัน
[/color:b6bdd1499c">
|
